Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน15 กุมภาพันธ์ 2555
'ปูนใหญ่'จับมือพันธมิตร             
 


   
search resources

ปูนซิเมนต์ไทย, บมจ.
Chemicals




ปูนซิเมนต์ไทย ดึงปิโตรเวียดนามและวีนาเคม ลงนามข้อตกลงการร่วมลงทุนโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์แห่งแรก ในเวียดนาม มูลค่าประมาณ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดดำเนินการได้ใน 4 ปี หวังเกิดประโยชน์ร่วมกันกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สำคัญและส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของเวียดนามได้อย่างดี

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เปิดเผยว่า เอสซีจี กาตาร์ปิโตรเลียมอินเตอร์แนชั่นแนล (Qatar Petroleum International - QPI) ปิโตรเวียดนาม (PetroVietnam - PVN) และวีนาเคม (Vinachem) ร่วมลงนามในข้อตกลงการร่วมลงทุนโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์แห่งแรกในเวียดนาม มูลค่าประมาณ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นธุรกิจปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกของประเทศเวียดนาม ซึ่งข้อตกลงร่วมทุนในครั้งนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะช่วยผลักดันธุรกิจไปสู่ความสำเร็จร่วมกัน โรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์นี้ มีมูลค่าประมาณ 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 140,000 ล้านบาท นับเป็นโรงงานปิโตรเคมีครบวงจรแห่งแรกของประเทศเวียดนาม ซึ่งจะช่วยประเทศเวียดนามทดแทนการนำเข้า และสร้างมูลค่าเพิ่มจากอุตสาหกรรมต่อเนื่องในประเทศ รวมทั้งส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของเวียดนาม เพื่อมุ่งสู่การเติบโตในอาเซียนต่อไป

ทั้งนี้ ในการดำเนินโครงการปิโตรเคมีจำเป็นต้องมีการจัดหาวัตถุดิบไว้ในระยะยาว เพื่อความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่เราได้พันธมิตรด้านพลังงานและปิโตรเคมีรายใหญ่จากตะวันออกกลาง คือ QPI มาร่วมดำเนินธุรกิจ โดย Qatar International Petroleum Marketing (TASWEEQ) ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดของกาตาร์ จะเป็นผู้ จัดหาวัตถุดิบโพรเพนและแนฟทาที่ใช้ในกระบวนการผลิตในอนาคต ขณะที่ PV Gas บริษัทลูกของ ปิโตรเวียดนามจะเป็นผู้จัดหาก๊าซอีเทน การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ จะช่วยเสริมความมั่นใจและเพิ่มศักยภาพการลงทุนธุรกิจปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ในเวียดนามให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ภายใต้ข้อตกลงการร่วมทุนดังกล่าว SCC จะถือหุ้น 28 % และไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ 18% ที่เหลือเป็นการถือหุ้นของ QPI ปิโตรเวียดนาม และวีนาเคม โดยหลังจากการลงนามข้อตกลงการร่วมทุน และการสรุปข้อตกลงด้านการเงินแล้ว คาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ในอีกราว 4 ปี

โดยโครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์นี้ มีกำลังผลิตโอเลฟินส์ 1.4 ล้านตันต่อปี ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงและทันสมัย โดยเป็นโรงงานที่มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนวัตถุดิบระหว่างก๊าซอีเทน โพรเพน แนฟทา และมีสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น ท่าเรือ คลังสินค้า และโรงไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ Downstream ที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึง โพลิเอททิลีน (PE) โพลิโพรไพลีน (PP) และไวนิลคลอไรด์ โมโนเมอร์ ( VCM ) ซึ่งผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เหล่านี้จะป้อนตลาดในประเทศเวียดนาม เพื่อรองรับความต้องการของประชากรประมาณ 90 ล้านคนในเวียดนาม

" โครงการปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์ของเรา จะนำเทคโนโลยีชั้นสูงและทันสมัย ที่มีมาตรฐาน ด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมในระดับสากล มาใช้ในกระบวนการผลิต โดยผลิตภัณฑ์ ที่ได้จะสามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศเวียดนามและในภูมิภาคอาเซียน " นายกานต์กล่าวเพิ่ม

สำหรับโรงงานปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์นี้ จะตั้งอยู่ที่เกาะ Long Son ในจังหวัด Ba Ria - Vung Tau ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม โดยจะอยู่ติดกับโครงการโรงกลั่นน้ำมันในอนาคตแห่งที่ 3 ของประเทศเวียดนาม และอยู่ใกล้กับตลาดเวียดนามทางตอนใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญห่างจากโฮจิมินห์ซิตี้ประมาณ 100 กิโลเมตร นอกจากนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สำคัญของเวียดนามหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์สินค้า ท่อพีวีซี กรอบโครงสร้างสำหรับงานวัสดุก่อสร้าง เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามได้เป็นอย่างดี

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us