|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมาโซนี่จะประสบความสำเร็จในยอดขายกล้องดิจิตอลแบบพกพามาโดยตลอด เมื่อการแข่งขันดุเดือด มากขึ้น และหลายค่ายที่เลือกเล่นสงครามราคาเพื่อเข้ามาแย่งแชร์การตลาด ทำให้โซนี่ต้องเร่งปรับตัว
ตลาดกล้องดิจิตอลแบบพกพา (คอมแพค) หรือบริษัทโซนี่ ไทย จำกัด เรียกกล้องดังกล่าวว่า ไซเบอร์ ชอท สามารถพกพาสะดวกเป็นตลาดที่บริษัทครองแชมป์อันดับหนึ่งมาเป็นระยะ เวลานานจวบจนถึงปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดร้อยละ 20
เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง มีผู้เล่นเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นคู่แข่งของค่ายโซนี่ ไม่ได้จำกัดเฉพาะประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ประเทศเกาหลีเริ่มบุกตลาดอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นซัมซุงหรือแอลจี ใช้กลยุทธ์สงครามราคาเพื่อเบียดเข้ามาในตลาด หรือแม้แต่ คู่แข่งจากประเทศญี่ปุ่นอย่างยี่ห้อแคนนอนก็ไม่ยกเว้น
ทำให้กล้องไซเบอร์ ชอท มีราคาจำหน่ายลดลงทุกปี เฉลี่ยปีละร้อยละ 10 ซึ่งค่ายโซนี่มองว่าเป็นการลดราคาอย่างรวดเร็ว และราคากล้องคอมแพคที่วางขายในตลาดปัจจุบัน 1 ตัวมีราคาต่ำกว่า 2 พันบาท ขณะที่โซนี่จำหน่ายราคาเฉลี่ย 5-6 พันบาท
การเล่นสงครามทำให้ค่ายโซนี่อยู่ในภาวะลำบาก เพราะไม่มีนโยบายแข่งขันด้านราคา จึงทำให้ลูกค้ามองว่ากล้องโซนี่มีราคาสูง อย่างเช่น กล้องไซเบอร์ ชอท ล่าสุดที่เปิดตัว 2 รุ่น คือ DSC-TX 55 ราคา 13,990 บาท และ DSC-WX 30 ราคา 8,990 บาท
แม้ว่าผู้บริหารค่ายโซนี่จะไม่เปิดเผยยอดขาย หรือกำไรของตลาดกลุ่มดังกล่าวก็ตาม แต่โซนี่ได้ส่งสัญญาณส่งกล้องรุ่นใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดในช่วงนี้ โดยเฉพาะกล้องในรุ่นอัลฟาในกลุ่ม SLR ที่เน้นการใช้งานในระดับโปรเฟสชั่นนอล แสดงให้เห็นว่าค่ายโซนี่ เริ่มมองหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ช่วยรักษากำไรและรายได้ให้เหมือนเดิม
เชิดพงษ์ ตันติพูนธรรม บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด บอกว่าตลาดกลุ่ม SLR บริษัทเริ่มเข้ามาทำตลาดเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา มองว่าเป็นกลุ่มใหม่ที่ยังมีโอกาสอีกมาก แม้ว่ากล้องรุ่นโปรเฟสชั่นนอลจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ด้วยคุณภาพของกล้องตรงกับกลุ่มเป้าหมายและกำลังซื้อ
จากการมองเห็นช่องว่างในตลาดกลุ่มนี้ทำให้โซนี่ขนสินค้า กลุ่ม Alpha และ NEX ออกมาเปิดตัว ซึ่งกลุ่มอัลฟาจะมีราคาตั้งแต่ 2 หมื่นกว่าบาท จนถึง 6 หมื่นกว่าบาท โดยกล้องรุ่น NEX บริษัทพยายามชี้ให้เห็นจุดเด่นของความเป็นกล้องมิเรอร์เลสที่อ้าง ว่าเป็นกล้องที่ตอบสนองชัตเตอร์เร็วที่สุดในโลก
โทรุ ชิมิซึ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด บอก ว่า ตลาด SLR และ NEX กล้องทั้ง 2 ตระกูลนี้จะสร้างโอกาสมหาศาลให้กับโซนี่
นโยบายการรักษารายได้และกำไรของโซนี่ คือการนำกล้อง ที่มีเทคโนโลยีใหม่ออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น บริษัทได้ร่วมกับอาร์เดล แกลเลอรี่ จัดนิทรรศการภาพถ่าย “เห็น 4” หรือ see saw seen 4 ร่วมกับศาตราจารย์ถาวร โกอุดมวิทย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
หรือจัดแข่งขันภาพถ่ายระดับนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ผ่านโครงการ Alpha Campus Photo Contest
กิจกรรมที่จัดขึ้นในปีนี้ ล้วนมีเป้าหมายเพื่อนำกล้องรุ่นอัลฟา และ NEX เข้ามาให้ตลาดได้รู้จักและทดลองใช้
กลยุทธ์ของโซนี่เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสทดลองและสัมผัส ยังถือว่าเป็นการทำตลาดเบื้องหน้าเท่านั้น แต่เบื้องหลังบริการหลังการขายโซนี่ยังไม่พูดเรื่องนี้มากนัก เพราะศูนย์บริการรองรับ กล้องกลุ่ม SLR ปัจจุบันยังไม่มี
การตัดสินใจซื้อครั้งแรก หมายถึงความประทับใจ ส่วนบริการหลังการขาย จะเป็นคำตอบว่าลูกค้าจะอยู่กับโซนี่ได้นานเพียงใด
|
|
|
|
|