ยอดพิมพ์ของหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะรายวันนั้นเป็นความลับที่สำคัญมาก
หนังสือพิมพ์รายวันชั้นนำจะควบคุมยอดพิมพ์ให้ใกล้เคียงกับยอดขายอยู่เสมอคือ
ถ้าจะมีหนังสือเหลือค้างจากการขายบ้างก็จะควบคุมให้อยู่ในอัตราประมาณไม่เกิน
5 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างมาก
ยอดพิมพ์ของหนังสือพิมพ์จึงถูกใช้เป็นตัววัดความสำเร็จหรือความล้มเหลว
และก็ใช้วัดว่าใครจะยิ่งใหญ่กว่าใครด้วย
ความจริงข้อนี้สามารถถามได้จากไทยรัฐ, เดลินิวส์ หรือแม้กระทั่งบางกอกโพสต์ก็เถอะ
ย่อมไม่ปฏิเสธแน่ ๆ
ในวงการหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยนั้น ทุกคนทราบดีว่ายอดพิมพ์ของไทยรัฐสูงเป็นอันดับ
1 ติดตามด้วยอันดับ 2 คือ เดลินิวส์
แต่ไทยรัฐจะมียอดพิมพ์สูงกว่าเดลินิวส์กี่มากน้อยฉบับกลับไม่ค่อยมีใครทราบตัวเลขจริง
ๆ ที่จะทราบกันก็คือผู้บริหารของแต่ละฉบับซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมเปิดเผยให้ฟังเสียอีกด้วย
ว่ากันเข้าใจง่าย ๆ คือต่างฝ่ายต่างต้องสืบเสาะข้อมูลเอาเองนั่นแหละ และก็ต้องสืบเสาะกันทุกระยะเพื่อให้รู้สถานะของคู่แข่งขัน
อย่างเช่นไทยรัฐก็ต้องอยากทราบว่าอันดับ 2 อย่างเดลินิวส์นั้นตีตื้นขึ้นมาแล้วหรือยัง
หรือข้างฝ่ายเดลินิวส์ก็คงต้องอยากทราบว่าไทยรัฐไปถึงไหนแล้วเป็นธรรมดา
ไทยรัฐนั้นใช้หลาย ๆ วิธีในการตรวจสอบยอดพิมพ์แต่ละช่วงของเดลินิวส์
โดยวิธีที่ใช้บ่อยที่สุดก็คือการส่งสายสืบไปยืนนับจำนวนคันรถที่ใช้บรรทุกหนังสือพิมพ์ออกมาจากโรงพิมพ์ของเดลินิวส์ว่าวันหนึ่ง
ๆ ใช้กี่คัน ซึ่งรถแต่ละคันบรรทุกหนังสือพิมพ์กี่ฉบับย่อมไม่ใช่เรื่องยากที่จะคำนวณอยู่แล้ว
วิธีนี้คงใช้บ่อยเกินไป วันดีคืนดีทางฝ่ายเดลินิวส์ก็เลยเอารถเปล่าออกวิ่งเข้า
ๆ ออก ๆ ให้หลาย ๆ เที่ยวเข้าไว้
ทางไทยรัฐก็จำเป็นต้องหยุด หันไปใช้วิธีอื่น ซึ่งจะใช้วิธีไหนนั้นคงมิบังอาจบอกเล่าได้
ส่วนการสืบเสาะยอดพิมพ์ไทยรัฐของฝ่ายเดลินิวส์นั้นใช้กันอยู่วิธีเดียวและก็ได้ผลมาก
วิธีที่ว่านี้ก็คือการตรวจสอบเศษกระดาษที่บริษัทหนึ่งรับซื้อมาจากโรงพิมพ์ของไทยรัฐซึ่งรับซื้อกันทุกวันโดยวิธีชั่งกิโลขาย
เศษกระดาษวันหนึ่ง ๆ มีน้ำหนักเท่าใดบวกลบคูณหารตามหลักวิชาของคนที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการพิมพ์แล้ว
ก็จะทราบได้ไม่ยากว่าไทยรัฐใช้กระดาษเป็นจำนวนเท่าไรในการพิมพ์หนังสือพิมพ์แต่ละวัน
บวกลบคูณหารอีกทีก็ออกมาเป็นจำนวนฉบับ
ก็แล้วทำไมฝ่ายเดลินิวส์จึงสามารถทราบยอดเศษกระดาษไทยรัฐทุกวัน?
คำตอบก็คือบริษัทที่เป็นผู้รับซื้อเศษกระดาษของไทยรัฐนั้นเผอิญมีหุ้นส่วนใหญ่คนหนึ่งชื่อประชา
เหตระกูล!
และประชา เหตระกูล ก็เผอิญมีตำแหน่งเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์เดลินิวส์
ก็แค่นี้แหละ
หันมาดูด้านรายวันภาษาอังกฤษบ้าง
แน่นอน ยอดพิมพ์อันดับ 1 คงได้แก่บางกอกโพสต์ ตามด้วยเดอะเนชั่น
แต่จะนำหรือตามกันแค่ไหนนั้น ก็มาทำนองเดียวกับยุทธจักรหนังสือพิมพ์รายวันภาษาไทยทุกประการ
คือไม่มีใครกี่คนที่ทราบถึงยอดพิมพ์จริง ๆ ของทั้งบางกอกโพสต์และเดอะเนชั่น
"ในแต่ละวันเราใช้กระดาษพิมพ์ในปริมาณซึ่งมากพอจะวางต่อกันจากกรุงเทพฯ
ถึงสัตหีบได้" ทางบางกอกโพสต์บอกอย่างนั้น
ใครเก่งคำนวณลองเอาโจทย์ข้อนี้ไปขบคิดดูเองก็แล้วกันว่าบางกอกโพสต์มียอดพิมพ์วันละกี่ฉบับ
อ้อ...อย่าลืมตรวจสอบเส้นทางกรุงเทพฯ-สัตหีบเสียก่อนล่ะ ว่าบางกอกโพสต์เขาหมายถึงว่าต้องเดินทางด้วยถนนเส้นทางไหนบ้าง
เพราะเดี๋ยวนี้มีทางลัดประเดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วหลายสายด้วยกัน