"ตระกูล "รวมเมฆ" ผู้เป็นเจ้าของอาณาจักร "ศรีพูนทรัพย์"
กำเนิดจากคนจีนอพยพเข้ามาเมืองไทยเมื่อ 60 กว่าปีก่อน คนจีนในครอบครัวนี้เป็นคนจีนแต้จิ๋ว
แซ่โง้ว ผู้ที่ให้กำเนิดลูก ๆ และใช้นามสกุล "รวมเมฆ" ในเวลาต่อมาชื่อว่า
"ฮ่วนฮั้ว" หรือที่ชาวอู่ทองเรียกกันติดปากว่า "เถ้าแก่ฮ่วนฮั้ว"
ฮ่วนฮั้วเดินทางอพยพเข้ามาในประเทศไทยพ้อมกับพ่อแม่ตั้งแต่ตัวเองอายุได้ประมาณสิบกว่าขวบ
พออายุได้ 16 ขวบก็ได้ภรรยาคนหนึ่งเป็นคนอู่ทองชื่อ จู แต่แม่ของ ฮ่วนฮั้วไม่ชอบลูกสะใภ้คนนี้
จึงได้ส่งฮ่วนฮั้วกลับเมืองจีน
อยู่ที่เมืองจีนได้ 3-4 ปีก็กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง ครั้งนี้เข้ามาพร้อมกับได้ภรรยาคนจีนคนใหม่อีกคนหนึ่ง
และได้บุตรคนแรกที่เกิดกับภรรยาคนนี้ชื่อว่าตวง หรือชื่อไทยว่า เอื้อม รวมเมฆ
ซึ่งคุมกิจการโรงน้ำแข็งที่จังหวัดสุพรรณบุรีในปัจจุบัน
เอื้อม รวมเมฆ นับว่าเป็นพี่ใหญ่ในบรรดาพี่น้องทุกคนซึ่งประกอบด้วยลูกที่เกิดกับแม่ไทยคือ
อุษา รวมเมฆ ปรีดา รวมเมฆ ส่วนธงชัย รวมเมฆกับน้องอีกคนชื่อ วิชา นั้นเกิดกับแม่ที่เป็นคนจีน
ฮ่วนฮั้วกับภรรยาชื่อจู ทำงานกันอย่างขยันขันแข็ง ส่วนภรรยาคนจีนนั้นมีหน้าที่เป็นแม่บ้านเลี้ยงดูลูก
ๆ อยู่กับบ้าน ฮ่วนฮั้วกับจูยึดอาชีพรับจ้างขนส่งไม้ซุงเป็นหลัก เนื่องจากไม้ซุงในสมัยนั้นยังมีมากอยู่การดำเนินธุรกิจขนส่งไม้ซุงในยุคกนั้นจึงทำเงินได้ดีทีเดียว
ภายหลังกิจการได้เติบโตขึ้นเป็นลำดับ อาณาจักรของคนทั้งสองขยายไปสู่ธุรกิจโรงทำน้ำแข็ง
และมีโรงทำน้ำแข็งในสุพรรณบุรีถึง 4 โรง พร้อม ๆ กับการหาไม้ซุงเริ่มยากลำบากขึ้นเพราะไม่มีไม้
ลูก ๆ ที่เติบโตขึ้นได้เข้าช่วยเหลือในกิจการของพ่อแม่โดมิได้แบ่งแยกกันเลยว่าเป็นลูกที่เกิดจากแม่คนไหน
จากโรงน้ำแข็งก็ไปมีปั๊มน้ำมันอีก 2 แห่ง คือที่นครปฐมและสุพรรณบุรีโดยก่อนหน้านั้น
ก็ได้เริ่มทำกิจการเป็นเอเย่นต์ขายรถยนต์ให้เกือบทุก ๆ ยี่ห้อ ตั้งแต่โอเปิล
เชฟโรเล็ต ไปจนถึงรถบรรทุกขนาดใหญ่ยี่ห้ออีซูซุและฮีโน่
ต่อมา อุษา รวมเมฆ ก็ได้แต่งงานกับลูกชายของคนในตระกูลเศษธะพานิชย์ ซึ่งมีกิจการทำโรงสีที่สุพรรณบุรี
และโรงสีแห่งนี้ก็ได้ถูกฟ้องล้มละลายเมื่อปี 2528 โดยธนาคารกรุงเทพกับธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ฟ้อง
และต่อมาภายหลัง พี่ ๆ น้อง ๆ ของอุษาได้เข้าไปช่วยเหลือ ทำให้โรงสีแห่งนี้ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
โรงสีแห่งนี้ในปัจจุบันชื่อว่าโรงสีงามเจริญ ซึ่งว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรีในปัจจุบัน
กิจการทั้งหมดอันประกอบด้วย โรงน้ำแข็ง ปั๊มน้ำมัน เอเย่นต์ขายรถ ฟาร์มหมู
โรงงานมันอัดเม็ดได้ถูกแบ่งสมบัติกันเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
โดยเอื้อม รวมเมฆ รับผิดชอบโรงน้ำแข็ง ซึ่งต่อมาเหลือเพียงโรงเดียวจาก
4 โรง ชื่อโรงน้ำแข็ง ศรีพูนทรัพย์ อุษา เศษธะพานิชย์ ได้ฟาร์มหมู ปรีดา
รวมเมฆ ได้กิจการขายรถกับน้องชายคือ ชาติชาย รวมเมฆ, ธงชัย รวมเมฆ และวิชา
รวมเมฆ
ปรีดา รวมเมฆ นั้นจบวิศวะจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ส่วนชาติชาย รวมเมฆจบ
COMMERCE จากปีนัง
การดำเนินงานของคนทุกคนแม้ว่าจะดูเหมือนว่าการแยกกันอย่างเด็ดขาด แต่ในความเป็นจริง
ทุก ๆ คนมีการให้ความช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา การล้มลงของโรงสีงามเจริญของอุษา
เศษธะพานิชย์ เป็นตัวอย่างประการหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันโรงสีแห่งนี้ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อไปได้
ในช่วงที่แบ่งทรัพย์สินกันครั้งแรก ก็ดูเหมือนชาติชาย รวมเมฆ จะต้องไปทำโรงงานมันอัดเม็ดอย่างเดียว
แต่ด้วยการร่วมมือจากพี่ชายและน้อง ๆ ทำให้เขาได้ธุรกิจค้ารถยนต์ในตัวเมืองสุพรรณบุรีเป็นของตัวเอง
ทุกคนต่างช่วยเหลือกัน จนถึงวันนี้ แม้ว่าธงชัย รวมเมฆจะทำเรื่องสาหัสสากรรจ์
อย่างไม่น่าดูเอาไว้ที่ศรีพูนทรัพย์อู่ทอง พวกเขาทุกคนก็ยังเข้าไปช่วยเหลือ
จนศาลได้ยกฟ้องในคดีฉ้อโกงบริษัทตรีเพชร อีซูซุไป
และมาถึงทุกวันนี้ แม้ว่าศรีพูนทรัพย์สุพรรณบุรี อันมีชาติชาย รวมเมฆ ดำเนินงานและเป็นเจ้าของ
จะถูกยกเลิกการเป็นเอเย่นต์ไปแล้วก็ตาม แทนที่ปรีดา รวมเมฆ ผู้เป็นเจ้าของศรีพูนทรัพย์อู่ทองในปัจจุบันจะตั้งข้อรังเกียจหรือกีดกัน
กลับให้ความช่วยเหลือติดต่อมิตซูบิชิมาให้ขายแทนฮีโน่ โดยไม่คำนึงถึงเรื่องที่น้องชายจะมาทำการค้าแข่งกับตัวเอง
การแก่งแย่งสมบัติกันของคนในตระกูลอื่น จึงนำมาเทียบกับตระกูลนี้ไม่ได้
แต่ก็นั่นแหละ…บางครั้งความสามัคคีที่เหนียวแน่น ก็อาจจะถูกมองไปในด้านลบด้วยเช่นกัน