Sean Kelly เป็นเจ้าของห้องจัดแสดงผลงานศิลปะในแมนฮัตตัน มีผลงานของ Marina Abramovic หนึ่งในศิลปินชื่อเสียงโด่งดังจัดแสดงด้วย

เกือบทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อ Sean กับ Mary ภรรยาคู่ชีวิต ซื้อที่ดินขนาด 16 เอเคอร์ทางเหนือของนิวยอร์กซิตี้ เขาฝันว่าต้องสร้างบ้านบนที่ดินแปลงนี้ให้ได้ เพราะตั้งบนทำเลที่เห็นวิวสวยงามของ Hudson Valley เต็มที่ ความตั้งใจของเขาคือ การปรากฏต่อสายตาผู้มาเยือนบ้านหลังนี้ต้องมีลักษณะเหมือนการแสดงผลงานศิลปะที่ค่อยๆ เปิดตัวต่อสายตาของผู้ชมทีละน้อยๆ อย่างเหนือความคาดหมาย โดยโครงสร้างต้อง “ไม่เข้ามาอยู่ในเป้าสายตาอย่างเด่นชัด เมื่อคุณมองขึ้นไปบนท้องฟ้า เหมือนกับว่าบ้านหลังนี้ค่อยๆ กลืนและเลือนหายไปในท้องฟ้ามากกว่า”

เพราะพวกเขาซื้อที่ดินผ่านนายหน้า เมื่อนายหน้าเตือนว่า ทั้งสภาพภูมิประเทศและพื้นที่เต็มไปด้วยหินแข็งจะทำให้การสร้าง บ้านบนที่ดินแปลงนี้ยากลำบากเป็นพิเศษ แต่ Sean ผู้รักความท้าทายเป็นชีวิตจิตใจกลับใช้ “จิตวิทยาเชิงกลับ” เอาชนะอุปสรรค ด้านการออกแบบบ้านจนได้ พวกเขาใช้วิธีไปปักหลักปิกนิกกันบน ที่ดินแปลงนี้เพื่อทำความคุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศ จากนั้นช่วยกันวางแผนสร้างบ้าน และศึกษาทิศทางลมพายุที่พัดผ่านหุบเขาไปมา ส่วนสุนัขเทอร์เรียร์ตัวโปรดก็ไม่เหงา มีกระรอกให้วิ่งไล่งับเป็นการยืดเส้นยืดสาย

ทั้งคู่ยังตระเวนเดินทางไปศึกษาสถาปัตยกรรมที่ไอซ์แลนด์ ญี่ปุ่น และสวิตเซอร์แลนด์ เป็นต้น พวกเขาหลีกเลี่ยงการถ่ายรูป อาคารบ้านเรือนที่ชอบและถูกใจ เพราะไม่คิดลอกเลียนโดยเฉพาะ ในส่วนของรายละเอียด เพียงต้องการสัมผัสด้วยความรู้สึกเท่านั้น Sean ย้ำหนักแน่นว่า “เราไม่ต้องการธนาคารรูปถ่าย เรามีธนาคาร ความจำของเราเอง”

เมื่อมาถึงขั้นตอนงานออกแบบ พวกเขาเลือกเพื่อนรักที่คบหากันมานาน Toshiko Mori สถาปนิกหญิงประจำแมนฮัตตันและเป็นอาจารย์สาขาวิชาสถาปัตยกรรมของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เธอมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการว่า สามารถสร้างสรรค์ผลงานที่มีทั้งความประณีตและประโยชน์ใช้สอยได้จริงดังที่ Sean เอ่ยถึง ด้วยความชื่นชมว่า บ้านที่เธอออกแบบ “จะไม่ทำให้คุณปวดหัวกับปัญหาหลังคารั่ว หรือผนังที่ทนแรงลมไม่ได้ หรือทนหิมะหนาแปดฟุตไม่ได้”

ส่วน Mori ยอมรับว่า “ดิฉันชอบ งานยากๆ”

เธอจึงไปดูทำเลด้วยตนเอง และ ร่างแบบแปลนบ้านสองชั้นสไตล์เรียบง่าย ที่มีโถงทางเข้าหักมุม เธอกำหนดให้ชั้นล่างโปร่ง กรุกระจกเกือบทั้งหมด ขณะที่ชั้นสองกลับออกแบบให้ทึบและเน้นเฉพาะหน้าต่างเท่านั้น

สำหรับตัวบ้านด้านนอก Mori เลือกกรุด้วยแผ่นอลูมินัม-โฟม ปกติเป็น วัสดุที่ใช้ในอาคารอุตสาหกรรม เธออธิบายว่า นอกจากคุณสมบัติที่เป็นโลหะ สะท้อนแสงและทนทานต่อสภาพอากาศแล้ว อลูมินัม-โฟมยังมีพื้นผิวที่ให้ความรู้สึก “เชื่องช้าเนิบนาบ” เวลาที่จ้องดูด้วย

งานก่อสร้างใช้เวลาร่วมสองปีจึงแล้วเสร็จ บ้านขนาด 6,500 ตารางฟุตให้ความรู้สึกอบอุ่นพอดีๆ อย่างที่ Mary บรรยายว่า “เวลาที่ดิฉันเข้ามาพัก ก็ไม่รู้สึกว่ามันใหญ่โตเกินไป Toshiko กำหนดสัดส่วนทุกอย่างได้ลงตัวเป๊ะ”

พื้นที่ใช้สอยสำหรับส่วนรวมส่วนใหญ่อยู่ชั้นล่าง รวมทั้งห้องครัวที่ Mary ยืนยันให้ใช้สีแดงเข้มกับตู้ในห้องครัว เพราะ “เวลาเตรียมอาหารมื้อเย็น สีแดงเข้มนี้เป็นเหมือนฉากที่วิเศษมาก ราวกับมีแก้วไวน์แดงอยู่ตรงหน้า”

ห้องสมุดซึ่งเป็น “หัวใจแห่งภูมิปัญญา” ของบ้านและพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมไปในตัว ตั้งอยู่ชั้นบนและห้อมล้อมด้วยห้องนอน ผนังด้านหนึ่งเป็นชั้นหนังสือรวบรวมผลงานของศิลปิน Marcel Duchamp อีกด้านหนึ่งเป็นผลงานของศิลปิน Joseph Beuys ขณะที่ชั้นหนังสือหลายชั้นจัดแสดงผลงานของนักเขียน James Joyce ที่รวมถึงจดหมาย ต้นฉบับ และหนังสือที่ตีพิมพ์ครั้งแรก สองสามีภรรยายังลงทุนซื้อหนังสือสารานุกรมชุด Penguin Classics ทั้งหมด 1,082 เล่มมาไว้ในห้องสมุด เพื่อให้แขกผู้มาเยือนมีทางเลือกถ้าต้องการอ่านหนังสือเนื้อหาสบายๆ

สำหรับงานตกแต่งภายใน ทั้งสองเลือกร่วมงานกับ Mori แทนการจ้างมัณฑนากรชื่อดังมารับผิดชอบ เช่น Mary โปรดปรานเก้าอี้นั่งสบาย บ้านของเธอจึงมีโซฟาลอยตัว (suspended sofa) ผลงานของ Poul Kjaerholm นักออกแบบชาวเดนมาร์กติดตั้งอย่างเก๋ไก๋

เพราะเป็นเจ้าของห้องจัดแสดงผลงานศิลปะ บ้านของ Sean ย่อมต้องมีผลงานของศิลปินที่เขาคุ้นเคยแขวนโชว์ตามผนัง อาทิ Marina Abramovic, Rebecca Horn, Callum Innes และ Iran do Espirito Santo แต่ดูเหมือน Sean ต้องการพิสูจน์ด้วยว่า บ้านหลังนี้เป็นที่พักพิงยามครอบครัวอยากผ่อนคลายจากธุรกิจห้องจัดแสดงผลงานศิลปะ ไม่ใช่อีกสาขาหนึ่ง เขาจึงเลือกนำผลงาน ของศิลปินโดดเด่นหลายคนที่ไม่เคยจัดแสดงมาก่อนมาอวดสายตา ผู้มาเยือน หนึ่งในนั้นคือ ภาพติดผนังขนาดยักษ์บริเวณทางเข้าที่มีข้อความว่า all this and heaven as well ซึ่งเป็นผลงานของ Birgir Andresson ศิลปินชาวไอซ์แลนด์

Sean ให้เหตุผลที่นำมาโชว์เป็นจุดเด่นว่า “เพราะเป็นคำพูด ที่สื่อได้สมบูรณ์แบบที่สุดว่าเรารู้สึกต่อบ้านหลังนี้อย่างไร”