|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
สโนว์แบรนด์ประเทศญี่ปุ่น ส่งสัญญาณย้ำนโยบายในการจำหน่ายสโนว์แบรนด์ นมผงคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น สำหรับตลาด เด็กทารกในไทยเหมือนเดิม แม้จะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำท่วมอย่างหนักที่ผ่านมา ประกาศไม่มีนโยบายในการปรับราคาสินค้าขึ้น แม้ว่าจะต้องนำเข้านมผงแบ่งบรรจุจากออสเตรเลียมาจำหน่ายก็ตาม โดยยอมแบกภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวแทน พร้อมเดินหน้าทำการตลาดในไทยต่อด้วยเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาด 5% ภายใน 3 ปี
ฮิเดโตชิ อิเคไก กรรมการผู้จัดการ บริษัท สโนว์ แบรนด์ สยาม จำกัด ผู้นำเข้านมผงเด็กตราสโนว์แบรนด์ระบุว่า หลังจาก โรงงานแบ่งบรรจุได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้สต๊อกนมผงที่นำเข้าจากออสเตรเลียกว่า 100 ตันที่รอการบรรจุเสียหายประมาณ 17.5 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นได้กำชับนโยบายใน การจัดการให้ผู้บริโภคนมผงเด็กสโนว์แบรนด์ ได้รับสินค้าตามปกติ ให้ได้ เพื่อช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนนมผงเด็ก แม้จะต้องปรับกระบวนการผลิตและนำเข้าใหม่หมด คือ แบ่งบรรจุและนำเข้าโดยตรงจากโรงงานในประเทศออสเตรเลียภายใต้การกำกับดูแลคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีภาระต้นทุนที่สูงขึ้นกว่าเท่าตัว จนกว่าโรงงานแบ่งบรรจุในไทยจะสามารถกลับสู่สภาวะปกติได้ ซึ่งขณะนี้โรงงานอยู่ในช่วงซ่อมบำรุงและสั่งซื้อเครื่องจักรใหม่ คาดว่าจะเดินสายการแบ่งบรรจุได้ภายในไตรมาส 2 นี้ แต่ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่นก่อน
“แม้ความเสียหายและค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาจะมีมูลค่าสูงมากก็ตาม แต่นโยบายของบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นของ สโนว์แบรนด์ คือ การดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมที่ได้คุณภาพเช่นเดียวกับที่คนญี่ปุ่นได้รับยังคงเป็นเช่นเดิม ทั้งนี้เพื่อตอบแทนผู้บริโภคไทยที่เคยช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายในการปรับขึ้นราคาสินค้า สำหรับค่าใช้จ่ายและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะเป็นฝ่ายดูแลรับผิดชอบเอง ยืนยันว่าไม่มีการขึ้นราคาสินค้าแต่อย่างใด และเร่งการนำเข้าให้เพียงพอกับความต้องการของตลาดทั่วประเทศให้ผู้บริโภคสามารถหาซื้อนมผง สโนว์แบรนด์สำหรับเลี้ยงทารกได้ตามปกติ” อิเคไกชี้แจง
อิเคไกให้ข้อมูลเกี่ยวกับตลาดนมผงเด็กของไทยเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันตลาดรวมนมผงในประเทศไทยมีการแข่งขันรุนแรงและมีมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านบาท ภายใต้ 3 กลุ่มหลักประกอบด้วย ระดับบน-พรีเมียม ระดับกลาง และระดับล่าง โดยการแข่งขันที่สูง เกิดจากผู้นำในตลาดเน้นการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ชูจุดขายด้วยสารอาหาร การโหมโปรโมชั่นในร้านค้าปลีกและสร้างกระแสผ่านกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างหนัก
ขณะที่ผลิตภัณฑ์นมผงสโนว์แบรนด์วางตำแหน่งสินค้าอยู่ในระดับกลางขึ้นไป บริษัทมีนโยบายที่จะขยายตลาดเพิ่มขึ้นในปีนี้ จากเดิมที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 2% ในปีที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 5% ในอีก 3 ปีข้างหน้า แม้จะมีอัตราที่ไม่สูงนัก เนื่องจากการทำตลาดของนมสโนว์แบรนด์เน้นเจาะกลุ่มคุณแม่ที่ให้ความสำคัญกับการเลือกเฟ้นโภชนาการที่ดีอย่างธรรมชาติต่อลูกน้อย ต้องการคุณภาพของนมผงที่มีสารอาหารที่พอเหมาะ ลักษณะคล้ายน้ำนมแม่มากที่สุด ซึ่งเป็นสูตรที่พัฒนาจากการสำรวจวิจัยน้ำนมแม่ชาวญี่ปุ่นที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ จำนวนกว่า 2,727 คน ในสภาวะหลังคลอดตามช่วงวัยต่างๆ เพื่อให้สูตรแต่ละช่วงวัยมีคุณค่า ทางสารอาหารที่พอเหมาะกับการเจริญเติบโตของทารกที่สุด
กลยุทธ์การตลาดนมผงเด็กสโนว์แบรนด์ ในด้านหนึ่งอยู่ที่ การเน้นย้ำว่าความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 80 ปีของสโนว์แบรนด์ในประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาไลน์สินค้าจากผลิตภัณฑ์นมที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภคทุกกลุ่มทุกวัย และยังคงรักษาคุณภาพตามแบบฉบับของสินค้าที่ดีไว้คู่กับชีวิตประจำวันของชาวญี่ปุ่น จนถึงวันนี้มีการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมผงสโนว์แบรนด์ใน 6 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งไทยด้วย
“นโยบายบริษัทในประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น เราจึงเน้นการนำเสนอในรูปแบบกิจกรรมเพื่อสังคมและเลือกช่องทาง การสื่อสารเฉพาะกลุ่มมากกว่า เพื่อลดต้นทุนทางการตลาดลงให้มากที่สุด ทำให้ราคาสินค้าไม่สูงเกินไปสำหรับผู้บริโภคของเรา”
ภายใต้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการวิจัยเพื่อพัฒนาการของทารก ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร และคุณค่าที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ทางสมอง บางทีนี่อาจเป็นโอกาสครั้งสำคัญของนมผงมาตรฐานญี่ปุ่นรายนี้
|
|
|
|
|