เชื่อหรือไม่ว่าองค์การส่งเสริมกิจการโคนมไทย หรือ อสค. นั้น หลังปี 2524
เป็นต้นมายังไม่เคยดำเนินธุรกิจในการขายนมให้ได้กำไรเลย แต่กลับกลายเป็นสาวเนื้อหอมที่มีหนุ่มหมายปองถึง
2 ราย นั่นก็คือ พรรคชาติไทย และพรรคกิจสังคม
อสค. เป็นรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และเป็นที่น่าสังเกตว่าพรรคการเมืองใดก็ตามที่ได้โควตากระทรวงนี้ ธุรกิจการขายนมของ
อสค. ก็มักจะมีแนวโน้มที่จะเซ็งลี้กับพ่อค้าของพรรคนี้เสมอ
อย่างเช่นเมื่อสมัยที่ อสค. เริ่มมีปัญหานมค้างสต๊อกถึง 1,500 ตัน ก็เป็นยุคของพันตำรวจเอก
กฤช สังขะทรัพย์ ส.ส.พรรคชาติไทย เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งพันตำรวจเอกกฤช
ได้เคยปรึกษาหารือกับบริษัทโอสถสภา เต๊กเฮงหยู จำกัด ว่าจะให้เข้าไปแก้ไขปัญหาใน
อสค. โดยให้บริษัทโอสถสภาฯ เป็นตัวแทนจำหน่ายนม "ไทย-เดนมาร์ก"
ของ อสค. แต่ผู้เดียว
แต่เรื่องที่คุยไว้ยังไม่ไปถึงไหนเลย พันตำรวจเอกกฤชก็ประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่ดอยอ่างขางเสียชีวิตไปก่อน
รัฐมนตรีช่วยคนต่อไปคือ บุญเอื้อ ประเสริฐสุวรรณ ส.ส.พรรคชาติไทย ก็ได้มีคำสั่งให้
อสค. สะสางเรื่องนมค้างสต๊อกให้หมด อสค. จึงเรียกประชุมเอเย่นต์เก่าทั้งหมดมาวางแผนการตลาด
และในครั้งนั้นก็มีบริษัทเสียงดังแล็ป จำกัด ซึ่งมีบุตรชายคนหนึ่งของพลตรีประมาณ
อดิเรกสาร หัวหน้าพรรคชาติไทยเป็นเจ้าของ
โดยบริษัทเสียงดังแล็ปเสนอตัวเข้ามาเป็นเอเย่นต์จำหน่ายนมของ อสค. ในเขตกรุงเทพฯ
ส่วนบริษัทโอสถสภาฯ ก็ยื่นเสนอขอเข้ามาเป็นเอเย่นต์ในกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน
ในการแข่งขันครั้งนี้มีตำแหน่ง "ตัวแทนจำหน่ายนมของ อสค. แต่ผู้เดียว"
เป็นรางวัลล่อใจ เพราะถ้าใครสามารถระบายสต๊อกของ อสค. ได้มากที่สุดก็จะได้รางวัลนี้ไป
ดังนั้น บริษัทเสียงดังแล็ปและบริษัทโอสถสภาฯ ก็ลุ้นกันน่าดู โดยบริษัทเสียงดังแล็ปทุ่มตลาดแค่หมดตัว
แล้วผลก็เป็นไปตามที่เซียนวงการนมลุ้นกัน นั่นคือบริษัทเสียงดังแล็ปได้เป็นเอเย่นต์จำหน่ายนม
"ไทย-เดนมาร์ก" แต่ผู้เดียวในกรุงเทพฯ ส่วนบริษัทโอสถสภาฯ ก็กระเด็นไปได้โควตาทางภาคใต้"
เรื่องยังไม่จบเพียงแค่นี้
ตามเกมแล้วทางบริษัทเสียงดังแล็ปกำลังมาแรงใน อสค. และคงจะไม่พลาดตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายแต่ผู้เดียวในประเทศไทย
ถ้าไม่เกิดการยุบสภาและมีการเลือกตั้งใหม่
โควตากระทรวงเกษตรฯ ครั้งนี้กลับไปเป็นของพรรคกิจสังคมอีกครั้งหนึ่ง
ตอนนี้จึงมีการรื้อฟื้นนโยบายเรื่องการให้มีตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ
อสค. ขึ้นมาใหม่ ก็มี 4 บริษัทที่ยื่นข้อเสนอมา คือ บริษัทบอร์เนียว บริษัทศรีกรุง
บริษัทโอสถสภาฯ และน้องใหม่ของวงการนมคือบริษัทอินเตอร์แมกนั่ม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทโอสถสภาฯ
ดูๆไปแล้วงานนี้บริษัทโอสถสภาฯ ลุ้นเต็มที่
แล้วผลก็ไม่มีวันพลิกล็อกไปได้เช่นกัน เพราะบริษัทอินเตอร์แมกนั่มน้องใหม่ของวงการนม สามารถเฉือนคู่ต่อสู้รุ่นพี่ในวงการนมอย่างบริษัทศรีกรุง
และบริษัทบอร์เนียวไปได้อย่างสบาย ๆ
ทำไมใคร ๆ จึงอยากที่จะได้เป็นตัวแทนจำหน่ายนมของ อสค. กันนัก
เรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปดูว่า อสค. นั้นมีอะไรดีบ้าง
อย่างแรกที่เห็นก็คือ อสค. เป็นผู้รับซื้อและผลิตนมดิบรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
ดังนั้นการเข้ามาเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมของ อสค. จึงเท่ากับเป็นการยึดครองผูกขาดธุรกิจค้านม
ซึ่งก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย
และอีกประการหนึ่งคือ เกษตรกรเลี้ยงโคนมจำนวน 20,000 คน ที่ประจำอยู่ในหลายจังหวัด
โดยเฉพาะสระบุรี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งเลี้ยงโคนมที่ใหญ่ที่สุด และถ้าเกษตรกรเหล่านี้กลายมาเป็นคะแนนเสียงให้ตอนมีการเลือกตั้งในแต่ละครั้งแล้ว
ตำแหน่ง ส.ส. ก็คงจะไม่มีวันหนีไปไหนแน่ๆ
จากเหตุผลที่ว่ามา 2 ประการเท่านี้ก็พอจะบอกได้ว่าทำไมใคร ๆ จึงแย่งจีบ
อสค. กันนัก ทั้ง ๆ ที่ได้ตำแหน่งตัวแทนจำหน่ายไปแล้วก็โดนด่าลูกเดียวแบบบริษัทอินเตอร์แมกนั่ม
แต่มันก็เป็นเรื่องพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การเมืองกับธุรกิจนั้นมันจะแยกกันไม่ออกอยู่แล้วไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน
สัจธรรมก็จะคงอยู่ตลอดเวลา