Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ธันวาคม 2528








 
นิตยสารผู้จัดการ ธันวาคม 2528
สถานการณ์สินค้าอุปโภค-บริโภคต้องปรับตัวเองมาก ๆ             
 


   
search resources

Commercial and business
Food and Beverage




สินค้าอุปโภค-บริโภคคือสินค้าที่เราใช้อยู่ประจำวัน ข้อมูลที่นำมาอ้างอิงในการอภิปรายได้มาจาก 4 แห่ง คือบริษัทดีมาร์แห่งประเทศไทย, สถาบัน บี ไอ ซี อาร์, จากกระทรวงต่าง ๆ และข้อมูลจากการพบปะสังสรรค์ระหว่างนักการตลาด

การวัดภาวะสินค้าอุปโภค-บริโภค สามารถวัดได้จาก Total Market ของตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภค ซึ่งปรากฏว่าในปี 2528 ไม่หดตัวลงกลับมีการขยายตัวมากในบางตลาดและขยายตัวน้อยในบางตลาด ซึ่งขึ้นอยู่กับขั้นตอนการพัฒนาของสินค้านั้น ตลาดเท่าที่สังเกตจะขยายตัวประมาณ 3-5% ซึ่งเป็นการขยายตัวที่สูงเกินกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ต้องประหยัด

การขยายตัวของตลาดขึ้นอยู่กับองค์ประกอบคือ รายได้ การแข่งขันความสร้างสรรค์ ในการขยายตัวของตลาด

รายได้ของคนที่หายไปเพราะนักวิชาการบอกว่าคนไทยขายข้าวไม่ได้ราคา แต่ในภาคปฎิบัตินั้นอาจจะไม่จริงเพราะในขณะที่การขยายตัวของเศรษฐกิจอยู่ในระดับ 4% นั้น ถือว่าสูงแล้วจนสามารถเลี้ยงอุตสาหกรรมอุปโภค-บริโภคได้ดีพอประมาณ โดยมีการทดสอบแบ่งเขตเป็นกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยต่างจังหวัดแบ่งเป็นเขตเทศบาลและเขตชนบท ปรากฏว่าการใช้จ่ายของประชากรในเขตชนบทนั้นมีการขยายตัวสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้และการขยายตัวนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2523 ถึงปัจจุบัน อาจเป็นได้ว่าผลผลิตการเกษตรของเรามีปัญหา แต่นักเศรษฐศาสตร์ไม่ได้คิดถึงว่าเกษตรกรอาจมีการเพิ่มผลผลิตโดยที่เราไม่ทราบ เช่น เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ หรือตะวันออกกลางแล้วนำเงินกลับมา ดังนั้นตามทฤษฎีแล้วคนชนบทจนไม่มีเงินซื้อของ แต่ในเมื่อเขามีเงินซื้อของได้นั้นเขาอาจจะไม่จนอย่างที่เราคิดไว้ก็ได้

เรื่องการแข่งขันในปี 2528 นั้นมีมากพอประมาณ เช่น มีการเตือนความจำเรื่องสินค้าอยู่เสมอ รายการพิเศษกระตุ้นคนใช้เพิ่มขึ้น การแจกฟรีสำหรับสินค้าประเภทใหม่ บางประเภทมีการตัดราคากันมากเพื่อให้ร้านค้าสต๊อกของมากขึ้น การแข่งขันเหล่านี้ทำเพื่อพยายามขยายตลาด

กิจกรรมการตลาดนั้นมุ่งที่จะขยายตลาดให้ใหญ่ขึ้นมากกว่าจะนำของเข้าร้านค้า เพราะการนำของเข้าร้านค้าคือการย้ายสินค้าที่ผลิตแล้วเข้าไปยังร้านค้า ถ้าสินค้านั้นขายไม่ออกเปรียบเสมือนนำทรัพย์สินไปตกค้างในร้านค้า จะสังเกตว่ามีการสร้างภาพลักษณ์ของสินค้ามากกว่าที่จะไปหลอกผู้บริโภคโดยการตัดคุณภาพแต่ขายในราคาคงที่ จะมีการยืนหยัดคุณภาพของสินค้าเก่าแทนที่จะนำสินค้าไม่ดีมาขายเป็นการรักษาภาพลักษณ์

ผู้ประกอบการด้านสินค้าอุปโภค-บริโภคต่างช่วยกันแทนที่จะรอความช่วยเหลือจากรัฐบาล การแข่งขันในตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภคมีสูงมากและต้องใช้เงินจำนวนมาก เงินเหล่านี้มาจาก

1. ความสามารถในการขยายปริมาณการผลิต ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของสินค้าลดลง

2. วัตถุดิบถูกลง เพราะเป็นส่วนหนึ่งของความสมดุลของการพัฒนาระบบเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น ราคาน้ำมันมะพร้าวของชาวสวนมะพร้าวถูกลงเมื่อนำมาผลิตน้ำมันพืช จึงทำให้ราคาน้ำมันพืชถูกลงด้วย

3. การยอมสละกำไรเพื่อทรงไว้ในเรื่องปริมาณ คือเมื่อเศรษฐกิจไม่ดี การต้องการกำไรคงที่เป็นเรื่องที่ทำลำบากมาก

4. เพิ่มสมรรถภาพในการทำงาน โดยการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้

ในสถานการณ์ทางการเงินของสินค้าประเภทนี้ไม่ค่อยดี เพราะมีเช็คเด้งมาก และตลาดนี้เป็นตลาดที่นายธนาคารไม่สนใจจึงไม่ค่อยปล่อยสินเชื่อให้พ่อค้าปลีก

ดังนั้นผู้ผลิตสินค้าประเภทนี้จึงต้องทำตัวเป็นธนาคารให้กับพ่อค้าปลีกโดยการปล่อยเครดิตจากเดิม 30 วันเป็น 60-90 วันในปัจจุบัน

ในเรื่องการขาดดุลการค้ามีผลกระทบต่อตลาดในส่วนนี้คือการสั่งห้ามนำเข้าของจากต่างประเทศซึ่งกระทบต่อตลาดอย่างมาก และนโยบายประกันราคาข้าว ถ้าถึงมือชาวนาจริง ๆ จะทำให้การขายดีขึ้น

ค่าโฆษณาตามสื่อต่าง ๆ ขึ้นราคาสูงมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อโทรทัศน์ จนทำให้ผู้ผลิตเริ่มคิดว่าถ้าต้นทุนด้านสื่อสูงเพิ่มขึ้นทุกปี จะต้องหาทางออกอย่างอื่นที่ไม่ต้องใช้สื่อโทรทัศน์

การแข่งขันอุตสาหกรรมจะน้อยลงในปีหน้าเพราะในปีนี้บางแห่งได้กำไร ในขณะที่บางแห่งขาดทุน แต่ละแห่งคงจะต้องแข่งกันพอประมาณ

ในตลาดสินค้าอุปโภค-บริโภค ถ้ามีการขยายตัวในระดับอัตราปีละ 4% นับว่าธุรกิจนี้สามารถอยู่ได้ แต่จะต้องอาศัยผลผลิตประมาณ 3-4%

สภาวะที่ตลาดขยายตัวไม่แน่นอนนั้น ควรจะต้องบริหารกิจการด้วยความระมัดระวังอย่างมากถ้าใครต้องการผลิตสินค้าใหม่ออกสู่ตลาด สายป่านในธุรกิจต้องยาวและต้องเตรียมสภาพจิตเพื่อการต่อสู้ให้ดี มิฉะนั้นการออกยี่ห้อใหม่ในสภาพเช่นนี้อาจจะไม่เข้าเป้าอย่างที่ตั้งไว้

สิ่งที่ขอให้รัฐบาลช่วยคือ ระงับเรื่องการที่จะโอนการจัดเก็บภาษีการค้าสำหรับสินค้าอุปโภค-บริโภคบางชนิดจากกรมสรรพากรไปให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บแทน โดยขอให้เลื่อนไปสัก 2-3 ปี

และในแต่ละบริษัทควรปรับปรุงโครงสร้างใหม่คือ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะในการแข่งขันนั้น บริษัทใดมีต้นทุนถูกที่สุดจึงจะสามารถอยู่ได้ อีกประการคือการสร้างสินค้าตัวใหม่ๆเป็นสิ่งจำเป็นมากในธุรกิจนี้ และประการสุดท้ายต้องนึกถึงคุณภาพของการจัดการและคุณภาพของการบริหารธุรกิจ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us