Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กันยายน 2533








 
นิตยสารผู้จัดการ กันยายน 2533
สหัส ตรีทิพยบุตร ไฟกำลังติดเชื่อในกรุงไทย             
 


   
search resources

ธนาคารกรุงไทย
สหัส ตรีทิพยบุตร
Banking




ในความเป็นรัฐวิสาหกิจที่เก่าแก่ทรุดโทรมของธนาคารกรุงไทยร่วมสองทศวรรษ ทีผ่านมา นั้น ยังปรากฏมีแสงริบหรี่ของคนทีมีจิตใจและการทำงานแบบเอกชนอยู่ด้วยในมุมหนึ่งของแบงก์ ซึ่งวันนี้มันได้กลายเป็นไฟติดเชื้อที่กำลังจะลุกโชติช่วงท้าทายการพิสูจน์อย่างยิ่ง

เขาคนนั้น คือ " สหัส ตรีทิพยบุตร" ผู้จัดการฝ่ายคอมพิวเตอร์และรักษาการผู้จัดการฝ่ายบัตรเครดิตกรุงไทย ที่เพิ่งตั้งขึ้นมาใหม่ สหัส ได้ชื่อว่า ผู้บุกเบิกงาน คอมพิวเตอร์ ของธนาคารกรุงไทย มาตั้งแต่ยุคแรก เริ่มจนถึงวันนี้ ซึ่งล่าสุดเป็นเจ้าของโครงการบริการบัตรเครดิตกรุงไทย ที่คู่แข่งในวงการกำลังจับตามองอยู่อย่างไม่กระพริบในปัจจุบัน

สหัส เป็นคนจังหวัดพิษณุโลก พอเรียบจบชั้นมัธยมจากโรงเรียนประจำจังหวัดก็เข้ามาเรียนต่อคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลวกรณ์มหาวิทยาลัย แผนกสถิติ ก่อนที่จะเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทสาขาคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ ที่มหาวิทยาลัยซิราคิวส์ สหรัฐอเมริกา( computer information sciences, s.y raucuse university new york)

ในยุคที่นักคอมพิวเตอร์เมืองไทยขาดแคลนชนิดที่เรียกว่าคนไทยยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่ามีอาชีพประเภทนี้อยู่ในโลก เขาเริ่มทำงานตามที่ได้ร่ำเรียนมา โดยเข้าเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาและอบรมคอมพิวเตอร์ ศูนย์ประมวลผลด้วยเครื่องจักรแห่งประเทศไทย สำนักงานสถิติแห่งชาติ สถาบันของราชการซึ่งเป็นแหล่งป้อนนักคอมพิวเตอร์ให้ธุกริจเอกชนหลายแห่งในในเวลาต่อมา

หน้าที่ของเขาก็คือ เป็นที่ปรึกษาด้านการวาแผนและอบรมใช้คอมพิวเตอร์ให้แก่หน่วยงานราชการ และรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงธนาคารกรุงไทยที่เขาตัดสินใจเข้ามาเป็นผู้บุกเบิกระบบคอมพิวเตอร์ในเวลาต่อมาด้วย

สหัส ตัดสินใจย้ายงานจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ มาทำงานเป็นลูกจ้าง

ธนาคารกรุงไทย เมื่อ 10 กว่าปี ก่อนด้วยเหตุว่าสมัยเขาเป็นที่ปรึกษาในฐานะเจ้าหน้าที่ของสำหนักงานสถิติแห่งชาตินั้น ธนาคากรุงไทยยังไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้เลย เครื่องมือที่ดีที่สุดก็มีแต่เพียงเครื่องจักรลงบัญชี ในขณะที่ความจำเป็นในการนำคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้กับงานธนาคารนั้นนับวันมีสูงขึ้น เมื่อถูกทาบทามก็เลยตัดสินใจทันที

" สิ่งที่ทันสมัยที่ดีที่สุด ในตอนนั้น ก็คือเครื่องจักรลงบัญชี คุณคิดดูว่ามันล้าสมัยขนาดไหน และถ้าไม่มีนักคอมพิวเตอร์สักคนสนใจ บุกเบิกงานทางด้านนี้ เพราะเห็นว่าเงินเดือนมันน้อย แล้วใครจะทำ มันท้าทายผมมาก และผมเองก็ยังไม่มีความคิดที่จะทำงานให้หน่วยงานเอกชน เพราะราชการยังไม่มีใครที่จะพัฒนามันอย่างจริงจัง" สหัส ตรีทิพยบุตร กล่าวถึงการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับกรุงไทยครั้งแรก

เขาเริ่มงานที่ธนาคารกรุงไทย ในตำแหน่งหัวหน้าศูนย์คอมพิวเตอร์ของธนาคาร ซึ่ง

ศูนย์นี้เป็นศูนย์ที่เขาตั้งขึ้นมาด้วยมือของเขาเอง เริ่มต้ำแต่การทำรายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งศูนย์ การหาคนมาร่วมงานทั้งการสรรหาในธนาคารเองและจากข้างนอก ไปจนถึงแผนและเป้าหมายในการสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ของธนาคารในอนาคต

" เราเริ่มนำเครื่อง micro computer เข้ามาปรับปรุงใชั้กับธุกริจ ธนาคารอย่างจริงจัง ก่อนที่จะสร้าง electronic banking ขึ้นมาใช้จนถึง ATM เป็นงานส่าสุดในแง่ของการบริการ จากนั้นเราได้พัฒนาข้อมูลจากระบบที่เราสร้างขึ้นมาเป็น MIS สำหรับนักบริหารตอนนี้กล่าวได้ว่า เราก็เป็นแบง์ที่มีระบบการใช้คอมพิวเตอร์สารสนเทศที่ใหญ่แบงก์หนึ่งเหมือนกัน" อดีตหัวหน้า ศูนย์คอมพิวเตอร์พูดถึงภารกิจที่ได้ทำให้แบง

ก์ตั้งแต่เริ่มต้นมาจนได้ยกฐานะขึ้นเป็นสำนักคอมพิวเตอร์และเป็นฝ่ายในปัจจุบัน ซึ่งก็มีผลทำให้ฐานะทางตำแหน่งของเขาถูกยกขึ้นมาตามงานนั้น ด้วยเช่นนกัน

ปัญหาและอุปสรรค ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของธนาคารกรุงไทย ในการพัฒนาด้านต่างๆ ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากรัฐวิสาหกิจอื่น ๆ โดยเฉพาะช่วงก่อนที่ธนาคารกรุงไทยจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่ปลายปีที่ผ่านมา ก็คือ เรื่องขั้นตอนเกี่ยวกับระบบระเบียบ ความคิดในเชิงบริหารการจัการของคนในธนาคาร รวมไปถึงปัญหาพนักงานและโครงสร้างรายได้ของพนักงาน

ส่วนที่กระทบกับงานพัฒนาคอมพิวเตอร์โดยตรงนั้ ก็คือเรื่องงบประมาณซึ่งจะต้องใช้ไม่น้อย และเรื่องคนที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่จะดึงเข้ามาร่วมงานซึ่งค่าตัวแพง มีการแย่งชิงตัวกันมาก และต้องเป็นคนที่ทุ่มเทกับงานอย่างมาก เพราะว่าทั้งหมดนั้นเป็นงานบุกเบิกทั้งสิ้น

" ก็เป็นปัญหาสำหรับเราอย่างมาก แต่เราทำมาได้ตามเงื่อนไขที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะทำให้ช้ากว่าแบงก์อื่น ๆ แต่ถ้าจะวัดกันด้วยฝีมือแล้ว ผมกล้าพูดได้ว่าเราไม่แพ้ใคร งบประมาณเราก็มีอยู่แค่นี้ เรื่องของคนของเราผมก็ยอมรับว่ามีการเข้า ๆ ออกๆ แต่ตัวหลัะกของเรายังอยู่ ทำงานหนักกว่าเขา หน่อย งานเราก็เดินไปได้" สหัส กล่าวถึงวิธีการทำงานที่เรียกว่า ได้รับความสำเร็จพอสมควรในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจแห่งนี้

ตัวหลักที่สหัส พูดกันนั้น ก็คือตัวเขาเองกับรองผู้จัดการฝ่าย อีกสองคน คือวราวุธ เครือสินธุ ปริญญาโททางด้านคอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกา เพื่อนที่ดึงมาจากสำนักงานสถิตแห่งชาติ กับ สุวารี เสือสง่า เพื่อรุ่นน้องอีกคนที่เขาดึงมาจากสำนักงาน สถิติแห่งชาติ กับ สุวารี เสือสง่า เพื่อรุ่นน้องอีกคน ที่เขาดึงมาจากสำนักงานสถติแห่งชาติเช่นกัน ซึ่งสวารี เป็นเศรษฐศาสตร์บัณฑิตที่หันเอาดีทางด้านคอมพิวเตอร์และอยู่กับแบงก์กรุงไทยยาวนานตั้งแต่ยุคบุกเบิกเช่นกัน

เมื่ปลายปีที่ผ่านมา พร้อม ๆ กับการยื่นเรื่องราวเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์ในประเทศไทย ของธนาคารกรุงไทย ทีประชุมคณะกรรมการธนาคารเห็นชอบ ที่จะให้ธนาคารกรุงไทยออกบัตรเครดิตมาบิรการปรชาชนทั้งนี้สถานการร์การแข่งขันของระบบแบงก์บีบบังคับให้กรุงไทยจำเป็นต้องปรับตัวอย่างมาก ซึ่งถ้าพิารณาจากขนาดและเครือข่ายของกรุงไทยแล้ว ก็สมคววรจะมีบริการนี้ออกมาตั้งนานแล้ว

คนในกรุงไทยที่มีคุณสมบัติ พอที่จะทำเรื่องนี้ก็คือ สหัส ตรีทิพยบุตร นั่นเอง เพราะเหตุว่างานส่วยใหญ่ของบริการบัตรเครดิตนั้นเป็นงานเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ เขาเพียงแต่ติดอาวุธทางการตลาดเข้าไปเท่านั้น ก็สามารถเดินไปอย่างราบรื่น เขาจึงได้รับมอบหมายให้ศึกษาและทำโครงการนี้ขึ้นมา

สหัส กล่าวว่า เขาใช้เวลาในการศึกษาและทำโครงการเพียงสามเดือนเท่านั้น เพราะเป็นการพัฒนาระบบต่อจากคอมพิวเตอร์ที่เขาทำได้แล้ว ส่วนทางด้านการตลาดนั้นเขามีความมั่นใจว่า เขามีประสบการณ์เพียงอจากากรทำ ATM ขอ

งบธนาคารที่เกิดขึ้นทีหลัง เพื่อนเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เขายืนยันว่า บัตรATM ของธนาคารซึ่งเกิดขึ้นทีหลังเช่นกัน ซึ่งในวันนี้เขายืนยันว่า บัตร ATM ของกรุงไทยมีคนถือมากทึ่สุดแห่งหนึ่งในประเทศทย มีเครือข่ายและตู้กระจายอยู่ทั่วประเทศมากที่สุด

" คุณก็รู้ว่า เรืองขนาดและเครือข่ายของเรานั้นใหญ่โตขนาดไหน สองปีมานี่เราเปิดสาขาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า ปีล ะ30 แห่ง ตู้ ATM ที่เปิดให้บริการเป็นจุด ๆ ตามสถานที่ราชการต่าง ๆ นั้เราทำได้มากกว่าเพราะหน่วยงานราชการทั้งหลายนั้น ล้วนแต่เป็นลูกค้าของเราทั้งในนามของน่วยงานและรายบุคคล ข้าราชการทุกคนเวลานี้จ่ายเงินเดือนฝ่าน ATM ของธนาคารทั้งสิ้น และล่าสุด นี้เราก็ได้สาขาจากากรวมธนาคารสยามเข้ามาอีก ถึง 30 แห่ง เพราะฉะนั้น เรื่องอย่างนี้เราได้เปรียบอยู่แล้ว" สหัส กล่าวถึงความเป็นใหญ่ของธนาคารของกรุงไทย

เขาเสนอโครงการและแผนงานเกี่ยวกับการออกบัตรเครดิตกรุงไทยขึ้นไปพรอ้มกัน สิ่งที่ " ผู้จัดการ" มองเป็นว่า จะเป็นย่างก้าวที่สำคัญของธนาคารกรุงไทย นั้นไม่ใช่การมีบริการบัตรเครดิตออกมาให้บริการแก่ลูกค้าตามแบบที่ธนาคารอื่น ๆ เขาล้วนมีกันแล้ว

แต่เรากลับมองเห็นถึงการยอมรับในหลัการทำงานและการบบิหารที่เป็นแบบมืออาชีพมากขึ้น ของผู้บริหารระดับสูง ในธนาคารกรุงไทย นั้นเป็นเรื่องที่น่าจับตามองมากว่า

ว่ากันที่จริงมันควรจะเป็นแบบนี้มานานแล้ว นั่นก็คือ ว่าคณะกรรมการของธนาคารให้ความเห็นชอบโครงการและแผนงานตามที่สหัสเสนอ ซึ่งหัวใจที่สำคัญนั้นคือให้ตั้งฝ่ายงานด้านบัตรเครดิตนี้ขึ้นมาเป็นฝ่ายใหม่ และดึงงาน ATM ซึ่งเดิมอยู่กับฝ่ายคอมพิวเตอร์เข้าไว้ด้วยกัน ให้ชื่อว่าผ่ายบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม มีผู้บังคับบัญชาสูงสุดเป็นผู้จัดการฝ่าย โดยให้สหัส ตรีทิพยบุตร รักษาการผู้จัดการฝ่ายนี้ในขณะที่เขาตำแหน่งเป็นผู้จัดการฝ่ายคอมพิวเตอร์อยู่ด้วยอีกตำแหน่ง

ดึงเอา ปรัชญา ธัญญสิริ นิติศาสตร์บัญฑิต ที่หันเอาดีทางด้านงานส่งเสริมพัฒนาธุรกิจธนาคารจนมาเป็นรองผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมพัฒนาธุกริจของกรุงไทย เป็นตำแหน่งล่าสุด มาเป็นรองผู้จัดการฝ่ายบัตรเครดิตที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ได้รับมอบหมายให้ดูแลทางด้านการตลาด

พร้อมกันนั้น ก็เอา ชุติมา ศุภพิพัฒน์ นักสถติจากจุฬาลงกรณ์ ที่ได้รับปริญญาโท

ด้านการบริหารจากมิชิแกน สหรัฐอเมริกา จากตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายการธนาคารในประเทศมาเป็นรองผู้จัดการฝ่ายที่ตั้งขึ้นใหม่อีกคน

ก่อนหน้านี้ การตั้งฝ่ายขึ้นมาสักฝ่าย ในธนาคารกรุงไทย ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ แม้แต่การปรับเปลี่ยนยกฐานะฝ่ายต่าง ๆ ขึ้นมานั้น ก็เป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะฉะนั้นการให้ความเห็นชอบให้ตั้งฝ่ายบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม ขึ้นมาโดยใช้เวลาในการพิจารณา อันรวดเร็วเช่นนี้ถือว่า เป็นย่างก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของธนาคารกรุงไทยทีเดียว

" ผมว่าผู้ใหญ่ในบอร์ดรูม เริ่มมีแนวความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปมากนั่นและการหนึ่ง อีกประการหนึ่ง น่าจะเป็นเพราะผลงานของคุณสหัส ที่ผ่านมา เป็นที่น่าพอใจอย่างมาก จึงทำให้ผู้ใหญ่ไว้ใจ และเห็นด้วยในทันทีก็ว่าได้" แหล่งข่าวในธนาคารกรุงไทย ให้ข้อสังเกตุ

ที่น่าพิจารณาในความสอดคล้องที่ " ผู้จัดการ" มองเห็นก็คือฝ่ายบัตรเครดิตและเทีเอ็ม ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ นี้เป็นฝ่ายที่เรียกได้ว่ามีอิสระมากที่สุดกว่าทุก ๆ ฝ่าย ก็ว่าได้ เพราะผู้บริหารระดับสูงเพียงแต่ให้ความเห็นชอบในโครงการและแผนงานแล้วก็ปล่อยให้ทำงานกันอย่างอิสระ ทั้งในด้านการใช้งบประมาณและวิธีการดำเนินงานไปสู่เป้าหมายต่าง ๆ เพียงแต่รายงานให้กรรมการผู้จัดการใหญ่ทราบเท่านั้น ก็พอ ไม่มีคณะกรรมการหรืออนุกรรมการใดมาพิจารณาซ้ำอีก

" อย่างกรณีการลดแลกแจกแถม ก่อหน้านี้ จะทำทีต้องขออนุมัติกันหลายขั้นตอน แต่ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตในช่สวงโปรโมทนี่ลดได้เลยครึ่งหนึ่ง เขาทำได้เร็วมาก" แหล่งข่าวในธาคารกรุงไทยคนหนึ่งกล่าวตัวอย่าง

งานโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการตลาดหรือที่เรียกว่า งานส่ง

เสริมธุกริจตองธนาคารด้านอื่น ๆ น้นจะต้องชึ้นกับฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและสำนักประชาสัมพันธ์ แต่ตามแผนงานที่สหัสได้รับคววามเห็นชอบนั้น ปรากฏว่าให้ฝ่ายบัตรเครดิตและเอทีเอ็ม เป็นผู้ดำเนินการเองบทั้งสิ้น ซึ่งทำให้งานเดินเร็วออกมาได้อย่างรวดเร็ว และสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทุกขั้นตอนของการนำสินค้าออกสู่ตลาด

เริ่มตั้งแต่การออกแบบบัตรเครดิต ซึ่งเป็นรูปพระอาทิตย์ทรงรถ ซึ่งต้องจ้างจักรพันธ์ โปษยกฤต ด้วยเงินเป็นหลักแสนบาท ขึ้นไปนั้น สหัสร่วมกับทีมงานเป็นคนคิดและดำเนินการด้วยตัวเอง โดยไม่ผ่านหลายขั้นตอน เหมือนที่ผ่านมา ทำให้งานมันเร็วขึ้นอย่างมาก รวมทั้งการจ้างบริษัท บิก คอมมิวนิเคชั่น เป็นตัวแทนดำเนินการด้านโฆษณาในงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทเช่นกัน

ทั้ง ๆ ที่ผู้จัดการสาขาของธนาคารกรุงไทย บางสาขา ยังไม่มี

อำนาจที่จะอนุมัติสินเชือ่ได้ถึงแสนบาท แต่โครงการบริการบัตรเครดิตกรุงไทย ต้องอนุมัติวงเงินซึ่งเปรียบเสมือนสินเชื่ออย่างหนึ่ง นั้น ผู้จัดการสาขาสามารถทำได้ถึง 200,000 บาท ในโครงการของสหัส ที่มอบหมายให้สาขาเป็นเอเยนต์บัตรเครดิต

โดยผู้จัดการสาขามีสทธิอนุมัติวงเงินได้ถึง 200,000 บาท และให้ถือว่า เป็นผลงานและรายได้ ของสาขาเหมือนกับรายได้ดอกเบี้ยด้านอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดความพอใจในระดับผู้บริหารสาขาและเกิดความคล่องตัวจึ้นมาทันทีในการทำงาน แทนที่จะให้เป็นเพียงงานฝากและส่งมาอนุมัติที่สำนักงานใหญ่ ๆ เหมือนงานอื่น

นี่ถือเป็นภาพใหม่ที่กำลังเปรียบเสมือนไฟได้เชื้อซึ่งกำลังลุกโชติช่วงเพื่อให้พิสูจน์ว่าการเสนอรูปแบบการทำงาน ที่เน้นความคล่องตัวแบบเอกชน มกาขึ้น นั้นจะประสบความสำเร็จแค่ไหน เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่งทั้งต่อธนาคารกรุงไทยและตัวสหัส ตรีทิพยบุตร เอง

การแย่งชิงตัวนักบริหาร คอมพิวเตอร์ ในวงการธุรกิจนับวันจะเข้มข้นขึ้นทุกวัน เรียกว่ามีการประมูลตัวกันตั้งแต่หลักแสนขึ้นไป ในขณะที่ระดับฝ่ายของธนาคารกรุงไทยกินเงินเดือนเพียงสองหมื่นกว่าบาท แต่สหัสก็ภูมิใจทีเขาได้ทำงานที่ท้าทายอย่างเช่นปัจจุบัน ที่กรุงไทย และที่เขาภูมิใจมากที่สุดคือทำงานให้หน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งเป็นงานในอุดมการณ์ของเขามาตั้งแต่เรียนหนังสือจบมาแล้ว

" ตอนนี้ชีวิตผมไม่ได้ร่ำรวย แต่ก็ไม่อยู่ในขั้นตอนดิ้นรนอะไรมากมาย ปัยหาที่ผมมองเห็นและเป็นห่วงอยู่ตลอดเวลาก็คือถ้างานของภาคราชการไม่พัฒนาได้ดีกว่าแล้ว งานด้านเอกชนจะพัฒนได้ดีกว่าอย่างไร เพราะเบสิกจริง ๆ เอกชนยังต้องพึ่งพารัฐบาลอยู่มาก ผมอยากให้ระรบบคอมพิวเตอร์ของรับบาล เป็นผู้นำ ซึ่งตอนนี้เราทำไม่ได้ อุปสรรคปัญหาต่าง ๆ มันถึงเกิดแก่เอกชนมาก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะธนาคารกรุงไทยเท่านั้น หมายถึงหน่วยงานอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องรองรับการพัฒนาของประเทศต่อไป สหัส กล่าวด่วยสีหน้าจริงจังขึ้นมาทันที

ปีนี้สหัสอายุเพียง 44 ปี เขายังเหลือเวลาทำงานอีกมาก ไม่ว่าเขาอยู่กรุงไทยหรือไม่ สิ่งหนึ่งที่เป็นปรากฏการณ์สำคัญของคนในอาชีพมนุษย์คอมพิวเตอร์ อย่างเขาก็คือเก้าอี้ผู้บิรหารระดับสูงในองค์กรธุกริจต่าง ๆ ปัจจุบันเริ่มจะถูกแทรกด้วยคนพวกนี้ มากึ้นเรื่อย ๆ และเชื่อว่าคงไม่ยกเว้นสำหรับสหัส ในธนาคารกรุงไทยในอนาคตด้วย

เพราะนอกจากงาน ที่ชื่นชอบท้าทาย เงินที่ใช้เพียงพอแล้ว สิ่งหนึ่งที่มีคนกล่าวว่าติดตัวสหัสเหมือนกับทุกคนก็คือ เกียรติ ศักดิ์ศรีและมันได้สะท้อนความเป็นตัวเขาออกได้ดีที่สุด แล้วในรูปบนบัตรเครดิตบนธนาคารกรุงไทยพระอาทิตย์ทรงรถ

กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของธนาคารใหญ่ ๆ กำลังจะเริ่มเปลี่ยนจากนักเศรษฐศาสตร์หรือนักบัญชี มาเป็นนักคอมพิวเตอร์ มากขึ้นเรื่อย ๆ ประธานใหญ่ซิตี้แบงก์คนปัจจุบัน จอห์น ริดนั้น ก็มาจากสายคอมพิวเตอร์ ที่เป็นหัวใจของธุกริจสินเชื่อส่วนบุคคล และบริการทางการเงินเพื่อการบริโภคจนสามารถทำกำไรมหาศาล

สำหรับในเมืองไทยเรา กำลังได้เห็นคนอย่าง บรรณวิทย์ บุญญรัตน์ แห่งธนาคารไทยพาณิชย์ ก้าวขึ้นมาจากหัวหน้า ศูนย์คอมพิวเตอร์ จนเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ และกล่าวกันว่าเขายังมีเวลาอีกมากที่จะก้าวขึ้นไปอีก

ธีระ อภัยวงศ์ ก็ขึ้นมาตามเส้นทางเดียวกับบรรณวิทย์ ก็เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ของแบงก์กรุงเทพเช่นกัน

ย้อนกลับมาที่ธนาคารกรุงไทยจะเป็นว่า งานหลายฝ่ายในธนาคารล้วนแล้วแต่เป็นงานที่คอมพิวเตอร์จะเข้ามีบทบาทด้วยทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากฝ่ายคอมพิวเตอร์ บัตรเครดิต เอทีเอ็ม โดยตรงแล้ว ก็มีงบระมาณ วิชาการ การธนาคาร ต่างประเทศ การพนักงาน สำนักกรรมการผู้จัดการและอีกมากมาย มีคนกล่าวว่าถ้าระบบคอมพิวเตอร์ได้เข้ามามีบทบาทเต็มที่ตามที่มันควรจะเป็นแล้วศักยภาพของฝ่ายงานนั้น ๆ จะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกว่า 20% ทีเดียว

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us