นิคอนสร้างปรากฏการณ์ปั้นตลาดกล้องดิจิตอลในเมืองไทยต่อเนื่อง ล่าสุดกับการเปิดตัว D800 กล้อง SLR กลายเป็นประเด็นใหม่ที่จะกระแทกไปทั้งวงการ โดยเฉพาะกับผู้นำตลาดกล้องดิจิตอลเมืองไทยอย่างแคนนอน
การที่นิคอนเปิดตัวกล้องดิจิตอล D800 สู่ตลาดเมืองไทย กำลังกลายเป็นประเด็นที่ต้องจับจ้องถึงการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากกล้องรุ่นนี้ถือเป็นเรือธงของนิคอนในการเจาะตลาด ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของช่างภาพทุกระดับด้วยเทคโนโลยีการถ่ายภาพชั้นสูง
“เราคาดการณ์ว่าหลังการวางจำหน่ายกล้องนิคอนรุ่น D800 จะทำให้มาร์เกตแชร์ในกลุ่มของกล้องดิจิตอล SLR ของนิคอนขยับตัวสูงขึ้นมากกว่า 40% ของตลาดรวมภายในปี 2555 นี้”
เป็นคำกล่าวของ เคนจิ คุมากิ ประธาน บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิคอนตั้งเป้าขึ้นเป็นเบอร์ 1 ให้ได้ใน 3 เซกเมนต์ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหลังจากที่นิคอนเข้ามาตั้งบริษัทในประเทศไทยและทำตลาดเองในช่วงเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา นิคอนสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง โดยจากเมื่อก่อนมีแชร์คอมแพกต์ 1% ปัจจุบันเพิ่มเป็น 13% ดีเอสแอลอาร์จาก 15% เป็น 38% และมิร์เรอร์เลสที่เพิ่งเปิดตลาด ก็มีแชร์ 7% แล้ว ถือว่าเร็วมาก
หากมองกลยุทธ์ที่นิคอนจะใช้บุกตลาดในปี 2555 นี้ จะเพิ่มงบอีก 20% เพื่อตอกย้ำแคมเปญ “ไอ แอม นิคอน” ต่อเนื่อง รวมถึงแคมเปญการตลาดและอีเวนต์ที่จะเข้ามาเสริมทัพ ทั้งหมดจะช่วยให้นิคอนสามารถสร้างยอดขายและการรับรู้แบรนด์ได้มากยิ่งขึ้น
พร้อมทั้งยังจะมีการทุ่มงบให้กับเรื่องของมาร์เกตติ้งทุกรูปแบบ การกระตุ้นร้านค้าดีลเลอร์ให้เป็นส่วนสนับสนุนสำคัญในการเร่งยอดขายทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมถึงการวางสินค้าให้ครอบคลุมทุกความต้องการ และเน้นตลาดเชิงรุก ทำให้มีพื้นที่และตำแหน่งของแบรนด์ในแต่ละร้านค้าให้นิคอนมากขึ้น ที่สำคัญคือการตั้งราคาที่จูงใจ ออกมาทุกรุ่น สู้ได้กับทุกตลาดกับค่ายกล้องดิจิตอลอื่น
เคนจิ คุมากิ กล่าวว่า นิคอน D800 ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของช่างภาพมือสมัครเล่นที่ต้องการก้าวสู่การถ่ายภาพระดับมืออาชีพ รวมไปถึงบรรดานักถ่ายภาพมือถืออาชีพที่ต้องการกล้องดิจิตอล SLR ที่ให้คุณภาพและความละเอียดของภาพหรือพิกเซลที่สูงขึ้น ในขณะที่ตัวกล้องมีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบา จับถนัดมือ และไฟล์คุณภาพสูงเทียบเท่ากล้องระดับมีเดียม-ฟอร์แมต และยังสามารถตอบสนองผู้ใช้งานที่ต้องการบันทึกภาพยนตร์ความละเอียดสูงได้อีกด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อต้นเดือนมกราคม นิคอนได้เปิดตัวกล้องรุ่น D4 ซึ่งเป็นรุ่นชูธงของกล้องระดับโปรเฟสชันนัล และได้รับการตอบรับจากช่างภาพที่ต้องการกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง
เพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษให้ COOLPIX
นิคอนยังพยายามพัฒนากล้องดิจิตอลให้มีจุดขายด้วยการเพิ่มฟังก์ชั่นพิเศษในกล้องดิจิตอลซีรีส์ใหม่ COOLPIX AW
ทั้งนี้ นิคอนเลือกใช้แผนที่และข้อมูลจุดที่น่าสนใจ (POI) ของบริษัท NAVTEQ เพื่อลงในกล้องดิจิตอลซีรีส์ตระกูล COOLPIX ที่ออกแบบมาเอาใจผู้ที่รักการผจญภัยโดยเฉพาะ โดยกล้องดิจิตอลรุ่น AW 100 เป็นกล้องคอมแพกต์รุ่นแรกของนิคอนที่มีระบบกันน้ำ กันกระแทก และป้องกันความเย็น นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติพิเศษใหม่ๆ มากมาย รวมถึงระบบจีพีเอส เข็มทิศอิเล็กทรอนิกส์ และการแสดงแผนที่อีกด้วย
นิคอนมองว่าปัจจุบันผู้บริโภคมองหาช่องทางในการเชื่อมโยง location เข้ากับชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งข้อมูลเชิงลึกจากแผนที่โลกของ NAVTEQ จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้กล้องนิคอนสัมผัสประสบการณ์การบันทึกความทรงจำบนภาพถ่ายไปพร้อมกับสถานที่ที่สร้างความทรงจำนั้น
แคนนอนขยายตลาดใหม่
หากมองในฝั่งของแคนนอนวันนี้ แม่ทัพคนสำคัญอย่าง วรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานคอนซูเมอร์ อิมเมจจิ้ง แอนด์ อินฟอร์เมชัน บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ยังมีความมั่นใจว่าปัจจุบันแคนนอนยังสามารถครองตลาดภาพนิ่งได้อย่างแข็งแกร่ง
แคนนอนจึงพร้อมที่จะเปิดตลาดใหม่ด้วยการทำตลาดกล้องถ่ายภาพยนตร์เป็นครั้งแรกในเมืองไทย หลังจากเริ่มทำตลาดกล้องถ่ายภาพยนตร์ไปหลายประเทศ สำหรับตลาดกล้องถ่ายภาพยนตร์ในประเทศไทยถือว่ายังมีการเติบโตและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดล่าง เช่นโปรดักชั่นเฮาส์ต่างๆ กลุ่มผลิตงานภาพยนตร์โฆษณา กลุ่มทำภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์อินดี้ ที่ใช้วิธีการเช่าอุปกรณ์ เป็นต้น
แคนนอนจึงเปิดตัวกล้องถ่ายภาพยนตร์รุ่นแรก ซีเนมา อีโอเอสซี 300 กล้องแบบฟูลเอชดี ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ พร้อมชุดเลนส์อีก 7 รุ่น รองรับการทำงานได้ครบถ้วน
แคนนอนยังต่อยอดความสำเร็จในกล้องตระกูล PowerShot ด้วยการเปิดตัวกล้องดิจิตอลแคนนอน รุ่นใหม่ PowerShot S100 เน้นประสิทธิภาพสูงด้วยระบบป้องกันการสั่นไหวใหม่ล่าสุด Intelligent IS และเทคโนโลยี HS System ทำให้ผู้ใช้งาน
แคนนอน PowerShot S100 ยังมีวางจุดขายที่การติดตั้งระบบ GPS ในตัวกล้อง สามารถระบุพิกัดของภาพถ่าย และแสดงเส้นทางของทริปถ่ายภาพ และยังเพิ่มความสามารถในการบันทึกวิดีโอแบบ Full HD อีกด้วย เพื่อความสมบูรณ์แบบทั้งภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว
การขับเคี่ยวการทำตลาดกล้องดิจิตอลระหว่างนิคอนและแคนนอนนับจากปีนี้ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะสิ่งที่ทั้งสองค่ายปล่อยออกมาสู่ตลาด มีเป้าหมายอยู่ที่ยอดขายและการเป็นผู้นำตลาดแต่เพียงค่ายเดียว ที่สำคัญยังมีคู่แข่งขันรายอื่นๆ ที่พร้อมจะเป็นตัวตัดแต้มของทั้งสองค่าย ไม่ว่าจะเป็นค่ายโซนี่ พานาโซนิค ฟูจิ หรือแม้แต่ซัมซุง ที่พร้อมจะงัดผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ออกมาช่วงชิงตลาดกล้องดิจิตอลไทยเช่นกัน
จากการประเมินการขยายตัวของตลาดรวมกล้องปีนี้ กล้องคอมแพกต์จะโตมากกว่า 1.5 ล้านเครื่อง ดีเอสแอลอาร์ 1.2 แสนเครื่อง และกล้องมิร์เรอร์เลส 6 หมื่นเครื่อง โดยมีความเชื่อมั่นว่าตลาดกล้องมิร์เรอร์เลสจะมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านี้