Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ เมษายน 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ เมษายน 2529
อย่างนี้หรือที่เขาเรียกว่าแถลงข่าว?             
 


   
search resources

ธนาคารแหลมทอง
สุระ จันทร์ศรีชวาลา
สมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์
Banking




เวลานัดแถลงข่าวของสมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ กำหนดไว้ 15.30 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2529 อันเป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ของธนาคารแหลมทอง มีผู้สื่อข่าวจากสื่อมวลชนฉบับต่าง ๆ ไปนั่งรออยู่กว่า 30 คน เนื่องจากวันนั้นไม่ใช่เพียงการประชุมปกติธรรมดาของธนาคารแหลมทอง เพราะก่อนหน้านี้ สุระ จันทร์ศรีชวาลา กรรมการคนหนึ่งของธนาคาร ประกาศว่าจะมีการขอมติจากผู้ถือหุ้นเพื่อปลดสมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ ออกจากตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ

นั่งรอกันจนเมื่อยแล้วเมื่อยอีกการประชุมก็สิ้นสุดเอาเมื่อ เวลา 16.35 น. และเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็บอกให้เข้าไปนั่งฟังการแถลงข่าวในห้องที่เพิ่งประชุมผู้ถือหุ้นไปหมาด ๆ บรรยากาศในการแถลงของสมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ โดยเฉพาะช่วงตอบคำถามเรียกได้ว่าแปลกพิสดารไม่น้อย จึงอยากนำมาถ่ายทอดให้ผู้อ่านของเราชนิดคำต่อคำ

ผมขอเริ่มเรื่องเลยนะครับ... วันนี้การประชุมใหญ่มีนายสันต์ อัครานุเคราะห์ เป็นประธานกรรมการและประธานในที่ประชุม มีจำนวนผู้ถือหุ้นที่ประชุมด้วยตนเองและผู้ถือใบหุ้นตามใบมอบฉันทะจำนวนทั้งสิ้น 3,930,991 หุ้น จากหุ้น 4 ล้านหุ้น

การประชุมได้ดำเนินไปตามระเบียบวาระทุกประการ เมื่อถึงวาระเลือกตั้งกรรมการแทนกรรมการที่ออกตามวาระ 4 คนและอีก 1 คนเพื่อแทนกรรมการที่ออกก่อนวาระ ที่ประชุมก็ได้มีมติเลือกกรรมการที่ออกตามวาระทั้ง 4 คือคุณหญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ นายอภิวัฒน์ นันทาภิวัฒน์ นายสันต์ อัครานุเคราะห์ นายปิยะ ภิรมย์ภักดี และคุณชนัตถ์ ปิยะอุย (แทนพยัพ) ศรีกาญจนา ประธานกรรมการคนเก่าที่ลาออกก่อนครบวาระ)

จากนั้นก็ไปถึงระเบียบวาระของกลุ่มผู้ถือหุ้นนายสุระ ซึ่งได้ขอมา กรรมการก็เอาขอเสนอต่อที่ประชุม... เขาขอมา 4 ข้อนะครับ ข้อแรกจำแนกหุ้นที่ออกโดยขัดต่อกฎหมาย และยกเลิกใบหุ้นเหล่านั้น ห้ามมิให้บริษัทยอมรับการใช้สิทธิ์ของผู้ถือหุ้นเหล่านั้น (หุ้นกลุ่มวานิช ไชยวรรณ) เขาอ้างกฎหมายอาญาที่ธนาคารแพ้อยู่ในศาลต้นว่าไม่ได้ออกหนังสือชี้ชวน

ซึ่งความเป็นจริงนั้นยังเป็นความเพิ่งแค่ศาลต้น ธนาคารกำลังอุทธรณ์และคดียังไม่ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม เรื่องถึงจะมีผลสิ้นสุดก็เพียงแค่ลงโทษปรับธนาคารไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนความผิดที่เกี่ยวกับการจำหน่ายหุ้น หรือหุ้นเป็นโมฆะนั้นไม่มี เป็นความผิดที่ว่าออกหนังสือชี้ชวนหรือไม่ออกเท่านั้น เขาบอกว่าต้องออกแต่เราไม่ได้ออก ก็เป็นเรื่องที่ศาลต้องตีความกันต่อไป แต่ไม่ได้เกี่ยวกับตัวหุ้นเลย

เพราะฉะนั้นที่เขามาอ้างคำพิพากษาอาญาทางกฎหมายนั้นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จึงไม่เห็นด้วย และเสียงจากจำนวนผู้ไม่เห็นด้วย 2,271,190 ส่วนกลุ่มของคุณสุระที่ลงเห็นด้วย 1,659,768

เช่นเดียวกันกับในวาระที่สอง... พิจารณาผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายในการรับจองหุ้นในการออกหุ้นดังกล่าว ปรากฏว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้ให้สัตยาบรรณในการประชุมใหญ่ในวันที่ 30 มีนาคม 25527 เกี่ยวกับการกระทำของกรรมการดังกล่าวแล้ว... ลงมติรับรองแล้ว จึงไม่มีความผิดเป็นการส่วนตัวของใคร ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ไม่เห็นเป็นจริง ... ถ้าจะพูด...(เสียงอ้อมแอ้ม) ธนาคารต้องรับไป หมายความว่าถ้าคดีอาญาถึงที่สิ้นสุดอย่างไร หากศาลจะลงโทษปรับก็เป็นเรื่องที่ธนาคารต้องจ่าย ไม่ใช่กรรมการ หรือใคร การลงคะแนนเสียงก็ได้ผลรับจำนวนเดียวกัน

สาม พิจารณาออกหุ้นใหม่แทนหุ้นที่เสียไปเพราะการทำผิดกฎหมาย อันนี้เมื่อวาระหนึ่งตกไปแล้ว หุ้น 2 แสนหุ้นนั้นเป็นหุ้นที่ถูกต้อง... ผู้ถือหุ้นยืนยันว่าถูกต้องจึงไม่มีการพิจารณา ไม่มีผลต่อการพิจารณา

วาระที่ 4 พิจารณาถอดถอนตัวผมออกจากคณะกรรมการของบริษัท ก็ได้มีท่านผู้ถือหุ้นและกรรมการชี้แจงให้ความสนับสนุนให้ความไว้วางใจว่าผมยังมีความสามารถที่จะดำเนินกิจการได้ และก็ได้ลงคะแนนเสียงยืนยันว่าให้ผมเป็นกรรมการจัดการต่อไปด้วยคะแนนเสียง 2,271,190 เช่นเดียวกัน คนที่คัดค้าน 1,659,184 ... พวกที่อยากให้ผมออกนะครับ...1,659,184

เมื่อหมดวาระทั้ง 4 แล้ว ได้มีผู้ถือหุ้นเสนอว่าการกระทำของนายสุระเช่นนี้ เป็นการกระทำที่ทำให้เห็นว่าเป็นการขัดแย้งแตกแยกในการดำเนินงานของธนาคาร และเป็นผลเสียหายต่อธนาคาร ฉะนั้นจึงขอให้นายสุระพิจารณาการกระทำของตัว....คือลาออกจากการเป็นกรรมการ และขณะเดียวก็ได้ขอให้ที่ประชุมลงมติเห็นว่าไว้วางใจนายสุระหรือไม่ไว้วางใจในการเป็นกรรมการ

ที่ประชุมไม่ไว้วางใจการเป็นกรรมการของนายสุระด้วยจำนวนหุ้น 2,271,190ไม่มีผู้ใดลงความเห็นไว้วางใจ

อันนี้เป็นผลของการประชุมวันนี้

ช่วงตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว

ผู้สื่อข่าว “เดอะเนชั่น” -อยากเรียนถามว่าข้อขัดแย้งจะยุติในวันนี้เลยหรือเปล่า...

สมบูรณ์ - (พูดแทรกขึ้นมาทันที) ไอ้เรื่องนี้... มันยังไม่ยุติหรอกครับ พวกคุณก็ทราบกันอยู่ว่าเขา.... สุระเขาเขียนไว้ว่าอย่างไร พวกคุณก็ลงกันเองไม่ใช่หรือ ว่าเขาต้องพยายามเข้า....ดำเนินการ “เทคโอเวอร์ หรือบริหารแบงก์ต่าง ๆ ในปีนี้ พวกคุณเป็นคนลงนี่ (เสียงห้วน ๆ เหมือนโกรธ) คุณน่าจะถามตัวคุณเองซิ (ผู้สื่อข่าวเริ่มมองหน้ากันด้วยความอึดอัดใจ เพราะอยู่ในข่าย “พวกคุณ” ทั้งหมดไม่มีจำแนก)

คุณน่าจะไปถามตัวเองว่าคุณได้ข่าวมาจากเขายังไง แล้วเมื่อเรื่องเป็นอย่างนี้แล้วเขาจะดำเนินต่อไปอย่างไร...ผมไม่ทราบ แต่ผมมีหน้าที่บริหารงานของธนาคาร ผมต้องไปคิดเรื่องอื่น ส่วนที่เขาจะทำอะไรต่อไปก็เป็นเรื่องของเขา แต่คุณเป็นคนลงมันนี่... ว่าเขาจะยึดแบงก์ (อ้าว!) เขาจะไปถือหุ้นใหญ่..ให้มืออาชีพอย่างโน้นอย่างนี้อะไรต่าง ๆ พวกคุณเป็นคนลงกันทั้งนั้นนี่ (ไพศาล พืชมงคล ทนายความของธนาคารแหลมทอง ที่ร่วมแถลงข่าวด้วยขยับตัวอย่างอึดอัด ชำเลืองมองหน้าสมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์) คุณก็น่าจะถามเขาเองสิ.. ไม่ใช่ผมที่จะต้องตอบปัญหาของคุณในเรื่องนี่

ผู้สื่อข่าว “เดอะเนชั่น” - ที่เรียนถามก็ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการผู้จัดการ ก็อาจจะมีส่วนที่ต้องไกล่เกลี่ยหรือยุติหรือข้อขัดแย้ง เพราะมีผลต่อภาพพจน์ของแบงก์เอง ดิฉันคงไม่ได้มีเจตนาอื่นนอกเหนือจากนี้

สมบูรณ์ - ภาพพจน์ของธนาคารนั้น หนึ่งก็อยู่ที่ความจริง สอง อยู่ที่พวกคุณมีส่วนที่จะทำให้ภาพพจน์ของธนาคารดีขึ้นหรือเลวลง

ความจริงหมายความว่าอย่างไร? ก็คือการทำงานของธนาคาร ฐานะการเงินของธนาคาร การดำเนินงานของธนาคารเป็นอย่างไร? เรียบร้อยแค่ไหน... มีอุปสรรคอย่างไร อันนี้เป็นความจริง ซึ่งผมได้เรียนว่า การดำเนินงานของธนาคารเป็นไปได้โดยเรียบร้อยทุกอย่าง ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ ลูกค้าทั้งหมดก็ยังให้ความไว้วางใจ ฉะนั้นนี่คือความจริง

ส่วนที่ภาพพจน์จะเป็นไปในทางลบ ว่าทะเลาะกันอะไรต่าง ๆ นี้ อันนี้ผมก็ถือว่าเป็นเรื่องของพวกคุณ (อ้าว) คุณก็มีอิทธิพล มีอำนาจปากกาจะเขียนอย่างไรคุณก็ทำได้ ฉะนั้นมันสุดแต่คุณ (อ้าว!) คุณก็ได้ฟังคำแถลงวันนี้แล้วว่าแบงก์จะเป็นอย่างไร ผมว่าอยู่ที่พวกคุณมากกว่า ที่คุณถามว่าจะทำกันต่อไปอย่างไร หรือจะดีกันอะไรต่างๆ ผมก็ขอบอกว่าผมไม่ได้ทำอะไรทั้งสิ้นผมเป็นกรรมการจัดการที่นี่ ผมก็ทำงานที่นี่ รับใช้ผู้ถือหุ้นที่เขามอบความไว้วางใจ คณะกรรมการที่ได้รับความไว้วางใจ เราก็ทำตามความคิดเห็นของเรา ส่วนใหญ่เห็นว่าอย่างไรถูกต้องเราก็ทำอย่างนั้น...จบกัน

ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการ” ไม่ทราบว่าวาระไม่ไว้วางใจคุณสุระได้รับการบรรจุก่อนหน้าการประชุมครั้งนี้หรือเปล่า

สมบูรณ์ -เปล่าครับ...เป็นเรื่องอื่น ๆ ที่ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์เสนอเรื่องอื่น ๆ ให้พิจารณาได้

ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการ” - ผลทางปฏิบัติจะมีขึ้นอย่างไร?

สมบูรณ์ -ไม่มี.. ไม่มีผลทางปฏิบัติ เพียงแต่เท่ากับแสดงออกมาว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ไม่ชอบการกระทำของสุระ

ผู้สื่อข่าว “แนวหน้า” -ในกรณีที่มีการถอดถอนกรรมการคือคุณสุระออกไปมีการคัดค้านจากกรรมการคนอื่นหรือเปล่า

สมบูรณ์ - เราไม่ได้ถอดถอนใครนะครับ ผู้ถือหุ้นไม่ได้ถอดถอนใครนะครับ ผู้ถือหุ้นไม่ได้ถอดถอนใคร เพียงแต่ผู้ถือหุ้นมีความไม่ไว้วางใจ แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติของนายสุระไม่ถูกต้อง ทำให้ธนาคารเสียหาย เท่ากับเป็นการแสดงออกของผู้ถือหุ้นว่าไม่ไว้วางใจ คือให้คุณสุระพิจารณาตัวเอง

ผู้สื่อข่าว “แนวหน้า” ให้เวลาในการพิจารณาเท่าไหร่

สมบูรณ์ - อันนี้เราไม่กำหนดครับ เป็นเรื่องปล่อยให้คุณสุระ...

ผู้สื่อข่าว “สยามรัฐ” - ที่ว่าการกระทำของคุณสุระมีผลต่อภาพพจน์ของธนาคารนั้นเป็นอย่างไร

สมบูรณ์ - คุณมองไม่เห็นความเสียหายหรือครับ... อย่างน้อยการแตกแยกกันนี่แสดงว่าตัวเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แต่เพียงผู้เดียวมันก็เป็นเรื่องเสียหายคือธนาคารนี้เราถือตามนโยบาย.... โดยเฉพาะผมนี่ถือนโยบายกระทรวงการคลังเป็นหลัก เรากระจายหุ้น เมื่อก่อนนี้ครอบครัวผมมีหุ้น 60 เปอร์เซ็นต์ของธนาคารนี้ เดี๋ยวนี้เหลือเพียง 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ เพราะเรากระจายหุ้นออกไปเรื่อย ๆ ตามนโยบาย

แต่ขณะเดียว.... คุณสุระมาจากไหน จึงมาอ้างมีสิทธิ์ในการครอบครอง พยายามที่จะควบคุมแบงก์ โดยการซื้อหุ้นใหญ่ อันนี้มันถูกหรือเปล่าล่ะ

ไพศาล พืชมงคล - (ทนายความ ของ ธ. แหลมทอง ) อยากจะเสริมนิดหนึ่งคือว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นมานั้น เกิดขึ้นหรือไม่เพียงใดนั้นความจริงธนาคารก็อยากจะพูด แต่เนื่องจากการประกอบการธนาคารมีกฎหมายห้ามพูดในเรื่องนี้... พูดไม่ได้ ลำบากจริงๆ อยู่ตรงนี้ครับ หากเป็นบริษัทเอกชนธรรมดาอาจจะพูดได้ว่าได้มีการทำอะไรให้เสียหายเพียงใด

ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการ”- ถ้าคุณสุระไม่พิจารณาตัวเอง จะมีการให้ออกจากคณะกรรมการไหมครับ

สมบูรณ์ - อันนี้สุดแล้วแต่คณะกรรมการ ไม่ใช่ตัวผม พวกคุณเวลาลงหนังสือพิมพ์ก็มักจะลงว่าผมกับนายสุระซึ่งความจริงนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างผมทำในนามของคณะกรรมการ คณะกรรมการมีมติ ผมไม่ได้ทำด้วยตัวของผมเอง แต่คุณ (อ้าว!) ก็พาดหัวว่าผมกับนายสุระ เพราะฉะนั้นทุกคนก็เลยคิดว่าอะไรทั้งหมดนี่...อย่างโน้นอย่างนี้กับผมทั้งนั้น แต่ความจริงเป็นมติกรรมการ อย่างวันนี้ผมถึงให้เห็นว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นเขาได้แสดงชัดเจนว่าเขาไม่ไว้วางใจนายสุระ เขาออกเสียงตั้ง 2 ล้านกว่าหุ้น...หุ้นผมเองมีเท่าไหร่ ตัวผมเองมี (ชะงักไปนิด) ไม่เท่าไหร่ ฉะนั้นลำพังผมเองผมไม่มีปัญหาหรอกที่จะลงทุน 2 ล้านกว่าหุ้น ก็แสดงว่าเป็นเรื่องของส่วนรวม ไม่ใช่เป็นเรื่องของผม ขอให้เข้าใจไว้ด้วย

ผู้สื่อข่าว “ผู้จัดการ” -ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้แสดงเหตุผลอะไรไหมครับ ในการไม่ไว้วางใจคุณสุระ

สมบูรณ์ - ผมได้เรียนไปแล้วครับว่าเขาไม่พอใจ เพราะทำให้เกิดการแตกแยก แตกร้าวในหมู่กรรมการ เพราะมีที่ไหนบ้างที่มีการถอดถอนขับไล่กรรมการด้วยกัน เขาก็เป็นกรรมการคนหนึ่งแต่เขาก็ยื่นมติถอดถอนกรรมการ อย่างนี้ก็แสดงว่ามีการแตกร้าว และการแตกร้าวนี่มันเป็นผลเสีย...นี่ข้อแรก

ข้อที่สอง ในการที่เขาแสดงตัวตามหัวข่าวของคุณตลอดเวลา (อ้าว) เมื่อกี้ผู้ถือหุ้นเขาก็เอามาอ่าน ซึ่งผมก็ไม่ได้เก็บเอาไว้ ก็มีตั้งหลายฉบับ ประชาชาติธุรกิจ มติชน ...อะไรตั้งเยอะแยะพาดหัว....ไทยรัฐบ้างอะไรบ้าง ว่าคุณสุระจะ “เทกโอเวอร์” ภายในปีนี้จะเปลี่ยนผู้บริหารใหม่... อะไรอย่างนั้น อย่างนี้ ไอ้สิ่งเหล่านี้สิครับที่เป็นความเสียหาย เพราะคนที่เขาจะมาติดต่อกับธนาคาร เขาไม่รู้ว่าจะติดต่อกับใคร เดี๋ยวจะมีการเปลี่ยนแปลงกันอย่างนี้ นโยบายของแบงก์จะไปที่ไหน อันนี้สิครับที่เป็นความเสียหาย ผู้ถือหุ้นเขาถือว่าเป็นความเสียหาย ฉะนั้นเขาก็เลยไม่ไว้วางใจ

ผู้สื่อข่าว “สยามรัฐ” -พอจะทราบไหมครับว่าคุณสุระที่เป็นผู้ยื่นมติในวันนี้แล้วทำไมตัวแกไม่มา

สมบูรณ์ - คุณไปถามเขาเองสิครับ ทำไมต้องมาถามผม (เสียงผู้สื่อข่าวหัวเราะ แต่ไม่ได้ขำเพื่อนนักข่าวด้วยกันหรอกจะบอกให้) ผมก็อยากจะพูดเสียด้วยว่าเขาคุยว่าเขามีคะแนนเสียงมากหรืออะไรต่าง ๆ หรืออย่างที่พวกคุณเคยทึกทักว่ามีเท่าโน้นเท่านี้เปอร์เซ็นต์ (อ้าว!) เปอร์เซ็นต์วันนี้ออกมาชัดเจนว่าเขามีสักเท่าไหร่ คุณลองหารเอาเองสิครับว่าเขามีหุ้นอยู่เท่าไหร่.... ที่เขาอ้างอย่างโน้นอย่างนี้จวนจะครบ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว

ผู้สื่อข่าว “สยามรัฐ” -อยากจะย้อนไปที่ข้อหนึ่ง หมายความว่าแม้คดีถึงที่สุดแล้ว ก็ไม่มีผล ไม่มีการยกเลิกใบหุ้นใช่ไหมครับ

สมบูรณ์ - ไม่มีครับ และที่เสียค่าปรับในเรื่องการไม่ได้ออกหนังสือชี้ชวน ซึ่งเรื่องนี้ก็ยังไม่สิ้นสุดเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ศาลต้นพิพากษาให้เสียค่าปรับ 80,000 บาท ธนาคารอุทธรณ์อยู่ จะว่าธนาคารผิดก็ยังไม่ได้ ธนาคารยังไม่ผิด และที่ปรึกษากฎหมายของธนาคารหลายแห่งเขาบอกว่าธนาคารไม่ผิด

ไพศาล พืชมงคล- ขออนุญาตเสริมสักนิดนะครับ คือการขายหุ้นในขณะนั้นมีกฎหมายยกเว้นอยู่ ฝ่ายหนึ่งก็เห็นว่าการขายหุ้นนั้นจำเป็นต้องออกหนังสือชี้ชวน แต่ฝ่ายกฎหมายของธนาคารเห็นว่าการขายหุ้นในขณะนั้นไม่จำเป็นต้องออกหนังสือชี้ชวนก็เลยเป็นปัญหากัน คดียังไม่สิ้นสุดว่าต้องออกหนังสือชี้ชวนหรือไม่ แต่เรื่องการออกหนังสือชี้ชวนหากว่าเป็นความผิดก็เป็นเรื่องแค่ปรับธนาคาร ก็หาได้มีผลต่อหุ้นที่ออกไป ที่ได้จำหน่ายแล้ว ตลาดหลักทรัพย์ได้รับเป็นหลักทรัพย์แล้วต้องเสียสิทธิ์อะไรไป ยิ่งกว่านั้นหุ้นเหล่านี้ได้มีการให้สัตยาบรรณกันมาตั้งหลายครั้งได้เคยมีการนำเข้าประชุมใหญ่มาแล้ว ความสมบูรณ์ของหุ้นเหล่านี้น่าจะมีอย่างครบถ้วน

และเมื่อวานนี้ได้มีผู้ถือหุ้นกลุ่มหนึ่งได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง ขอให้ไต่สวนฉุกเฉินเพื่อให้ศาลมีคำสั่งห้ามหุ้นจำนวน 2 แสนหุ้นที่ขายไปในขณะนั้นไม่ให้ออกเสียงในวันนี้ ซึ่งศาลแพ่งก็ได้ไต่สวนฉุกเฉินเมื่อวาน แล้วก็มีคำสั่งยกคำร้อง อันนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นในเบื้องต้นแล้วว่าหุ้นเหล่านี้มีฐานะเป็นอย่างไร

การแถลงข่าวล่วงเลยมาถึงเวลา 17.05 น. ปรากฏว่าไฟฟ้าในห้องประชุมดับพรึ่บลง สมบูรณ์ นันทาภิวัฒน์ จึงบอกให้นักข่าวรีบถามโดยให้เวลาอีก 5 นาที แต่ทันทีที่สมบูรณ์จะพูดจบ ไฟฟ้าก็กลับสว่างอีกครั้งหนึ่ง เรียกเสียงเฮลั่นของบรรดาผู้สื่อข่าว

ผู้สื่อข่าว “ธุรกิจการเงิน”- การลงคะแนนวันนี้เป็นการลงคะแนนลับหรือเปล่า

ไพศาล พืชมงคล- คือยังงี้นะครับ ในวาระต้น ๆ ไม่มีปัญหา วาระปกติก็ลงคะแนนกันโดยยกมือ แต่ในวาระที่คุณสุระเสนอให้ลงคะแนนลับ...เป็นสองตอน

สมบูรณ์ - ผมคิดว่าวันนี้เห็นจะพอเพียงนะครับ พวกคุณก็คงอยากจะรีบกลับไปเขียนข่าว ก่อนอื่นผมก็ต้องขอขอบคุณที่พวกคุณได้กรุณาสละเวลามาติดตามข่าวของธนาคาร ซึ่งผมขอเรียนย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ทั้งหมดนี้ที่ผมทำงานก็ยืนอยู่ด้วยสิ่งที่ถูกต้องทั้งนั้น และผมทำไปแล้วนั้นกรุณาเข้าใจด้วยว่าในนามของกรรมการของธนาคารไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของผม ดังนั้นขอความกรุณาเข้าใจไว้ด้วย... ขอบคุณนะครับ

ก็เป็นอันสิ้นสุดการแถลงข่าวของธนาคารแหลมทองแต่เพียงเท่านี้ “ผู้จัดการ” ก็เหนื่อยกับการร้อง “อ้าว!” ในใจเต็มที และเชื่อว่าเพื่อนนักข่าวก็คงรู้สึกใกล้เคียงกัน เพราะตอนที่เดินลงบันไดได้ยินเสียงบ่นพึมไปหมด บางคนไม่ใช่แค่พูดว่า “อ้าว” อย่างเดียว แถมสร้อยตามมาด้วยว่า “อะไรกันวะ”

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us