ย้อนหลังไปเมื่อประมาณปลายปี 2520 บุคคลกลุ่มหนึ่งอันได้แก่ ธวัช พลังเทพินทร์, พร ศรีจันทร์, กนก อภิรดี, ไพบูลย์ สำราญภูติ, สมชัย สุทธิกุลพานิช, ทองเจน ศิริวงศ์ และพรทิพา ณ ระนอง ซึ่งคร่ำหวอดในวงการตลาดมานานได้ริเริ่มจัดตั้งบริษัทมีเดีย โฟกัสขึ้น โดยอาศัยที่ยังไม่มีใครคิดจัดเก็บสถิติข้อมูลค่าใช้จ่ายโฆษณาสินค้าแต่ละสื่อขึ้นมาทำ ด้วยทุนจดทะเบียนครั้งแรกเพียง 100,000 บาท ที่ทำการขณะนั้นตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 38 ซอยสุภางค์ สุขุมวิท 34

ในปี 2521 ข้อมูลเริ่มออกมา

ปี 2522 มีเดีย โฟกัส ย้ายไปอยู่บ้านเช่าในซอยอโศก สุขุมวิท 21 ใกล้กับอาคารสยามธนาคาร 2 และเพิ่มทุนจดทะเบียนครั้งแรกอีก 900,000 บาท รวมกับทุนจดทะเบียนไปแล้ว 100,000 บาท รวมเป็นทุน 1 ล้านบาท กรรมการที่เข้ามาใหม่ในช่วงนี้ล้วนแต่เป็นกำลังสำคัญของมีเดีย โฟกัสในเวลาต่อมา อาทิ วศิน เตยะธิติ (กรรมการผู้จัดการฟาร์อีสต์แอดเวอร์ไทซิ่ง), สุรางค์ เจียรบรรจงกิจ, ชัชวาล สัตตะรุจาวงษ์, สงกาศ บุญญาสัย (สเปคตรัมสตูดิโอผู้ทำปกให้กับหนังสือคู่แข่ง) และเสนาะ สุจิมา

ปลายปีเดียวกันนี้เอง มีเดีย โฟกัส ต้องเพิ่มทุนอีกครั้ง รวมเป็นทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เพราะค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลเป็นตัวเลขสูงมาก คณะกรรมการบริษัทจึงได้หาหนทางที่จะใช้ข้อมูลนี้ให้เป็นประโยชน์ในรูปแบบอื่น เพราะรายได้จากการขายข้อมูลเพียงอย่างเดียวไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่เสียไป

ในปี 2523 หนังสือ "คู่แข่ง" จึงเกิดขึ้นมา และเป็นตัวที่ทำเงินให้กับ มีเดีย โฟกัส มากอย่างเกินความคาดหมายตราบเท่าทุกวันนี้

ธวัช พลังเทพินทร์ เป็นตัวจักรสำคัญของ มีเดีย โฟกัส มาตั้งแต่เริ่มต้นและในฐานะที่เป็นศิษย์เก่านิเทศศาสตร์ ธวัชได้เข้าไปร่วมในกองบรรณาธิการร่วมกับ กนกศักดิ์ ซิมตระกูล (ปัจจุบันเป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ) เนื้อหาภายในหนังสือคู่แข่งยุคแรกถึงปัจจุบัน จึงมีข่าวสถิติและข้อมูลที่เกี่ยวกับการตลาดของสินค้าประเภทต่างๆ เป็นข่าวประจำ และด้วยข้อมูลที่ตัดสินใจนำมาลงประจำนี้เอง ทำให้คู่แข่งมีข้อได้เปรียบหนังสือฉบับอื่นๆ ในแนวเดียวกัน

ในช่วงที่คู่แข่งทำท่าไปได้ดีในตลาดหนังสือ ปี 2525 มีเดีย โฟกัส ได้ย้ายสำนักงานไปอยู่ในซอยศรีนคร สุขุมวิท 71 โดยเริ่มแรกเป็นเพียงทาวน์เฮาส์ 1 ห้อง, เป็น 2 ห้องจนถึง 3 ห้อง

หลังจากที่นำคู่แข่งเข้าตลาดจนกระทั่งติดตลาด มีเดีย โฟกัส ได้ออกหนังสืออีกเล่มชื่อ “คลังสมอง” และหนังสือพิมพ์อีก 2 ฉบับในเวลาไล่เลี่ยกันคือ “หญิงยุคใหม่” และ”เสียงเด็ก” แต่ทั้ง 3 ฉบับหลังนี้ก็ยังไม่มีเล่มใดทำสถิติได้เทียบเท่าคู่แข่ง

และเมื่อคู่แข่งดำเนินงานจนครบ 5 ปีเข้าสู่ปีที่ 6 มีเดีย โฟกัส เริ่มเข้าจับงานแฟร์ ชิ้นแรกที่ประเดิมทดลองตลาดคือ คู่แข่งแฟร์ โดยรวบรวมบริษัท ร้านค้ากว่า 200 แห่งจัดงานในระหว่างวันที่ 1-10 พ.ย. 28 บนชั้น 4 มาบุญครองเซ็นเตอร์ ประมาณ 260 บูธ และได้รับความสนใจมากพอสมควรเพราะเตรียมโหมโรงมาอย่างดีทั้งทีวี, บัสไซด์, หนังสือพิมพ์ ฯลฯ เมื่อมีครั้งแรกและได้ผลก็คงจะมีครั้งต่อไป แต่จะเป็นเมื่อใดและรูปแบบใด มีเดีย โฟกัส เท่านั้นที่จะรู้

ปัจจุบันผู้ถือหุ้นของ มีเดีย โฟกัส ล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดีในวงการการตลาด ดังรายชื่อต่อไปนี้

ธวัชและพริ้มเพรา (ภรรยาธวัช) ถือหุ้นรวม 4,900 หุ้น

รักสนิท, สถิตพงษ์ พรประภา ถือหุ้นรวม 1,000 หุ้น

บริษัทสินแร่สยาม ถือหุ้น 1,000 หุ้น

สุรินทร์ ธรรมนิเวศ (กรรมการผู้จัดการบริษัทซูซูกิจำกัด) ถือหุ้น 1,200 หุ้น

ชัชวาล สัตตะรุจาวงษ์ ถือหุ้น 1,000 หุ้น

กนก อภิรดี (ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการโอสถสภา เต๊กเฮงหยู) ถือหุ้น 850 หุ้น

วศิน เตยะธิติ ถือหุ้น 600 หุ้น

เสนาะ สุจิมา ถือหุ้น 525 หุ้น

สถิตย์ ธุวจิตต์ ถือหุ้น 1,000 หุ้น

ประชัย กฤษฤานนท์ ถือหุ้น 1,000 หุ้น

บริษัทภัทรสาธิต จำกัด ถือหุ้น 1,000 หุ้น

ธนา ไชยประสิทธิ์ ถือหุ้น 1,550 หุ้น

กานดา สุชนารักษ์ ถือหุ้น 500 หุ้น

บุญชัย โชควัฒนา ถือหุ้น 500 หุ้น

พิเชียร ดูสมิทธิ์ ถือหุ้น 300 หุ้น

กิตติ โรจนชลาสิทธิ์ ถือหุ้น 300 หุ้น

สุชาติ วุฒิชัย (มือโฆษณาครีเอทีฟ) ถือหุ้น 300 หุ้น

สรรเสริญ ปั้นเปล่ง (เคยอยู่ซูซูกิ ปัจจุบันเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ มีเดีย โฟกัส) ถือหุ้น 300 หุ้น

มนูญ เดชณรงค์ (ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลของ มีเดีย โฟกัส เป็นกรรมการรองผู้อำนวยการ มีเดีย โฟกัส) ถือหุ้น 300 หุ้น

ไพบูลย์ สำราญภูติ ถือหุ้น 200 หุ้น

ทองเจน ศิริวงศ์ ถือหุ้น 200 หุ้น

สงกาศ บุญญาสัย ถือหุ้น 200 หุ้น

สนั่น อังอุบลกุล (กรรมการผู้จัดการศรีไทยซุปเปอร์แวร์) ถือหุ้น 200 หุ้น

สมภพ ตรีศิริพิศาล ถือหุ้น 200 หุ้น

ประสงค์ จันทยาสาคร ถือหุ้น 200 หุ้น

มานิต อติวานิชพงษ์ ถือหุ้น 100 หุ้น

สุรางค์ เจียรบรรจงกิจ ถือหุ้น 100 หุ้น

มานิต รัตนสุวรรณ (หนังสือสไตล์) ถือหุ้น 100 หุ้น

บุญศิริ จิตตั้งวัฒนา (อยู่ลินตาส) ถือหุ้น 100 หุ้น

ประยุทธ จรรยารักษ์ ถือหุ้น 100 หุ้น

ม.ร.ว.รมณียฉัตร แก้วกิริยา (เดิมอยู่ดีทแฮล์ม ปัจจุบันเป็นบรรณาธิการบริหารหญิงยุคใหม่ ถือหุ้น 100 หุ้น

สมชัย สุทธิกุลพานิช ถือหุ้น 75 หุ้น

รวม 20,000 หุ้น หุ้นละ 100 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นรวม 2 ล้านบาท