จัดได้ว่าเป็นผู้เล่นที่มาแรงและน่าจับตามองมากที่สุดในห้วงเวลานี้สำหรับแบรนด์ ‘เอซุส’ หลังเบียดเอชพีที่ครองเบอร์ 2 ในตลาดโน้ตบุ๊กมายาวนานเมื่อปีที่ผ่านมา ด้วยส่วนแบ่งตลาด 13% และปีนี้ยังคงวางเป้าหมายรักษาเบอร์ 2 ด้วยการเขยิบส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก 3% เป็น 16% ให้จงได้
หลังจากค่ายเอซุสสามารถไล่บี้เอชพีได้สำเร็จ จนเบียดส่วนแบ่งตลาดขึ้นมารั้งอันดับ 2 ในไตรมาส 2 ปีที่ผ่านมา ก็ดูเหมือนว่าตลาดโน้ตบุ๊กจะมีสีสันร้อนแรง และต้องจับตามองกันทุกนาทีทีเดียว เพราะทุกอย่างสามารถพลิกเกมได้ทุกวินาที กระทั่งล่าสุดตามข้อมูลของไอดีซีและจีเอฟเค ออกมาระบุตรงกันว่า ไตรมาส 4 ที่ผ่านมา เอซุส มีส่วนแบ่งการตลาดโน้ตบุ๊ก 13% ขึ้นเป็นอันดับ 2 รองจากเอเซอร์แล้ว
“เราต้องการรักษาที่ยืนนี้ไว้ให้มั่น โดยตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งตลาดไม่น้อยกว่า 16% หรือมียอดขายรวม 8,700 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 40% ที่มียอดขาย 6,200 ล้านบาท”
พรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายของเอซุสในปีนี้ และบอกว่า สิ่งแรกที่เร่งทำเพื่อรักษาการเติบโตก็คือ การปรับโครงสร้างภายในองค์กร จากเดิมที่หนึ่งคนดูหลายอย่าง มาเป็นหนึ่งคนดูแลเพียงอย่างเดียว โดยมีการแบ่งกลุ่มธุรกิจซิสเต็มส์และกลุ่มโอเพ่น แพลตฟอร์ม (โอพี) ออกจากกัน พร้อมแยกผู้ดูแลรับผิดชอบอย่างชัดเจน ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยให้มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการได้มากขึ้น
กลยุทธ์การทำตลาดของเอซุสในปีนี้ ยังเน้นการเพิ่มโมเดลสินค้าใหม่ทั้งกลุ่มโน้ตบุ๊กและแท็บเลตเข้าสู่ตลาดต่อเนื่อง เพราะตลาดยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยข้อมูลจากไอดีซีประเมินว่า ตลาดโน้ตบุ๊กจะเติบโตประมาณ 15% ขณะที่การเติบโตของตลาดแท็บเลตจะสูงถึง 100% จากไตรมาสละ 100,000 เครื่อง เป็น 200,000-300,000 เครื่อง
เป็นเหตุให้เอซุสประเดิมรับศักราชใหม่ ด้วยการส่งอัลตร้าบุ๊ก “เซนบุ๊ก” ที่มาพร้อมหน้าจอ 13 นิ้ว รองรับฟังก์ชั่นมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ และแท็บเลตรุ่น Eee-Pad Transformer Prime ที่ใช้หน่วยประมวลผล NVIDIA Tegra 3 Quad-Core จับกลุ่มลูกค้าระดับกลางและบน ซึ่งเป็นตลาดที่เอซุสมีความแข็งแกร่ง โดยในครึ่งปีแรก มีแผนจะทยอยออกแท็บเลตใหม่วางตลาด 3-4 รุ่น เป็นระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และจะสร้างความแตกต่างจากตลาด โดยมาพร้อมคีย์บอร์ด และตั้งเป้าจะมีส่วนแบ่งในตลาดนี้ 5% จากปีที่แล้วมีสัดส่วนเพียง 2%
พร้อมกันนี้ยังจะเน้นขยายผลิตภัณฑ์กลุ่มโน้ตบุ๊กในตลาดล่างมากขึ้น เพื่อวางสินค้าให้ครอบคลุมทุกตลาดไม่ว่าจะบน-กลาง-ล่าง โดยผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดล่างนี้ ไม่ได้เป็นการลงมาเล่นราคา แต่เป็นการปรับพอร์ตสินค้าจากเดิมที่จะเน้นเทคโนโลยีคอร์ i3 และ i5 มาให้น้ำหนักกลุ่มเพนเทียมมากขึ้น เพื่อสามารถขยายฐานเข้าถึงลูกค้าในต่างจังหวัดได้มากขึ้น อีกทั้งยังขอกระโดดเข้ามาร่วมวงในตลาดพีซีเป็นครั้งแรก เพราะถึงแม้ตลาดจะมีการเติบโตไม่มาก แต่ก็ขนาดใหญ่ โดยเบื้องต้นนำร่องเจาะกลุ่มเกมเมอร์ เพราะเป็นตลาดที่เอซุสชำนาญและเป็นการรับรู้ของผู้บริโภค
นอกจากการวางสินค้ารุ่นใหม่ที่จะทยอยเปิดตัว และเน้นทำตลาดให้ครบทุกกลุ่มแล้ว เอซุสเชื่อว่าการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นอีกปัจจัยที่จะเพิ่มยอดขายและส่วนแบ่งตลาดให้กับเอซุส โดยปีนี้วางแผนขยายช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรดและซูเปอร์สโตร์ ซึ่งเป็นตลาดที่ยังไม่แข็งแรงให้มากขึ้นด้วย