Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2529
"ตำแหน่งมันแค่เก้าอี้ดนตรี ผมจะมีความสุขมากที่สุดถ้าผมเป็นแค่กรรมการเฉยๆ ไม่ต้องมาทำงานทุกวัน"             
 


   
search resources

สุนทร อรุณานนท์ชัย
เงินทุนหลักทรัพย์สินเอเชีย, บมจ.




สุนทร อรุณานนท์ชัย ลำพังตำแหน่งประธานกรรมการบริหารของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์สินเอเซีย บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยก็หาเวลาว่างให้กับตัวเองไม่ค่อยได้อยู่แล้ว

ก็เลยทำให้ใครต่อใครถามเจ้าตัวด้วยความห่วงอยู่เสมอ เมื่อปรากฏว่าเขาต้องไปรับตำแหน่งนายกสมาคมสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ ควบกับนายกสมาคมเงินทุน (ตั้งขึ้นมาแทนสมาคมไทยเงินทุนและตลาดหลักทรัพย์ที่ตายซากไปแล้ว) แล้วไหนจะต้องเสียเวลากับการจัดระบบบริหารให้กับโรงงานน้ำตาลราชบุรี ที่เป็นธุรกิจส่วนตัวซึ่งเปรียบเสมือนเผือกเผาที่ร้อนระอุมือ

ที่เป็นห่วงก็คือจะเอาเวลาที่ไหนมาทำงาน เพราะตำแหน่งแต่ละแห่งไม่ใช่แค่ตำแหน่งทางสังคมอย่างเดียวมีงานที่ต้องทำมากมาย

"มีบางคนเขาก็บอกว่าผมไปทำอะไรตั้ง 2-3 สมาคม แหม…แล้วผมอยากจะเป็นที่ไหนกันล่ะ เพื่อนฝูงบอกว่ายังไงก็ต้องเป็น ผมรับปากแต่บอกเขาว่ายังไง ๆ ต้องรีบหาคนมาแทน โธ่…ถ้าคุณเข้าใจผม ตำแหน่งพวกนี้เหมือนเก้าอี้ดนตรี แล้วเราไม่เป็นดีกว่าเป็น ถ้าไม่เป็นนายกสมาคมอะไร ใครมาขอความร่วมมือเราให้ได้หมด…ผมชอบตายเลย แต่เมื่อเป็นเราต้องยึดระเบียบของสมาคม อย่างนี้อึดอัดจะตายไป คุณว่าผมเป็นแล้วดีขึ้นหรือเปล่า" สุนทรระบายกับ "ผู้จัดการ" ยาวเหยียดก่อนจะจบประโยคด้วยคำถาม

กลางเดือนกุมภาพันธ์ต่อไปจนถึงเดือนมีนาคม สุนทร อรุณานนท์ชัย ยังต้องมีภาระเพิ่มอีกอย่างหนึ่งคือเนื่องจากดุษฏี สวัสดิ-ชูโต ประธานกรรมการและ ดร. มารวย ผดุงสิทธิ์ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ สุนทรในฐานะรองประธานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ ก็เลยต้องรักษาการแทนทั้งประธานและผู้จัดการโดยแบ่งเวลาไปนั่งทำงานที่ห้อง ดร. มารวย ผดุงสิทธ์ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า "ตายแน่"

เช่นเดียวกับผู้บริหารทั่วไปที่ไม่ว่างานหนักแค่ไหนจะต้องหาเวลาด้วยกีฬาประเภทต่าง ๆ เดิมทีสุนทรชอบตีแบดมินตันเป็นชีวิตจิตใจ มาระยะหลังที่ออกจากทิสโก้จึงเปลี่ยนมาเล่นเทนนิส และเพิ่งเลิกราไปเมื่อต้นปี 2528

"เดี๋ยวนี้ผมไม่ค่อยได้ออกกำลังอะไรเลย…ภรรยาผมบ่น เมื่อก่อนนี้ผมตีเทนนิสประจำกับเพื่อนสนิทของผมคือคุณบุญยิ่ง นันทาภิวัฒน์ ก็ตีที่สนามหน้าบ้านเพราะคุณบุญยิ่งเขาขยันมาเรียกผมทุกเช้า ต่อมาคุณบุญยิ่งเสียชีวิตผมก็เลยแทบไม่ได้เล่นอีก คุณบุญยิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว วันที่ 19…ผมจำได้แม่นทีเดียว สุนทรเล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงซึมเศร้า

สิ่งเดียวที่เขาถือว่าเป็นการพักผ่อนและเป็นนิสัยติดตัวมาตั้งแต่เด็ก ก็คือการอ่านหนังสือ ที่ได้จัดอยู่ในขั้น "หนอนหนังสือ" คนหนึ่ง และไม่เพียงแต่อ่านเท่านั้นในเรื่องงานที่เขียนเขาก็ชอบ รายงานที่เกี่ยวกับงานที่สินเอเซียหลายต่อหลายชิ้นสุนทรจะร่างขึ้นเองโดยอาศัยข้อมูลมาจากลูกน้อง แม้กระทั้งบทความบางชิ้นที่นิตยสารบางฉบับมาขอไปลงอย่าง พ.ร.ก. ธนาคารพาณิชย์ฉบับอื้อฉาว สุนทรก็ยังอุตส่าห์เจียดเวลานั่งเขียนด้วยตนเอง

จะเป็นเพราะเหตุใดก็ตาม ความรู้สึกของ "ผู้จัดการ" ที่มีโอกาสพบและสัมภาษณ์ สุนทร อรุณานนท์ชัยถึง 2 ครั้ง ก่อนที่จะเขียนรายงานชิ้นนี้ รู้สึกว่าแม้สุนทรจะรักและอยากที่จะอยู่กับสินเอเซียต่อไป แต่ก็เป็นความรักที่เนือยจนผิดสังเกต อย่างหลาย ๆ ประการที่พอจะสะท้อนความรู้สึกที่ว่านี้

"อย่างที่ผมบอกแล้วว่าตำแหน่งมันเหมือนเก้าอี้ดนตรี อย่างผมนั่งอยู่ที่สินเอเซีย ถ้าผมไม่มีอะไรทำผมก็คงหางานใหม่ได้…มันไม่ฉิบหายอะไร คนเราไม่ต้องไปผูกกับตอแจ….มันไม่ใช่ ผมจะมีความสุขที่สุดถ้าผมเป็นกรรมการเฉย ๆ แบบที่ไม่ต้องมานั่งทำงานทุกวัน คุณคิดว่าผมไม่อยากจะเล่นกอลฟ์บ้างหรือ คิดว่าผมไม่อยากตีเทนนิสเหรอ ผมมีเวลาไหม …ตีเทนนิสไม่ต้องใช้สมองเลย ดูแต่ลูกเท่านั้น หวดให้เจอลูกก็แล้วกัน…มันไม่ดีกว่าเหรอ"

อีกเรื่องหนึ่งที่ทำความหงุดหงิดให้กับสุนทร อรุณานนท์ชัยมาก ก็คือการวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชน โดยเฉพาะล่าสุดที่เป็นบทความที่เขียนโดยคอลัมนิสต์ชื่อดังในนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่งที่ระบุว่า เขามีบ้านหรูหราปานราชวังอยู่ที่จังหวัดระยอง และเป็นคนที่ได้ดีเพราะฝีปากมากกว่าฝีมือ

"คุณรู้จักกับเขาไหม" คำถามที่ถามกับ "ผู้จัดการ" อย่างฉุนเฉียวและพูดต่อว่า

"ผมเองไม่เคยพบกับเขาเลย เมื่อเห็นเรื่องนี้ไม่รู้ว่าเขาเอาข้อมูลมาจากไหนเขียนผิดหมดเลยจนผมประหลาดใจ ผมอยากให้เขาไปดูเองว่าบ้านหลังนิดเดียวที่ต่างจังหวัดที่ผมสร้างในวงเงิน 4-5 แสนบาทจะเป็นวังได้ยังไง…มันเกินไป เขียนอย่างนี้เขาเองจะเสียไม่ใช่ผม แหม…คุณดูกระต๊อบแล้วบอกว่าเป็นวัง ที่นั่นบอกผมบอกราคาให้ก็ได้ผมซื้อที่แค่ 70,000 บาท…ซื้อที่ 70,000 บาทไปสร้างวัง (หัวเราะขื่น ๆ)"

สุนทร อรุณานนท์ชัยพูดย้ำในตอนท้าย ๆ ของการสัมภาษณ์ว่า โดยตัวเขาเองรังเกียจการวิ่งเต้นที่สุดใครมาหาถ้าคิดว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ได้ก็จะทำให้เลยไม่ต้องมาวิ่งเต้น และปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าเขาเป็นคนชอบเข้าหาผู้ใหญ่เพื่อหวังผลประโยชน์

"ผมไม่เคยไปเยี่ยมผู้ใหญ่ตอนปีใหม่เพราะผมถือเรื่องนี้ และการที่เราไปพบใครก็ไม่ใช่ว่าเราต้องไปขอ…มีแต่เราให้คนอื่น…มันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง บางคนบอกว่าผมต้องไปขออะไร

ผู้ใหญ่…มันไม่ต้อง…ผมไม่มี อะไรต้องขอ คุณเข้าใจไหม หรือแม้แต่กับทางการผมไม่ได้ทำอะไรผิด ผมต้องไปขออะไร" สุนทร อรุณานนท์ชัย พูดอย่างอัดอั้นตันใจเป็นประโยคสุดท้ายกับ "ผู้จัดการ"

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us