Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2529
มีใครบ้างที่ไม่ต้องการพลเอกเปรม             
 


   
search resources

ชวลิต ยงใจยุทธ
พงส์ สารสิน
เปรม ติณสูลานนท์




สถานีวิยุ บี.บี.ซี. กรุงลอนดอนได้นำบทรายงานข่าวเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลไทย "ไฟแนนเชี่ยล ไทม์" ไปออกอากาศ เมื่อวันที่ 14 สิงหาคมที่ผ่านมามีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

"ดุลทางการเมืองยังอยู่กับฝ่ายทหาร มากกว่าประชาชนผู้ออกเสียง… พลเอกชวลิตมีบทบาทสำคัญที่ไม่เปิดเผยออกมาในวงกว้าง ต่อการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้ และโน้มน้าวให้หัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ เปลี่ยนใจกลับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง ที่ว่า ให้มีนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง"

บทรายงานข่าวชิ้นนี้มีข้อผิดพลาดอันสำคัญประการหนึ่ง นั่นคือ ตรงที่ว่าพลเอกชวลิตโน้มน้าวบรรดาหัวหน้าพรรคการเมืองต่าง ๆ

ความจริงถ้าติดตามกันโดยตลอดจะพบว่า พลเอกชวลิตไม่ต้องมีการโน้มน้าวกันเลยแม้แต่น้อย

หากต้องโน้มน้าวก็คงเป็นการโน้มน้าวให้รอร่วมรัฐบาลชุดหน้ามากกว่า เพราะในรัฐบาลชุดนี้มีผู้สนับสนุนพลเอกเปรมมีเกินกว่าที่จะจัดโควต้ารัฐมนตรีกันได้อย่างเหมาะสมเสียด้วยซ้ำ

พรรคประชาธิปัตย์บางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิชัย รัตตกุล หัวหน้าพรรคนั้น การประกาศไม่เอาพลเอกเปรมมาเป็นนายกรัฐมนตรีในคราวหาเสียง โดยเจตนาแล้วต้องยอมรับว่าพิชัยต้องการอย่างนั้นจริง ๆ

แต่ความต้องการของพิชัยก็คือการต่อสู้ทางการเมือง ในขั้นแรกก็ต่อสู้เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกตั้งจนมีเสียงข้างมากแต่เพียงพรรคเดียวในสภา

เมื่อไม่สำเร็จก็ต้องต่อสู้กับพรรคอื่น ๆ ในการจัดตั้งรัฐบาล และเมื่อไม่สำเร็จอีก ก็ต้องต่อสู้กันในพรรค ว่าถ้าเป็นอย่างนี้พรรคประชาธิปัตย์จะเป็นฝ่ายค้านหรือจะยอมร่วมรัฐบาล ภายใต้การเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกเปรม

รู้กันเต็มอกว่า หลังจากแพ้ขั้นแรกพิชัยก็ต่อสู้ในขั้นที่ 2 และ 3 อย่างแกน ๆ

พร้อมกับการที่พิชัยและพลพรรคส่วนหนึ่งประกาศก้องว่า นายกรัฐมนตรีต้องเป็นบุคคลที่มาจากการเลือกตั้งภายในพรรคเองก็ไม่ได้เป็นเอกภาพในปัญหานี้นัก

ความจริงที่เป็นอยู่นั้น นักการเมืองในสายภาคใต้ ล้วนเหนียวแน่นกับพลเอกเปรม เหนียวแน่นมากกว่าหัวหน้าพรรคของตัวเองเสียอีกก็แทบจะกล่าวได้

กำลังและบารมีนักการเมืองพรรคประชาธิปัตย์สายภาคใต้มีมากแค่ไหนตำแหน่งเลขาธิการพรรคของวีระ มุสิกพงศ์ และจำนวน สส. จากภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์ทุกสมัย ล้วนเป็นคำตอบที่ชัดเจน

ภายหลังการเลือกตั้งจึงไม่ยากที่พิชัย รัตตกุล และนักการเมืองในส่วนที่เคยประกาศว่าไม่เอาพลเอกเปรม ต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเอง ด้วยการชี้นำของมติพรรค

พรรคกิจสังคมนั้นไม่มีปัญหา ป้ายประกาศคราวหาเสียงของพลอากาศเอกสิทธิ เศวตศิลา ที่มีใจความว่า "สนับสนุนให้ พล.อ.อ. สิทธิ เป็นนายกรัฐมนตรี โปรดเลือก เบอร์1-2-3" นั้น เปิดเงื่อนไขให้แก้ตัวได้สบายกว่าพิชัย

ป้ายนั้นไม่ได้บอกว่าไม่เอาพลเอกเปรม หรือนายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง เมื่อพรรคกิจสังคมได้รับเลือกมาแค่ 51 คน พลอากาศเอกสิทธิ จึงเป็นนายกฯ ไม่ได้

และก็รู้กันอยู่เต็มอกเหมือนกันว่า การยกป้ายประกาศอย่างนั้น เป็นเรื่องที่แทบไม่มีโอกาสเป็นศูนย์ ป้ายนั้นมีความหมายเฉพาะเทศกาลหาเสียงเท่านั้น

พลอากาศเอกสิทธิเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ภายใต้การนำของพลเอกเปรมในโควต้าของพลเอกเปรม ก่อนเข้าสังกัดพรรคกิจสังคม รวมทั้งพลอากาศเอกสิทธิสนิทสนมกับพลเอกเปรมมากแไหนนั้นไม่มีใครที่ไม่รู้

ที่สำคัญกว่านั้น ในพรรคกิจสังคม บุรุษหมายเลข 1 ตัวจริง ก็คือ พงส์ สารสิน เขาผู้นี้มีภาพปรากฏต่อสังคมในบทบาทของนักธุรกิจมากกว่านักการเมือง นักข่าวที่เคยพบพงส์ต่างผิดหวังเพราะมองไม่เห็นความแปลมคมอันใดจากตัวเขาผู้นี้

แต่สำหรับคนที่สัมผัสใกล้ชิดนั้น ต่างรู้ดีว่า พงส์เป็นนักการเมืองมือระดับ "เซียนเหนือเซียน" แค่ไหน

พงส์เป็นนักเดินเกมส์มากกว่าเป็นนักประกาศปรัชญาและอุดมการณ์ งานการเมืองในหัวของพงส์ไม่ใช่งานการเมืองที่ต้องการชูธงของพรรควิ่งไปปักยังเป้าหมาย พร้อมตีฆ้องร้องป่าวและประกาศเปรี้ยงปร้างโครมคราม

พงส์เป็นบุคคลในสังกัดพรรคการเมืองก็จริง แต่ในสายตาของเขานั้น พรรคการเมืองก็คือ หนึ่งในดุลกำลังทางการเมืองอีกหลาย ๆ จุด ว่ากันว่าที่ผ่านมาตลอดเวลานั้น พงส์เป็นผู้เดินเกมส์การเมืองในฐานะผู้เดินเกมส์วงกว้างมากกว่าตัวแทนจากพรรคกิจสังคมที่เดินเกมส์ต่อสู้กับดุลกำลังอื่น ๆ

หนังสือพิมพ์บางฉบับเคยเขียนถึงพงส์ในประเด็นนี้ ในทำนองว่า "พงส์เป็นคนของกิจสังคม หรือเป็นคนของฝ่ายอื่นที่มาอยู่ในกิจสังคมกันแน่"

หลาย ๆ ครั้ง คนในพรรคกิจสังคมแสดงความไม่พอใจที่พงส์ไม่ทำพรรคให้ฮือฮาและมีบรรยากาศทางการเมืองเหมือนที่พิชัยกำลังทำอยู่ที่พรรคประชาธิปัตย์

ที่แน่นอนนั้น พงส์ไม่เคยเคร่งเครียด ไม่ชอบเรื่องที่ต้องเหน็ดเหนื่อย ทำตัวสนุกสนาน นอนตื่นสาย ไม่ชอบขวางลำและมีสัมพันธ์อันดีกับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ

วิกฤติรัธรรมนูญจนกระทั่งพลเอกเปรมยุบสภาให้เลือกตั้งกันใหม่เมื่อปี 2526 นั้น พรรคกิจสังคม โดย มรว. คึกฤทธิ์ ปราโมช ปะทะกันค่อนข้างรุนแรงกับหัวขบวนของกองทัพบก แน่นอนมีพลเอกชวลิต รวมอยู่ด้วย

ภาพที่ปรากฏออกมานั้นเหมือนกับว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะเอาเป็นเอาตายกันให้ได้

ขณะเดียวกันพงส์กับพลเอกชวลิตก็มีนัดกินข้าวร่วมกันพร้อมการเสวนากันอย่างอบอุ่นโดยสม่ำเสมอ

หลักฐานการเป็นคนไม่ชอบขวางลำแสดงออกมาในตอนนี้ด้วยการที่พงส์ตัดสินใจถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งในปีนั้น ทั้ง ๆ ที่มีการวางตัวกันไว้แล้ว

สนามเลือกตั้งในเขตกรุงเทพปีนั้นแม้ว่าพรรคกิจสังคมกำลังมีเครดิตสูงจากวิกฤตินี้ แต่พรรคกิจสังคม กลับจัดทัพลงสู้รบแบบไม่หวังผล

ถึงวันนี้พงส์ สารสิน กับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ก็มิใช่ใครอื่น และวันนี้พลเอกชวลิต ก็คือผู้บัญชาการทหารบกที่ให้การสนับสนุนพลเอกเปรมอย่างไม่เป็นอื่น

พรรคชาติไทย ระยะแรกมีปัญหานิดหน่อย นัยว่าบทบาททางการเมืองหลายประการระหว่างพลตรีประมาณกับพลเอกเปรม ยังฝังใจกันอยู่

แต่เมื่อมีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคจากพลตรีประมาณ มาเป็นพลตรีชาติชายในช่วงที่เทศกาลหาเสียงกำลังเริ่ม การเตรียมการให้ครบวงจรเพื่อเตรียมเข้าร่วมสนับสนุนพลเอกเปรมของพรรคชาติไทยจึงเสร็จสิ้น

พลตรีชาติชายกับนายบรรหาร ศิลปอาชานั้นถือได้ว่าเป็นผู้กุมกำลังหลักของพรรคชาติไทยในช่วงหลัง ทั้งสองคนนี้กับพลเอกชวลิต ก็ไม่ได้ห่างไกลกัน ยิ่งได้พลตรีมงคล อัมพรพิสิษฐ์ ทส. พลเอกเปรม ช่วยประสานทางบรรหารอีกแรงหนึ่ง ทุกอย่างก็ลงเอยอย่างง่ายดาย

พรรคชาติไทยเซ็นชื่อสนับสนุนให้พลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นพรรคแรก พร้อมกันนั้นก็จับมือกันเหนียวแน่นกับพรรคกิจสังคม จนทำให้พรรคประชาธิปัตย์เกือบกลายเป็นตัวตลก

พรรคราษฎรของพลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ และพลเอกมานะ รัตนโกเศศนั้นแทบไม่ต้องกล่าวถึง

และแน่นอนที่สุด-ถ้าหากพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นแค่พลเอกเปรมตัวคนเดียวไม่มีพลังระดับค้ำจุนเหมือนพลเอกสิทธิ จิรโรจน์แล้ว ย่อมไม่มีใครยอมสนับสนุนให้พลเอกเปรมเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us