ปี 2554 ที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากของทุกธุรกิจ แต่ไทยพาณิชย์ก็สามารถฝ่ากระแสสร้างการเติบโตของธนาคารได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ และภายใต้สถานการณ์ปีนี้ที่ไทยพาณิชย์มองว่าจะเป็นปีแห่งความผันผวนยิ่งกว่าปีที่แล้ว โดยเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวระหว่าง 4.5-4.7% ไทยพาณิชย์ได้วางยุทธศาสตร์ “ปรับตัวเร็ว เปลี่ยนเป็นโอกาส และมุ่งครองใจลูกค้า” และตั้งเป้าสินเชื่อรวมของธนาคารเติบโต 12-14% ใกล้เคียงกับภาพรวมตลาด โดยมาจากทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจให้เป็นนโยบายของปีนี้
ปี 2554 ไทยพาณิชย์มียอดสินเชื่อรวมเติบโต 22.1% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15-18% และเป็นการเติบโตจากทุกกลุ่มธุรกิจ สินเชื่อคงค้างรวม 500,000 ล้านบาท รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 26.8% มีกำไรสุทธิ 36,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.9% ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ ส่วนหนึ่งมาจากกำไรพิเศษจากการซื้อหุ้นบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำนวน 5,100 ล้านบาท หากหักกำไรจากรายการพิเศษนี้ออกเหลือ 31,000 ล้านบาท ก็ยังถือว่าธนาคารยังคงมีกำไรสุทธิที่เติบโตจากปีที่ผ่านมา ในขณะที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.61% ซึ่งลดลงจากปีก่อน
กรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารได้วางยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว โดยมุ่งจะเป็นธนาคารที่ให้บริการครบวงจรแก่ลูกค้าที่ดีที่สุดของประเทศ (The Best Universal Bank) ให้ความสำคัญกับ 6 ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่ การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง การให้บริการอันเป็นเลิศ การสร้างนวัตกรรมในบริการ การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างศักยภาพให้แก่บุคลากร และการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งสำคัญ คือ บุคลากรต้องสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีกว่าตลาด
อาทิตย์ นันทวิทยา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ปีนี้ธนาคารจะรักษาสมดุลระหว่างรายได้จากการปล่อยสินเชื่อและรายได้ค่าธรรมเนียมบริการ ตั้งเป้ารักษาระดับการเติบโตของสินเชื่อ 10% หรือ 50,000 ล้านบาท เน้นนำเสนอบริการต่างๆ แก่ลูกค้าเก่า เพื่อก่อให้เกิดรายได้ต่อเนื่อง ในขณะเดียวกันจะเน้นการช่วยเหลือลูกค้าในการบริหารจัดการความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งในปีนี้ปัจจัยต่างๆ มีโอกาสผันผวนมากกว่าปีที่ผ่านมา เห็นได้จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในยุโรปและอเมริกา ทำให้เงินดอลลาร์ไม่ไหลเวียน การปล่อยกู้ดอลลาร์ในต้นทุนต่ำหายไปจากตลาด เกิดการเก็งกำไร ทำให้ต้นทุนการกู้ดอลลาร์สูงขึ้น ในระยะยาวค่าเงินดอลลาร์มีโอกาสปรับขึ้นอีก 5-10% ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนของลูกค้าที่ต้องการขยายกิจการไปต่างประเทศ ทำให้ระยะเวลาการคืนทุนช้าลง
ด้านกลุ่มลูกค้าธุรกิจ หรือเอสเอ็มอี ซึ่งไทยพาณิชย์ได้บุกหนักอย่างมาก เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ในปีก่อน ก็เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย โดยมีสินทรัพย์เติบโต 36% อยู่ที่ 57,000 ล้านบาท รายได้รวมเติบโต 40% สำหรับในปีนี้ธนาคารจะปรับจากกลยุทธ์ Product Centric เป็น Customer Centric ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง นำเสนอบริการทางการเงินแบบ Total Solution สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกช่วงจังหวะของชีวิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจของลูกค้าแต่ละประเภทได้อย่างครบครัน ด้วยSet Menu ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน เป็นการตอบสนองลูกค้าที่มีอยู่ด้วยการต่อยอดขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของธนาคารเพิ่มให้แก่ลูกค้า
ส่วนกลุ่มลูกค้าบุคคลในปี 2554 สามารถเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมาย โดยมียอดสินเชื่อในกลุ่มลูกค้ารายย่อยรวม 92,000 ล้านบาท เติบโต 24% สำหรับเป้าในปี 2555 ไทยพาณิชย์ตั้งเป้ายอดสินเชื่อ 70,000 ล้านบาท เติบโต 15-17% รักษาตำแหน่งผู้นำสินเชื่อที่อยู่อาศัย และผลักดันสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ให้เติบโตและก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ภายใน 2-3 ปี จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 3 ของตลาด ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ครบวงจรอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการเติบโตของสินเชื่ออย่างมีคุณภาพ และสร้างความแข็งแกร่งของฐานเงินฝาก