Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา ตุลาคม 2554
ชาร์เทริซ เหล้าดีของพวกนักบวช             
โดย สุภาพิมพ์ ธนะพรพันธุ์
 


   
search resources

Entertainment and Leisure




มื้ออาหารของชาวฝรั่งเศสเริ่มต้นจากเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยที่เรียกว่า aperitif มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งวิสกี้หรือเหล้าหวานอย่าง Porto ไวน์หวานของโปรตุเกส พันช์ หรือน้ำผลไม้สำหรับผู้ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ชอบเหล้า Banyuls ของ Cellier des templiers รสชาติละม้าย Porto แต่ละมุนกว่า

รู้จัก Banyuls เมื่อหลายปีก่อนยามเดินทางไปเที่ยวกอลลีอูร์ (Collioure) เมืองสวยริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากชายแดนสเปนนัก ครั้งนั้นได้ชิมไวน์ Collioure อันเป็นไวน์ซึ่งต้องแช่เย็นก่อนเสิร์ฟ สีแดงละม้ายไวน์แดง แต่ไม่เข้มข้นเท่า จากกอลลีอูร์ เดินทางไปบานยูลส์ (Banyuls) ซึ่งอยู่ห่างเพียงนั่งรถไฟประมาณ 20 นาที หลังจากเดินเที่ยว แล้ว ขอไปเยือน cave ของ Cellier des templiers ได้ชิมไวน์หลายชนิด ไปติดใจไวน์ Collioure Serris และ Banyuls อันเป็นชื่อเมืองนั่นแหละ เป็นไวน์รสเลิศ Collioure Serris เป็นไวน์สีออกแดงใส ต้องแช่เย็นก่อนดื่ม จึงละม้ายไวน์ชมพู จึงสั่งซื้อสำหรับดื่มในช่วงที่อากาศอุ่นขึ้นและต้องการเครื่องดื่มที่เย็นๆ อีกทั้งสั่ง Banyuls ที่มีรสชาติคล้าย Porto แต่ละมุนกว่า ดื่มเป็นเหล้าเรียกน้ำย่อยก่อนอาหาร (aperitif) นับแต่นั้นจะมีเหล้าสองอย่างนี้ติดบ้านและติดมือไปบ้านญาติมิตรยามได้รับเชิญไปรับประทานอาหาร

เพื่อนคู่หนึ่งเคยไปทำงานที่เยอรมนี และพำนักไม่ห่างจากชายแดนเยอรมนี อีกทั้งภรรยาเป็นชาวสเปน จึงมักมีเหล้าแปลกๆ ให้ชิมอยู่เสมอ เช่น เหล้าของแคว้นบาสค์ (Pays basque) หรือเหล้าพื้นบ้านที่เป็น aperitif และเหล้าย่อย อาหาร (digestif) ครั้งหนึ่งให้ชิม La Chartreuse หลังอาหารสำหรับย่อยอาหาร เพื่อนบอกว่าได้มาตอนไปเที่ยวแถบชาร์เทริซ (Chartreuse) แต่บอกว่าน่าจะหาได้ในปารีสนะ นับแต่นั้นเฝ้าแต่มองหา La Chartreuse จนเลิกความพยายาม และแล้ววันหนึ่ง Auchan ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาด ยักษ์มาเปิดข้างบ้าน ไปเดินดูแผนกเหล้า พลันเห็น La Chartreuse จึงคว้าติดมือกลับบ้าน ก่อนหน้านั้นไปมองหาที่ร้านค้าของพวกนักบวชแถวโบสถ์แซงต์-แจร์เวส์-แซงต์-โปรเตส์ (Saint-Gervais-Saint-Protais) แปลกที่ไม่มี La Chartreuse แต่มี Elixir vegetal de la Grande Chartreuse รสเข้มข้น อัตราแอลกอฮอล์ 69 ดีกรี เป็นขวดเล็กในขวดไม้อีกทีหนึ่ง ใช้สำหรับเหยาะลงในกาแฟหรือชาสมุนไพร สรรพคุณช่วยย่อยอาหาร

La Chartreuse และ Elixir vegetal de la Grande Chartreuse เป็นเหล้าที่กลั่นโดยนักบวชที่วัดกรองด์ ชาร์เทริซ (Monastere de la Grande Chartreuse) ซึ่งก่อตั้งในปี 1084 โดยนักบวชเยอรมันชื่อบรูโน (Bruno) ภายหลังได้เป็นนักบุญ ซึ่งเดินทางมาถึงแซงต์-ปิแอร์-เดอ-ชาร์เทริซ (Saint-Pierre-de-Chartreuse) ในจังหวัดอิแซร์ (Isere) ไม่ไกลจากเมืองเกรอะโนบล์ (Grenoble) นัก พร้อมนักบวชอีก 6 คน ตั้งชื่อวัดตามเทือกเขาชาร์เทริซ (Massif de la Chatreuse) เรียกนักบวชในวัดนี้ว่าชาเทรอซ์ (Chartreux) โดยมีจุดประสงค์ แสวงหาวิเวก ความสงบเงียบและสวดมนต์ เพื่อเข้าถึงพระเจ้า ในปี 1091 สันตะปาปา อูร์แบง (Urbain II) ที่ 2 ทรงแต่งตั้งบาทหลวงบรูโนให้เป็นที่ปรึกษา จึงจำต้องไปอยู่ที่โรม พร้อมกันนั้นไปตั้งวัดของพวกชาร์เทรอซ์ใหม่ที่กาลาเบร (Calabre)

นักบวชชาร์เทรอซ์ดำเนินชีวิตเรียบ ง่าย เวลาหมดไปกับการสวดมนต์ นักบวช แต่ละคนจะมีห้องพักของตนเอง ซึ่งมีเครื่องเรือนเท่าที่จำเป็น เตียงนอน โต๊ะ เก้าอี้ นักบวชชาร์เทรอซ์อ่านหนังสือ และรับประทานอาหารในห้อง ทุกวันอาทิตย์และวันหยุดศาสนาจึงจะมารับประทานอาหารร่วมกัน ปีหนึ่งนักบวชชาร์เทรอซ์จากทุกแห่งในโลกจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสวดมนต์ร่วมกัน แต่ละห้องมีประตูเปิดไปยังบริเวณสวนส่วนตัว นักบวชแต่ละคนจะทำงานตามที่ถนัด ทำสวน ทำงานศิลป์ ทำครัว ไม่มีใครสามารถสั่งใครได้ ทุกอย่าง เป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าตัว นักบวช ชาร์เทรอซ์ใช้ชีวิตในห้องของตนเองเป็นส่วนใหญ่ จะได้พบกันเมื่อมาสวดมนต์ในโบสถ์ จะได้พูดต่อเมื่อมาพบปะกันตอนพัก และการเดินเล่นประจำสัปดาห์ นอกจากนั้นอยู่กับความวิเวกและความเงียบ

ประตูวัดไม่เคยเปิดให้คนภายนอก มิไยที่มีผู้กระหายใคร่รู้เห็นหรือนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าวัดนี้เป็นอย่างไร ในปี 2006 ฟิลิป โกรนิง (Philip Groning) ผลิตภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Le grand silence เกี่ยวกับนักบวช ที่วัดนี้ เขาต้องรอถึง 16 ปีจึงได้รับอนุญาต ให้ถ่ายทำ เป็นครั้งแรกที่สาธารณชนได้เห็นวิถีชีวิตของพวกนักบวชชาร์เทรอซ์

ทุกสองสัปดาห์นักบวชชาร์เทรอซ์จะขึ้นรถไปที่โรงกลั่นเหล้าที่วัวรง (Voiron) เพื่อกลั่นเหล้าชาร์เทริซอันลือชื่อ เป็นกิจกรรมที่ทำรายได้ให้วัด จึงไม่ต้องพึ่งพา แหล่งเงินอื่นๆ

La Chartreuse เป็นเหล้าสีเขียวมรกต เริ่มจากปี 1605 เมื่อดุกแห่งเอสเตรส์ (Duc d’Estrees) มอบเอกสารลายมือแก่นักบวชชาร์เทรอซ์ที่โวแวรต์ (Vauvert) ซึ่งปัจจุบันคือสวนลุกซองบูรก์ (Jardin du Luxembourg) เอกสารนี้เป็น สูตรอายุวัฒนะ วัดกรองด์ บาร์เทริซนำมา ศึกษาและผลิตเป็นเหล้า ซึ่งเป็นยาอายุวัฒนะชื่อ Elixir vegetal de la Grande Chartreuse ให้เณรขี่ลาไปขายตามหมู่บ้าน ใกล้เคียง ชาวบ้านชอบใจแล้ว จึงค่อยๆ พัฒนาจากยาอายุวัฒนะเป็นเหล้าสำหรับย่อยอาหาร (digestif) แต่รสชาติเฝื่อน ต่อเมื่อปี 1764 วัดจึงสามารถผลิตเหล้าชาร์เทริซสีเขียว ใช้ชื่อว่า liqueur de sante-เหล้าเพื่อสุขภาพ

เมื่อนักบวชชาร์เทรอซ์ถูกขับออกจากฝรั่งเศส จึงไปสร้างวัดใหม่ในสเปนที่ตาร์รากอน (Tarragone) และนำสูตรเหล้าไปด้วย เหล้าชาร์เทริซ ที่ผลิตในตารากอนจะบ่งด้วยว่า ผลิตในตารากอนโดยบาทหลวงชาร์เทรอซ์ หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสอนุญาตให้นักบวชชาร์เทรอซ์กลับเข้าประเทศได้ วัดกรองด์ ชาร์เทริซจึงฟื้นคืนกลับ พร้อมกับการผลิตเหล้าชาร์เทริซในฝรั่งเศส

สูตรเหล้ายังคงเป็นความลับสุดยอด มีเพียงบาทหลวง 1 คนและเณร 1 คนเท่านั้นที่รู้วิธีการปรุง โดยปรุงจากสมุนไพร 130 ชนิด อัตราส่วนต่างกันเล็กน้อยเมื่อผลิตเหล้าที่ต่างกัน

นอกจาก Elixir vegetal de la Grande Chartreuse แล้ว มีชาร์เทริซเขียว-La Chartreuse verte สีเขียวมาจาก คลอโรฟิลด์ มี 55 ดีกรี เป็นเหล้าสำหรับย่อยอาหาร ชาร์เทริซเหลือง-La Char-treuse jaune มี 40 ดีกรี สีเหลืองมาจาก หญ้าฝรั่น (safran) La Chartreuse VEP-Vieillissement exceptionnellement prolonge ซึ่งเป็นสุดยอดของเหล้าชาร์เทริซ แต่ละขวดจะมีหมายเลขกำกับและจุกขวด ผนึกด้วยขี้ผึ้ง เป็นเหล้าที่บ่มนานเป็นพิเศษ นอกจากนั้นยังผลิตเหล้าชนิดอื่นๆ จากสมุนไพรด้วย เช่น Gentiane, Genepi, Eau de noix

โดยปกติแล้วเหล้าชาร์เทริซเป็นเหล้าสำหรับย่อยอาหาร แต่นำมาผสมค็อกเทล (cocktail) ได้ เช่น Green chaud, TNT, Shuttle, Chartreuse tonic, Chartreuse orange, Chartreuse experience เป็นต้น

ในแต่ละปี วัดกรองด์ ชาร์เทริซผลิตเหล้าขายทั่วโลกนับล้านขวด   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us