Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2529
สมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ ภาระ (อันหนักอึ้ง) ของหัวแถว “นันทาภิวัฒน์” เช่นเขายังมีอยู่!             
 


   
search resources

ธนาคารแหลมทอง
สุระ จันทร์ศรีชวาลา
สมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์
ใหญ่ นันทาภิวัฒน์
Banking




เมื่อใหญ่ นันทาภิวัตน์ ยังไม่ร่ำรวยอู้ฟู่ นับย้อนจากวันนี้ไปประมาณ 50 ปี ครอบครัวของเขาตั้งรกรากดูมั่นคงพอประมาณบนถนนนเรศ ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างถนนสุรวงศ์กับถนนสี่พระยา ลูกเต้าของเขาทุกคนได้ถือกำเนิด ณ ที่แห่งนี้

ห้วงเวลาที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อตัว ญี่ปุ่นเปิดฉากบุกเอเชียอาคเนย์ มันเกิดขึ้นพร้อม ๆ กับความร่ำรวยอย่างมากและทันตาเห็นของเขา อันเนื่องมาจากการประกอบกิจการเหมืองแร่-ค้าแร่ในภาคใต้ ใหญ่เริ่มมองเห็นว่าบ้านนันทาภิวัตน์ที่ถนนนเรศดูจะเป็นทิศทางเดียวกับไฟสงครามจะลุกลามไปถึง เขาคิดจะหอบหิ้วครอบครัวออกจากจุดที่เป็นศูนย์กลางความเจริญของเมือง

พระยาอโศกมนตรีเจ้านายเก่ายุครัชกาลที่ 6 ผู้ที่มีดินชานเมืองจำนวนมาก เมื่อพระยาอโศกเริ่มอัตคัดขัดสนก็แก้ปัญหาโดยการเฉือนที่ดินอันเป็นสมบัติราคาถูกในสมัยนั้นออกขาย เหมือนเจ้านายแห่งกรุงสยามทั่วไป ใหญ่ นันทาภิวัตน์ ซึ่งรู้จักรักใคร่อันดีกับพระยาอโศก จึงได้ซื้อที่ดินบริเวณดังกล่าวสะสมมาเรื่อย ๆ แปลงใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่ไม่ใช่ผืนเดียวติดต่อกัน

นันทาภิวัตน์มีที่ดินกว่า 30 ไร่ ปัจจุบันบริเวณตรงนั้นเรียกกันว่าสุขุมวิท 21 หรือซอยอโศกซึ่งผู้ตั้งชื่อตั้งใจให้ไว้เป็นอนุสรณ์แก่เจ้าของที่ดินเดิม

บนที่ดินผืนใหญ่ของเขาเนื้อที่ประมาณ 12 ไร่ ต่อมาบ้านหลังใหญ่ ๆ หลาย ๆ หลังถูกสร้างขึ้นในบริเวณนั้น บ้านหลายหลังเหล่านั้นรวมกันเรียกว่า “บ้านไพศาล” ใหญ่เห็นว่าลูก ๆ น่าจะมีอิสระแก่กันโดยเฉพาะเมื่อมีครอบครัว จึงกั้นรั้วระหว่างบ้านของลูกแต่ละคนในบ้านไพศาล

ว่ากันว่าต่อมาเมื่อนันทาภิวัตน์กลมเกลียวที่สุด ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่เรียกคืนไม่ได้อีกแล้ว รั้วกั้นบ้านเล็กในบ้านใหญ่ถูกรื้อ ความใกล้ชิดรักใคร่ดุจพี่น้องตระกูลผู้ดีอย่างแท้จริงขึ้นสู่กระแสสูงอย่างยิ่ง

แต่แล้วโลกกลับหมุนกลับ เมื่อใหญ่และไพศาลเรียงแถวอำลาโลกไป รั้วภายในบ้านไพศาลได้ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง แน่นหนาและแข็งแรงกว่าเดิม

บ้านไพศาลของตระกูลนันทาภิวัตน์วันนี้เงียบเหงาอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

ใหญ่มีลูกชาย 7 คน หญิง 1 คน ได้แก่ ไพศาล สมบูรณ์ สมปองหรือวุฒิเทพ เถาวัลย์ คุณหญิงสมสุข ศรีวิศาลวาจา บุญยิ่ง อภิวัฒน์ และสืบสกุล

ดูเหมือนใหญ่จะรักลูกชายคนแรกมาก บริษัทเหมืองแร่ตั้งชื่อว่าไพศาล บ้านใหญ่อันรวมบ้านเล็กหลาย ๆ บ้านของตระกูลนันทาภิวัตน์ ก็เรียกว่าบ้านไพศาล ว่ากันว่าไพศาลเคียงคู่กับผู้พ่อสร้างฐานะครอบครัวมาด้วยกัน เขาเสียสละด้วยการออกจากการเรียนหนังสือกลางคันเพื่ออนาคตของคนทั้งตระกูล

สมบูรณ์กับสมปอง อายุไล่เลี่ยห่างกันเพียงปีเดียว และเป็นพี่น้องคู่ที่ทะเลาะกันมากที่สุด

ในบรรดาพี่น้อง 8 คนนั้น สมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ได้ชื่อว่าเป็นคนฉลาดที่สุด

สมบูรณ์ลืมตาดูโลกในช่วงที่พ่อไม่ร่ำรวยนัก เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2465 เขาได้รับการเลี้ยงดูแบบคนไทยที่มีชาติตระกูลอย่างแท้จริง “ผมเรียนจบโรงเรียนสวนกุหลาบ รุ่นเดียวกับพลเอกสัณฑ์ จิตรปฏิมา พลเรือเอกสมบูรณ์ เชื้อพิบูล พลตำรวจเอกสุรพล จุลพราหมณ์ รุ่นหลังพลเอกเปรมเพียงปีเดียว” เขาบอกกับ “ผู้จัดการ”

ที่สำคัญเขาสอบได้ที่ 1 ของสวนกุหลาบในปีนั้น

“ผมเข้าจุฬาฯ เรียนวิศวฯ เพราะผมเก่งคำนวณ และบิดามีกิจการเหมืองแร่ ค้าขายแร่” สมบูรณ์คุยให้ฟังถึงเหตุผลที่เขาตัดสินใจเรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาเหมืองแร่

เขาจบการศึกษาอายุน้อยมากเพียง 20 ปีเท่านั้น หนุ่มน้อยสมบูรณ์เริ่มทำงานครั้งแรกด้วยการรับราชการที่บริษัทแร่และยางไทย “ตอนนั้นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลท่านยึดเหมืองแร่ จากพวกอังกฤษมีเรือขุดตั้ง 40 ลำ พวกที่จบวิศวฯ มาใหม่มาทำงานที่นี่กันมาก”

ขณะนั้นพ่อของเขาตั้งบริษัทไพศาล เพื่อประกอบกิจการเหมืองแร่ ค้าแร่ดีบุกและวุลแฟรมแล้ว โดยมีลูกชายคนโตช่วยงาน สมบูรณ์เล่าว่าช่วงสงครามใกล้ยุติดูรุนแรงน่ากลัว ตนจึงลาออกจากบริษัทแร่และยางไทยมาทำงานคู่กับไพศาลในบริษัทของตระกูลนันทาภิวัตน์

ปลายปี 2491 ใหญ่กับพวกร่วมกันตั้งธนาคารแหลมทอง สมบูรณ์เป็นลูกชายคนหนึ่งในสามคนที่ถูกดึงเข้าทำงานที่ธนาคาร “ตอนตั้งแบงก์พ่อบอกให้ผมมาช่วย ผมเลยบอกว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ผมขออย่างถ้าผมมาทำงานแบงก์ กิจการอื่นต้องเลิกหมด เพื่อไม่ให้คนมองว่าตั้งแบงก์เพื่อสนับสนุนกิจการของครอบครัว ผมพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิ ใครจะว่าผมแฟมิลี่ แต่ผมไม่มีประโยชน์ หรือเอาเงินไปใช้ในธุรกิจของตนเอง” สมบูรณ์เน้นหลายครั้งถึงเรื่องที่ภาคภูมิใจอย่างมากนี้ กับ “ผู้จัดการ” ในการสนทนาซึ่งนานกว่า 2 ชั่วโมง

และแล้วบริษัทไพศาลก็เลิกกิจการไปในที่สุด

สมบูรณ์เริ่มงานในตำแหน่ง CHEIF CACHER ซึ่งเป็น OFFICER CLASS A จนมาถึงผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศ กรรมการรองผู้จัดการ และกรรมการจัดการเมื่อปี 2518

ประสบการณ์ถึง 27 ปีในธนาคารแหลมทอง กว่าเขาจะขึ้นสูงสุด ย่อมเป็นเรื่องสมเหตุสมผล นอกจากความรู้ด้านธนาคารที่สั่งสมจากประสบการณ์โดยตรงแล้ว สมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ยังเจียดเวลา 6 เดือนฝึกงานที่ WELLS FARGO BANK สหรัฐอเมริกา

มองเพียงมิติเดียวแล้ว สมบูรณ์น่าจะเรียกได้ว่าเป็นนายธนาคารมืออาชีพที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของเมืองไทย ปัจจุบันเขาเป็นนายธนาคารที่อำนาจบริหารเต็มที่ที่มีอายุทำงานนานที่สุดในบรรดานายธนาคารพาณิชย์ทั้งหมดก็ว่าได้ และเขาได้รับความไว้วางใจจากกิจการหลายแห่งที่ธนาคารแหลมทองมีหุ้นเพียงเล็กน้อยให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ กล่าวคือ ประธานกรรมการบริษัท ฟอร์โมสต์ฟรีชแลนด์ ประธานกรรมการบริษัทจีเอสสตีล ประธานบริษัทฟีนิคพัลพแอนด์เพเพอร์ รองประธานกรรมการบริษัทแผ่นเหล็กวิลาสไทย และกรรมการบริษัทดุสิตธานี

ยิ่งไปกว่านั้นสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ ยังเคยดำรงตำแหน่งประธานสมาคมธนาคารไทย (ปี 2525-2526) อีกด้วย

“มีแบงเกอร์คนไหนบ้างที่เป็นมืออาชีพหรือได้รับการยอมรับเท่าผม” เขาประกาศอย่างอหังการที่สุดกับ “ผู้จัดการ” เมื่อต้นเดือนเมษายน 2529

เขามีอะไรหลาย ๆ อย่างคล้าย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ผู้มีบุญคุณอย่างสูงต่อธนาคารแหลมทองและตระกูลนันทาภิวัตน์

สมบูรณ์เป็นคนฉลาดหลักแหลมจนสุระ จันทร์ศรีชวาลาคู่ปรับคนสำคัญของเขาต้องยอมรับว่า “เขาเป็นคนเก่งมาก คนคนนี้คาดยาก ถ้าเป็นคนอื่นผมพอจะคาดเดาอะไรได้”

เขาเป็นนักเล่นบริดจ์ระดับเซียน เล่นมาตั้งแต่หนุ่มรุ่นกระทงจนถึงความชรามาเยือนอย่างคนวัย 64 เช่นปัจจุบัน

แต่สมบูรณ์แตกต่างจากหม่อมคึกฤทธิ์ตรงที่เก็บอารมณ์ซึ่งค่อนข้างแปรปรวนในบางครั้งของเขาไม่อยู่ ยิ่งไปกว่านั้นมันกลับถูกส่งออกมาอย่างรุนแรงท่วมท้นเมื่อถูกสิ่งเร้า

โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขแห่งอำนาจ

ในบรรดานันทาภิวัตน์ เขายังมีลักษณะ STRONG PERSONALITY ที่สุด

หรือจะพูดอีกอย่างว่า สมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ เป็นนายธนาคารตัวเล็กแต่เสียงดังและใจใหญ่อย่างมาก ๆ เสียด้วย

“นานมาแล้ว ตอนนั้นแกอายุน้อยกว่าเพื่อนประมาณ 22 ปี เท่านั้นเอง ร่วมวงเล่นบริดจ์ ประกอบด้วยผู้ใหญ่ทั้งนั้น ตั้งแต่คุณหลวงสรการฯ อายุ 80 ปี คุณทวี แรงขำ คุณประสิทธิ์ ณ พัทลุง อายุ 30 ปี หมอสมภพ สุสังกรกาญจน์ เวลาแกโมโหขึ้นมาคุณหลวงสรการฯ ยังเคยถูกดุเอาเลย” คนเก่าคนแก่ที่รู้นิสัยสมบูรณ์ดีเล่าให้ฟัง

ว่ากันอีกว่าในก๊วนเล่นกอล์ฟสมัยนั้น สมบูรณ์ร่วมวงไพบูลย์ด้วย โดยมีอายุน้อยกว่าเพื่อน

เมื่อสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ เป็นหัวแถวของนันทาภิวัตน์ หลังจากไพศาลสิ้นชีวิตนั้น บทบาทแห่งอำนาจเฉียบขาดกับความเป็นสุภาพบุรุษดูประสานกลมกลืนกัน จนแยกไม่ออก เขาถูกกล่าวหาว่าเผด็จการอำนาจบ้าง คนที่ทนไม่ไหวคนแรกคือ วุฒิเทพ น้องชายติดกันนั่นเอง

ในธนาคาร พลตำรวจตรีต่อศักดิ์ ยมนาค ประธานกรรมการธนาคารแหลมทองคนแรกที่ลาออกจากตำแหน่งในขณะที่ทุกคนก่อนหน้าออกจากตำแหน่งเมื่อสิ้นชีวิต เช่นเดียวกับสหธนาคาร “คุณต่อศักดิ์” แกไม่ชอบจะเป็นประธานแบงก์เฉย ๆ อยากจะมีอำนาจบ้าง ก็เลยสวนทางกับคุณสมบูรณ์ ที่ถือตนว่าเป็นผู้บริหารที่มีอำนาจ ก็เลยขัดกัน” คนเก่าธนาคารแหลมทองเล่าให้ “ผู้จัดการ” ฟัง ในที่สุดพลตำรวจตรีต่อศักดิ์ ก็เลยสะบัดก้นจากไป

จากกรณีข้างต้นเลยทำให้ผู้สนใจกิจการธนาคารแห่งนี้เป็นพิเศษ ตั้งสมมุติฐานกันขึ้นมาว่าการลาออกจากตำแหน่งประธานของพยัพ ศรีกาญจนา อาจจะต้นเหตุเดียวกัน “คุณไปถามเขาเองสิ ผมไม่ตอบปัญหาของคนอื่น” สมบูรณ์ตอบคำถามเหมือนไม่ได้ตอบกับ “ผู้จัดการ”

ในบางสถานการณ์ความเป็นคนยึดมั่นถือมั่นอย่างมากของสมบูรณ์กลับเป็นสิ่งดี ในปี 2525 เขาได้สร้างวีรกรรมรุกโต้ตอบพลโทหาญ ลีนานนท์ แม่ทัพภาคที่ 4 (ขณะนั้น) ที่ออกมาตีแผ่ว่าธนาคารประกอบการมุ่งประโยชน์เข้ากระเป๋าแต่ฝ่ายเดียว เห็นสมควรยึดธนาคารมาเป็นของรัฐ พลโทหาญโชคร้ายที่เจอสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ ประธานสมาคมธนาคารไทยเข้าพอดี การตอบโต้ชนิดไม่ถอยแม้ก้าวเดียวของนายธนาคารร่างเล็กใจใหญ่ เป็นที่พออกพอใจแก่บรรดานายธนาคารทั้งหลายอย่างยิ่ง หนังสือ “ดอกเบี้ย” จึงยกสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ ขึ้นเป็นนายธนาคารประจำปี 2525 ซะเลย

จนมาถึงกรณียืดเยื้อที่สุดกับสุระ จันทร์ศรีชวาลา ผู้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องพบว่าวิธีการต่อสู้ของสมบูรณ์นั้นใช้แบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” ทุกระยะทุกขั้นตอน

“ท่านเป็นคนควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยจะอยู่ โดยเฉพาะเวลาคุณสุระออกมาให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ว่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้กับธนาคาร ท่านจะต้องออกแถลงข่าวตอบโต้บ้าง ถ้าท่านจะทำใครจะห้ามเสียให้ยากเลย” พนักงานระดับบริหารคนหนึ่งของธนาคารแหลมทองปัจจุบันบอก “ผู้จัดการ”

สมบูรณ์ นันทาภิวัตน์เกิดอาการ HEART ATTACKED จนต้องหามส่งโรงพยาบาลสมิติเวช เมื่อประมาณปี 2524 เหมือนจะรู้ว่าตนเองถึงคิวแล้วที่ “โรคประจำตระกูล” จะฉุดคร่าเอาชีวิตไป แต่ก็ยังดีที่วันนี้คนห้อมล้อมให้ความอบอุ่น ห้วงเวลาที่นอนซมโรงพยาบาลเขามีคนมาเฝ้ามาปรนนิบัติไม่ขาด ชีวิตเช่นสมบูรณ์มันเหงา ๆ อยู่แล้ว ถึงแม้จะสิ้นลมหายใจวันนี้ ยังดีกว่าวันหน้าที่อาจไม่มีใครดูใจเลย

ภิวัฒน์ นันทาภิวัตน์ (เหน่ง) กับสุระ จันทร์ศรีชวาลา คือคนที่มาดูอาการเอาใจใส่อย่างยิ่งตั้งแต่แรกจนถึงวันสุดท้ายที่เขาออกจากโรงพยาบาลได้

ขณะที่ยังนอนอยู่โรงพยาบาลนั้น สมบูรณ์ได้เซ็นโอนหุ้นของเขาเองให้เหน่งไปหลายหมื่นหุ้น เขาคิดตอนนั้นเหน่งคือหลานรักคนเดียวที่เขาฝากผีฝากไข้ได้

21 เมษายน 2525 ภิวัฒน์มีอันต้องลาจากไปไม่มีวันกลับโดยไม่ได้ร่ำลาเขาสักคำ สมบูรณ์ “ช็อก” ไม่คาดคิดมาก่อนว่าหลานรักจะชิงตัดหน้าเขาไปก่อน น้ำตาเอกบุรุษของเขาถึงร่วงเผาะ ๆ สมบูรณ์เคยกล่าวว่า เขาไม่เคยเสียใจอะไรที่ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ มันเป็นเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

และก็สุระอีกนั่นแหละที่ยกโขยงพี่น้องมาช่วยเป็นธุระในงานศพ กลุ่มแขกมาเฝ้างานสวดศพทุกคืนสร้างความประทับใจหัวแถวนันทาภิวัตน์เช่นเขาอย่างลึก ๆ ดังนั้นเมื่อสมบูรณ์มาเป็นผู้จัดการมรดกเหน่ง พบว่าเหน่งซื้อหุ้นไว้จำนวนมาก และกลุ่มแขกอ้างว่าใช้เงินของมิดแลนด์ ประกอบกับเหน่งก็เป็นหนี้กลุ่มแขกจำนวนหนึ่ง กระแสข่าวฝ่ายสมบูรณ์กล่าวว่าเมื่อสุระ จันทร์ศรีชวาลามาขอหุ้นจึงเป็นไปได้โดยง่าย ยิ่งสุระผู้เมื่อต้องการอะไรมักจะตีนอ่อนมืออ่อนด้วยแล้ว เรื่องน่าจะยุ่งยากจึงจบลงด้วยความพอใจของทุกฝ่าย

สมบูรณ์ตอนนั้นไม่เฉลียวใจแม้แต่น้อยว่าหุ้นที่เขาให้หลานชายจะมาถึงมือแขก รวมกับหุ้นที่เขาตัดใจชำระหนี้ที่หลานชายก่อไว้กับกลุ่มแขก จะเป็นหนามยอกอกที่ทำให้วัยชราของเขาที่น่าจะเย็นลงและสุขุมกลับไปสู่สภาพตรงข้ามเช่นวันนี้

แม้ธนาคารแหลมทองจะเป็นธนาคารเล็ก ๆ ของประเทศนี้ หากมองลงไปถึงเจตนาและนโยบายแล้ว มีหลายประการที่ควรยกขึ้นมายกย่องชมเชย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมอุตสาหกรรม ซึ่งสมบูรณ์เป็นคนกล่าวกับ “ผู้จัดการ” เองว่า เขาและพี่ชายเห็นความสำคัญดังกล่าวนี้ตั้งแต่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเกิดขึ้น

นายธนาคารที่มีปริญญาวิศวกรรมศาสตร์พ่วงท้ายเช่นสมบูรณ์ สมควรอย่างยิ่งที่ได้รับการชมเชยว่าเป็นนักการธนาคารที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ ๆ

โครงการที่สมบูรณ์ภาคภูมิใจมากเห็นจะได้แก่ การก่อตั้งบริษัทกรุงเทพอบพืชและไซโล สร้างไซโลขนาดใหญ่ เพื่อควบคุมคุณภาพข้าวโพดสำหรับการส่งออก เขาเป็นคนเจรจาร่วมทุนกับญี่ปุ่นจนสำเร็จ วุฒิเทพ นันทาภิวัตน์ ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการบริษัทนี้ยอมรับกับ “ผู้จัดการ” ว่าการเกิดขึ้นของไซโลเป็นผลงานของสมบูรณ์ แม้ว่าต่อมาโครงการนี้จะล้มลุกคลุกคลาน เปลี่ยนมือเจ้าของและผู้บริหารหลายครั้งหลายครา แต่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงการเล็งการณ์ไกลของสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ เพราะปัจจุบันข้าวโพดเกือบทุกเม็ดที่ส่งออกจะต้องผ่านกระบวนการของไซโลซึ่งเขาเป็นผู้บุกเบิก จึงจะเป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ

แน่นอนย่อมมีบางโครงการที่สมบูรณ์ไม่อยากจะนึกถึงมัน เช่น โครงการไทยฟาร์มมิ่ง แบบอิสราเอล ปลูกพืชเมืองหนาว ผ่านกรรมวิธีรักษาความสด ก่อนการส่งออกที่เชียงใหม่ “มีปัญหาความไม่เข้าใจของชาวไร่ ซึ่งรากฐานการศึกษาไม่เพียงพอ อย่างเป็นต้นว่าถั่วมีอายุ 45 วัน ต้องตัดทันที ชาวไร่บอกว่า 47 วันโตขึ้นอีกหน่อย น้ำหนักเพิ่มอีกนิด พอเขาไม่ซื้อก็หาว่าเขาโกง ต่อมาต้องขายกิจการให้คนอื่นไป โรงงานล้มละลายต่อมา” สมบูรณ์แฉเหตุผลของความล้มเหลว ว่ากันว่าโครงการนี้ลงทุน 2-300 ล้านบาท แต่ขายให้ทหารไปแค่ 60 ล้านบาท ในสมัยพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เป็นนายกรัฐมนตรี

บริษัทโรยัลซีรามิค ที่เขาเป็นคนริเริ่ม ต้องมีอันเป็นไป จนเครือซิเมนต์ไทย TAKE OVER ไปในที่สุด ฯลฯ

มีบางโครงการที่ยังไม่อาจจะสรุปความล้มเหลวในตอนนี้อย่างชัดแจ้งเสียทีเดียว คือโครงการผลิตกระดาษด้วยปอแห่งแรกในโลก ซึ่งสมบูรณ์ เป็นคนปลุกปล้ำมากับมือ

ถึงวันนี้เขายังยืนยันว่า “หน่อ” ความคิดเขานั้นดี แต่เวลามันงอกงามเติบโตนั้น มักจะพบปัญหาหรือถูกเหยียบย่ำจนไม่มีชิ้นดี เมื่อคิดถึงสิ่งเหล่านี้ทุกวันนี้สมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ จึงลดความ “กระตือรือร้น” ไปมากทีเดียว

เพราะเมื่อมองกลับไปข้างหลังก็พบว่าสิ่งที่เขาพยายามสร้างเกียรติประวัติให้แก่วงการอุตสาหกรรมนั้นมันเหลือแต่ซากสิ่งปรักหักพังเสียส่วนใหญ่

พ่อของเขาจากไปเป็นคนแรกในปี 2497 พี่ชายคนโตที่เขาเชื่อถือเดินทางตามไปในปี 2518 วุฒิเทพ นันทาภิวัตน์ ผู้เป็นน้องซึ่งร่วมเส้นทางเดียวกันสร้าง “สิ่งที่ดีงาม” แก่วงการส่งออกข้าวโพดในนามของธนาคารแหลมทอง ปฏิเสธจะร่วมทางกับเขาตลอดไป ในปี 2524 ภิวัฒน์ (เหน่ง) หลานชายที่รู้ใจตายอย่างเป็นปริศนา “ช็อก” ความรู้สึกเขาอย่างรุนแรง ในปี 2525 บุญยิ่ง นันทาภิวัตน์ ซึ่งเขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะดึงมาช่วยงานธนาคารอันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของตระกูลนันทาภิวัตน์ ก็หัวใจวายไปเมื่อต้นปี 2528

อภิวัฒน์ กับสืบสกุล น้องชายอีก 2 คนนั้นเล่าจะไว้วางใจได้สักแค่ไหน?

สมบูรณ์รู้สึกว่าบั้นปลายของชีวิตของเขาวังเวงอย่างมาก

“ผมพูดอย่างภูมิใจที่เป็นนายธนาคารมืออาชีพ ไม่มีกิจการของตนเองตั้งแต่ต้น ทำงานด้วยความซื่อสัตย์ ไม่เคยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ คุณจะเห็นว่าที่ดินบ้านช่องผมมีมาก่อนตั้งแบงก์ ผมก็มีอยู่เท่านี้ไม่ได้เพิ่มขึ้น” นี่กระมั่งคือสิ่งที่เขาเหลืออยู่

แม้อารมณ์ของเขาจะมีความสุขและอ่อนไหวอย่างมากกับเพลงเศร้า ๆ ที่พูดถึงความพลัดพรากของ โอเปอเรต้าอย่าง ONE FINE DAY ของ MADAM BUTTERFY แต่แววตาของเขายังแสดงความอหังการและไม่ยอมใครง่าย ๆ โดยเฉพาะคนที่ชื่อสุระ จันทร์ศรีชวาลา

สมบูรณ์ตั้งใจจะอำลาธนาคารแหลมทองเมื่ออายุครบ 65 ปี ซึ่งเหลือเวลาอยู่เพียง 2 ปีเท่านั้น “ผมก็ตั้งใจอย่างนั้น แต่กรรมการจัดการของแบงก์เขาไม่มีกำหนดอายุ ความตั้งใจน่ะเป็นของผม แต่ผมก็ไม่รู้ว่าอีก 2 ปี สถานการณ์หรือกรรมการของแบงก์จะว่าอย่างไร สำหรับผมเองคิดว่าถ้าแบงก์มันเรียบร้อยดีก็ควรหาความสบายในชีวิตของเรา” เขาบอกกับ “ผู้จัดการ”

เขาจะใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสนุกสนานกับการเล่นกอล์ฟและบริดจ์

แต่กว่าจะถึงวันนั้นสมบูรณ์ นันทาภิวัตน์ จะต้องเผชิญอะไรอีกบ้าง?

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us