โกดักเอเชียแกร่ง ไม่หวั่นบริษัทแม่เข้าแผนฟื้นฟู เดินหน้าลุยต่อเนื่อง บุกค้าปลีกเต็มสูบ มั่นใจดันรายได้เติบโตต่อเนื่อง
นายแอนดี้ คูเปอร์ รองประธานกลุ่มธุรกิจผู้บริโภค บริษัท อีสต์แมน โกดัก จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจถ่ายภาพภายใต้แบรนด์ โกดัก เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทแม่ที่อเมริกา ได้ยื่นขอคุ้มครองล้มละลายต่อศาลไปเมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อนำธุรกิจเข้าสู่แผนฟื้นฟูเป็นระยะเวลากว่า 1 ปี หรือประมาณไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี 2556 บริษัทจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูได้
“บริษัทขอยืนยันว่าการเข้าแผนฟื้นฟูครั้งนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของโกดักทั่วโลก เนื่องจากแผนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจในอเมริกาเท่านั้น และการเข้าสู่แผนฟื้นฟูครั้งนี้ ยังคาดว่าจะส่งผลให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในการเพิ่มความสามารถในการดำเนินธุรกิจในยุคดิจิตอลที่มีการแข่งขันกันรุนแรงได้”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจทั่วโลกนั้น ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจตามปกติโดยเฉพาะตลาดเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดที่สำคัญ จากปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากภูมิภาคดังกล่าวสูงถึง 20-21% และมีโรงงานผลิตสินค้าทั่วเอเชียอยู่จำนวน 6 แห่ง มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 4,000 คน ส่วนภาพรวมธุรกิจโกดักในประเทศไทยนั้น ในปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตดีมาก
แม้ว่าจะมีปัจจัยลบด้านภัยธรรมชาติ และมีกลุ่มสินค้าสมาร์ทโฟนเข้ามาตีตลาด ส่งผลให้การใช้กล้องดิจิตอลปรับตัวลดลง แต่โกดักประเทศไทยก็ยังมียอดขายที่ดี ซึ่งในปีนี้ก็มีแผนที่จะรุกทำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในขณะนี้
สำหรับรูปแบบการดำเนินธุรกิจนับจากนี้ บริษัทจะเน้นไปที่ธุรกิจรีเทลปริ้นติ้ง หรือธุรกิจล้างภาพถ่ายทั้งในส่วนของผู้บริโภคทั่วไป ลูกค้าพาณิชย์และองค์กร โดยในส่วนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีธุรกิจแล็บสีกว่า 2,000 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวตั้งอยู่ในประเทศไทย 320 แห่ง รวมถึงแผนเปิดตัวสินค้านวัตกรรมใหม่ๆเข้าทำตลาดอย่างต่อเนื่องในการนำเอาเทคโนโลยีด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คเข้ามาใช้ในธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นอย่างมาก
และจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องนี้ บริษัทมั่นใจว่า ภาพรวมธุรกิจจะยังคงดำเนินไปได้ตามปกติ โดยเฉพาะตลาดเอเชียยังคงมีความแข็งแกร่งและสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยกเลิกการทำตลาดสินค้ากล้องดิจิตอล กล้องวิดีโอ และกรอบรูปดิจิตอลออกจากตลาดทั่วโลก ที่คาดว่าภายในกลางปีนี้จะนำสินค้าออกจากตลาดได้ทั้งหมดหลังจากที่พบว่ากลุ่มธุรกิจดังกล่าว มียอดขายลงอย่างต่อเนื่อง เหตุเพราะผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจกับกล้องสมาร์ทโฟน เพราะสามารถแชร์รูปผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันทีหลังจากถ่ายรูป ซึ่งการยกเลิกทำธุรกิจดังกล่าวมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจ เพราะปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าดังกล่าวเพียง 5%