เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2529 บริษัทปูนซิเมนต์ไทยหรือที่เรียกกันว่าปูนใหญ่ ประกาศลดราคาปูนซีเมนต์ทุกตรา
ตราเอราวัณ 1.17% ตราช้าง .89% และตราเสือ .54% ซึ่งอมเรศ ศิลาอ่อน ผู้ช่วยผู้จัดการอาวุโสบอกนักข่าวว่าลดประมาณ
1%
"ปูนชนิดไหนขายดี ลดราคาน้อยลงตามลำดับ" ผู้สังเกตการณ์ตั้งข้อสังเกตขึ้นมาทันที
ก่อนจะไปไกลกว่านี้ ขอย้อนไปดูกระบวนการการลดราคาปูนครั้งนี้ บางทีอาจจะทำให้มองเห็นเจตนาที่แท้จริงของปูนใหญ่ชัดขึ้นก็ได้!
บริษัทปูนซิเมนต์ไทยส่งหนังสือลงวันที่ 11 เมษายน ขอเชิญผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ทีวี
และวิทยุ มารับฟังการแถลงข่าวกรณีพิเศษเกี่ยวกับกิจการของบริษัท ในวันที่
17 มีนาคม เวลา 11.15-21.00 น.
"เราเตรียมการตอนส่งจดหมายเชิญถึงคุณนี่เอง" พารณ อิสรเสณา ณ
อยุธยา ผู้จัดการใหญ่ตอบคำถามของหนังสือพิมพ์ในวันแถลงข่าว
ผู้ใหญ่ของปูนใหญ่บอกเบื้องหลังของการขึ้นราคาปูนครั้งนี้กับ "ผู้จัดการ"
ซึ่งค่อนข้างสอดคล้องกับคำตอบสั้น ๆ ของพารณข้างต้น "ในช่วงนั้นทีมผู้บริหารซึ่งประกอบด้วย
คุณพารณ คุณอมเรศ และคุณทวี บุตรสุนทร กำลังตระเวนพบปะตัวแทนจำหน่ายปูนในภาคเหนือ"
"คุณพารณก็พูดขึ้นมาไฟฟ้า น้ำมันก็ลดราคา แล้วเราในฐานะบริษัทใหญ่น่าจะลดราคาบ้าง
ตอนแรกจริง ๆ ก็ตกลงกัน 3 คนเท่านั้นว่าจะลดราคา" แหล่งข่าวเน้นว่าการกระทำครั้งนี้ถือเป็นความลับเอามาก ๆ คนที่รู้เรื่องลดราคาปูนครั้งแรกมีเพียงพารณ อมเรศ และทวี เท่านั้น"
คุณอมเรศโทรศัพท์ทางไกลมาถึงคุณชวลิต คูหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานประชาสัมพันธ์บอกว่าให้เตรียมการเปิดแถลงข่าวในวันที่
17 มีนาคม โดยไม่ได้บอกว่าจะแถลงเรื่องอะไร"
ว่ากันว่าชวลิตเองก็มารู้ตอนเช้าของวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม คือวันแถลงข่าวนั่นเอง
ในหนังสือเชิญการฟังการแถลงข่าวนั้น หากสังเกตให้ดีจะพบข้อความที่จงใจให้แตกต่างจากวาระปกติซึ่งเคยใช้
PRESS BREFFING เสมอ โดยจะบอกรายละเอียดมากพอประมาณตั้งแต่หัวข้อการ PRESS
CONFERRENCE และผู้ใหญ่ที่เข้าร่วม แต่คราวนี้ใช้คำว่า "แถลงข่าว"
และระบุว่าพารณเป็นผู้แถลงเอง
หนังสือพิมพ์ธุรกิจยักษ์ใหญ่ฉบับหนึ่งพูดถึงการแถลงข่าวของปูนใหญ่ว่า "เป็นการแถลงข่าวด่วนกรณีพิเศษ....
อย่างกะทันหัน ทั้งนี้ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน ทำเอาสงสัยกันถ้วนหน้าว่ามีข่าวใหญ่อะไร"
สุดท้ายก็เลยเดาเอาว่าอาจจะมีเรื่อง TAKE OVER กิจการที่ไหนสักแห่ง
หนังสือพิมพ์บ้านเรา ชอบทำข่าว "เจาะ" สอบถามคนของปูนใหญ่แล้ว
ได้ความว่ามีหลายฉบับพยายามทำข่าวแถลงวันนั้นมาเสนอล่วงหน้าแต่ปรากฏว่าคว้าน้ำเหลว
ไม่มีข่าวแพลมออกเลย จนถึงวันแถลงข่าว!
ประมาณ 11.00 น. "ผู้จัดการ" ถึงศูนย์บริการอันเป็นที่แถลงข่าว
จึงสอบถามประชาสัมพันธ์ที่มาต้อนรับขับสู้ว่าจะแถลงเรื่องอะไร หลายคนส่ายหน้าว่าไม่ทราบ
เลยเวลา 11.15 น. ไปประมาณ 20 นาที พารณ อมเรศ จึงปรากฏร่างในงานแถลงข่าวโดยที่พารณขึ้นแท่นเพียงคนเดียว
ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษตอบคำถามผู้สื่อข่าวอย่างมั่นใจ และแทรกอารมณ์ขัน
"เราเพิ่งตัดสินใจกันลงตัวเดี๋ยวนี้ ก่อนเข้าห้องประชุมนี้"
พร้อมประกาศลดราคาปูนซีเมนต์ทุกตราให้ผู้สื่อข่าวเขียนลงในช่องว่างในใบแถลงข่าวซึ่งเว้นเอาไว้แจกพร้อมกับการปรากฏตัวของ
พารณ "ทุกอย่างทำกันวันนี้ เราแจ้งให้ผู้ผลิตปูนอีก 2 บริษัท ก่อนหน้าแถลงข่าวไม่กี่นาทีคุณลองจับกระดาษที่ถือดูสิยังอุ่น ๆ อยู่เลย"
พารณร่ายยาวพอประมาณ ถึงเหตุผลการลดราคาปูนครั้งนี้ โดยเริ่มด้วยการชมการตัดสินใจของทางราชการที่ยกเลิกมาตรการการควบคุมราคาสินค้าเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ว่าเป็นความกล้าหาญทางการเมือง
"เหตุผลการลดราคาของเราเป็นไปตามกลไกการตลาด" พารณฉลาดไม่พูดตรง
ๆ ว่า ปูนเป็นผู้บุกเบิกการลดราคาสินค้าสำคัญ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจ เพียงแต่พูดในตอนท้าย
"การลดราคาปูนซีเมนต์ครั้งนี้ น่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมก่อสร้างโดยทั่วไปมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น"
พารณตอบคำถามทุกคำถาม ซึ่งค่อนข้างจะผิดแผกไปจากการแถลงข่าวที่ผ่านมา ที่ให้แก่เวลาแก่ผู้สื่อข่าวค่อนข้างน้อย
โดยอ้างติดธุระเป็นประจำ แต่ครั้งนี้
ชวลิต คูหิรัญ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวเชิญชวนให้ถามหลายครั้ง
ก่อนจะจบพารณได้หยอดลูกเล่น "คุณถามผมมาเยอะแล้วผมขอถามมั่ง ที่ผมแถลงข่าวเล็กข่าวใหญ่"
เล่นเสียงเรียกเฮได้พอประมาณ เมื่อไม่มีใครตอบเขาถึงกลับถามทวนอีกครั้ง "ต้องลดถึงขนาด
10%" เสียงจากใครไม่รู้ตอบขึ้น "ถ้าลดถึงขนาดนี้ผมคงไม่ได้มานั่งอย่างนี้"
พารณตอบ เสียงเฮอีกครั้ง
ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นหนังสือทุกฉบับลงข่าวนี้ "ไทยรัฐ" ยกข่าวนี้ขึ้นหน้า
1 เลยทีเดียว ส่วนรายวันฉบับอื่น ๆ ที่มี SECTION เศรษฐกิจก็ยกข่าวนี้เป็นข่าวใหญ่ที่สุดในหน้านั้น
แผนการโฆษณาครั้งนี้ จึงสัมฤทธิ์ผลได้ดี
แต่น่าเสียดายที่วันต่อมา หนังสือพิมพ์หลายฉบับค่อนข้างผิดหวังที่ไม่มีข่าวจากปูนซีเมนต์นครหลวง
(ปูนกลาง) และชลประทานปูนซีเมนต์ (ปูนเล็ก) ในการตอบสนองข่าวการลดราคาของปูนใหญ่
ซึ่งก่อนหน้า อมเรศคาดว่าน่าจะมีการลดตาม
เท่านั้นยังไม่พอประทีป ตั้งมติธรรม นายกสมาคมหมู่บ้านจัดสรรออกมา COMMENT
กับ นสพ. บางฉบับว่าการลดราคาของปูนใหญ่แทบจะไม่มีผลต่อการลดต้นทุนการก่อสร้างเลย
โดยยกตัวเลขว่าลดราคาลงหลังละ 400 บาท เท่านั้น "มีผลต่อจิตวิทยาเท่านั้น"
ชวนสรุป
พารณบอกว่าการลดราคาครั้งนี้ทำให้มีผลกระทบต่อยอดขายของบริษัทประมาณ 50
ล้านบาท/ ปี ซึ่งนักการตลาดบางคนยังทันควันว่า "ยังสรุปเช่นนั้นไม่ได้
เป็นการแบบไม่ DYNAMIC บางทีลดราคาลงมาปูนอาจแย่ง MARKET SHARE ได้มากขึ้นหรือยอดขายเพิ่มเกิน
50 ล้านบาทต่อปี"
ทุกอย่างก็ ต้องติดตามดูกันต่อไป