ธีระชัย เชมนะสิริ จบบีเอ็มเอจากสถาบันเอไอเอ็มแห่งประเทศฟิลิปปินส์ เคยดำรงตำแหน่งบริหารที่บริษัท
เชลล์ ประเทศไทย บริษัท อิตาเลียนไทย และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทยเป็นที่ล่าสุด
ก่อนจะลาออกมา "แคนดิเคท" ตำแหน่งรองผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ในทีมของมงคล
สิมะโรจน์ เมื่อมีการเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครไม่นานมานี้
ตอนที่ลงเลือกตั้งนั้นเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่หลายคนเอาใจช่วยธีระชัยให้ชนะเลือกตั้งกันมาก
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรนักหนา
แต่ที่ประหลาดก็คือมีอยู่คนหนึ่งที่อยากให้ธีระชัยแพ้ เพราะแอบชื่นชมความรู้ความสามารถของธีระชัย
มานานแล้ว
เขาชื่อนายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ เจ้าของกลุ่มบริษัทในเครือกรุงเทพ-สหกล ซึ่งเมื่อต้นปี
2529 ได้เปิดธุรกิจสายการบิน "น้องใหม่แห่งชาติ" ชื่อสหกลแอร์ขึ้น
และตัวนายแพทย์ปราเสริฐรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการบริษัทใหม่แห่งนี้ด้วยตนเอง
"ผมไม่เคยรู้จักกับคุณหมอปราเสริฐเป็นการส่วนตัวมาก่อนเลย จนเมื่อแพ้การเลือกตั้งกำลังเตรียมตัวว่าจะทำอย่างไรต่อไป
ก็มีเพื่อนมาบอกว่าคุณหมออยากพบ ตามหาตัวผมพักใหญ่แล้วผมก็มาพบ ท่านก็เสนองานให้
คุยหลักการกันแล้วว่าผมจะเข้ามาทำอะไรบ้างผมก็ตกลงทันที" ธีระชัย เชมนะสิริ
เล่าให้ฟัง
ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสหกลแอร์ก็เลยมีรองผู้อำนวยการที่ชื่อ
ธีระชัย เชมนะสิริ ซึ่งถ้าจะพูดภาระหน้าที่แล้ว
"ก็รับผิดชอบเครื่องบินทั้ง 4 ลำ และบริการ 3 อย่างที่ทำอยู่คือบริการผู้โดยสาร
บริการขนส่งสินค้า ซึ่งติดตามมาจากอย่างแรก และสามก็คือบริการเช่าเหมาลำ นอกจากนั้นก็ยังเป็นรองผู้อำนวยการบริษัทไทยปิโตรเลียมเซอร์วิส ที่ให้บริการแก่บริษัทขุดเจาะน้ำมันทั้งหลาย
ในด้านกำลังคนที่มีความชำนาญงานบริการ ในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ในการขุดเจาะน้ำมันและบริการอื่น
ๆ ด้านช่าง เอาเป็นว่าก็เป็นรองผู้อำนวยการของกลุ่มกรุงเทพฯ สหกลนั่นแหละ
เพียงแต่เฉพาะหน้าที่งานหลักนอกจากสายการบินแล้วก็มีเรื่องเกี่ยวกับอาคารสร้างใหม่ด้านหลังอาคารกรุงเทพฯ สหกลนี้ซึ่งสูงทั้งหมด 19 ชั้นที่พร้อมจะให้เช่าเป็นสำนักงานตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป
เราเรียกว่าบียูเอ็มซีทาวเวอร์ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 15,000 ตารางเมตร
ค่าเช่าก็ตกตารางเมตรละ 180-200 บาท" ธีระชัย บอกกับ "ผู้จัดการ"
พร้อมกับทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์อาคารหลังใหม่ของกลุ่มกรุงเทพฯ สหกลเสร็จสรรพ
สำหรับธีระชัยแล้ว งานใหม่ที่กำลังทำอยู่นี้เขาถือว่าเป็นงานที่ท้าทายมาก ๆ
หรือก็คงจะพูดได้ว่า มันเป็นโอกาสที่ "นักบริหารมืออาชีพ" ไม่มากคนนักที่จะได้พบสัมผัส
"ผมเคยผ่านงานในองค์กรขนาดใหญ่มาหลายแห่ง อย่างเช่นแห่งล่าสุด คือ
บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ก็ต้องเรียกว่าเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมในประเทศที่ใหญ่โตที่สุด
ในแง่ความมั่นคงแล้วก็ต้องถือว่ามั่นคงมาก แต่เปรียบไปแล้วผมก็คงจะเหมือนกับเฟืองเล็ก
ๆ ตัวหนึ่งเท่านั้น ความมันที่จะได้ใช้ฝีมือของตัวเองอย่างเต็มที่และเห็นผลมันก็เป็นไปได้ยาก
ซึ่งตรงกันข้ามกับที่นี่ เพราะที่นี่ถ้ามันโตมันก็โตเพราะฝีมือของเราจริง
ๆ ผมจึงถือว่ามันเป็นโอกาสที่ผมภูมิใจมาก และฝันมานานแล้วด้วย..." ธีระชัยพูดเปิดใจ
คนปูนฯ นั้นหลายต่อหลายคนเคยได้ยินได้ฟังอยู่เสมอว่า ถ้าใครออกไปจากปูนฯ แล้ว
ก็ตราหน้าได้เลยว่าจะไม่มีทางประสบความสำเร็จในชีวิตอีกต่อไป... จริงเท็จอย่างไรก็ไม่ทราบล่ะ
แต่ธีระชัย เชมนะสิริ หมายมั่นปั้นมือมากที่จะพิสูจน์ความจริงประการนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ว่า
สำหรับคนบางคนแล้ว
"มันมีข้อยกเว้น"