"ไปพบกับคุณสมหมายที่ญี่ปุ่นตอนก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ดิฉันไปเรียนที่วิทยาลัยวิชาชีพที่ชื่อว่า
"โตโย โยชิอินเซ็ง" เป็นวิทยาลัยผู้หญิงล้วน ก็มีคนไทยเรียนอยู่
4-5 คน เป็นโรงเรียนที่ใช้ระบบการสอนเหมือนเยอรมัน อาจารย์โดยมากมาจากเยอรมัน
อาจารย์ผู้ชายมีไม่กี่คน เป็นพวกที่สอนทางด้านศัลยแพทย์" คุณหญิงสมศรี
ฮุนตระกูล ฟื้นความหลังให้ฟัง
ด้วยความที่ชอบพอกันเมื่อครั้งที่เรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น เมื่อ สมหมาย ฮุนตระกูล
กลับเมืองไทย เข้าทำงานที่สำนักงานธนาคารชาติ และ สมศรี เปรมบุตร เข้าทำงานกับบริษัทไทยรวมแพทย์
ในตำแหน่งทันตแพทย์หญิงและผู้ถือหุ้นของบริษัทได้เพียง 1 ปี ก็เข้าพิธีสมรสโดยมีพระยาศรีวิสารวาจาเป็นเถ้าแก่สู่ขอจากหลวงสุธากรวิตย์และนางหงษ์
ผู้เป็นบุพการีของคุณหญิงสมศรี เมื่อ 42 ปีที่แล้ว
สมหมาย ฮุนตระกูล และภรรยามีบุตรธิดารวมกัน 4 คน คนแรกคือ บัณฑิตย์ ฮุนตระกูล
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าการตลาดบริษัทนวโลหะไทยในเครือปูนซิเมนต์ไทย คนที่สอง
ชื่อ ศศิณี ตำแหน่งหัวหน้าส่วนจัดองค์งานบรรษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
คนที่สามชื่อ แพทย์หญิงภัทนี เปิดคลีนิคส่วนตัวอยู่ที่บ้านพ่อแม่ คนสุดท้องเพิ่งจบปริญญาโทเศรษฐศาสตร์
จากบอสตันหลังจากที่จบตรีทางด้านพาณิชย์นาวีจากเคโอะ ชื่อ สมภพ กำลังสมัครเข้าทำงานกับปูนซิเมนต์ไทย
"ไม่หรอกค่ะ…ถ้าไปที่แบงก์ชาติคนเค้าอาจจะหาว่าเข้าไปเพราะใช้เส้น
อีกอย่างหนึ่งคุณให้เรียนทางด้านพาณิชย์นาวีเพราะอยากให้มาช่วยประเทศชาติทางด้านนี้
จบปริญญาตรีจึงให้ไปฝึกงานกับบริษัท เอ็นวายเค. ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทเดินเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกหนึ่งปีเต็ม
พอกลับเมืองไทยกิจการทางด้านนี้ของเรายังไม่ก้าวหน้าเลยกลับไปต่อโท"
คุณหญิงสมศรีเล่าเรื่องลูกชายคนเล็กให้ฟังอย่างปลื้มๆ
คุณหญิงสมศรี เล่าให้ฟังอีกว่า สมหมาย ฮุนตระกูล เป็นคนที่จริงจังและเคร่งเครียดกับงานมากจนเป็นโรคกระเพาะมาตั้งแต่ครั้งที่ทำงานอยู่ที่แบงก์ชาติ
รวมทั้งเป็นคนที่สูบบุหรี่จัด เมื่อมาทำงานที่ปูนซิเมนต์ไทยอาการกำเริบหนักจนต้องผ่าตัดกระเพาะจึงต้องเลิกสูบบุหรี่
"ไม่เหมือนคนเป็นโรคกระเพาะคนอื่น ๆ เขาเป็นเขาผอม แต่คุณนี้อ้วนออกเรื่อย
ๆ"
อุปนิสัยของสมหมาย ฮุนตระกูล จากคำบอกเล่าของศรีภรรยาบอกว่าเป็นคนที่ง่าย
ๆ แม้จะไม่ใช่คนที่โรแมนติคแต่ก็เป็นคนอารมณ์ดี อาหารที่ชอบเป็นประเภท เส้น
เช่น ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ แกงวุ้นเส้น ฯลฯ
"คุณทำงานอยู่ที่แบงก์ชาติเกือบ 30 ปี ขาดอยู่ไม่กี่เดือนก็ถูกขอตัวมาที่บรรษัทเงินทุนฯ
แล้วถูกขอตัวมาทำที่ธนาคารไทยพาณิชย์อีก ทำอยู่ได้ไม่เท่าไหร่ท่านจอมพลถนอม
กิตติขจร ก็เรียกตัวไปช่วย (ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ซึ่งเราไม่เคยรู้จักกับท่านเลย
ก็เลยต้องเล่นการเมืองตั้งแต่นั้นมา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ชอบ" คุณหญิงสมศรี
ฮุนตระกูล เล่าถึงเส้นทางเริ่มต้นสู่วิถีการเมืองของสามี
อ้อ…บ้านบุญญเวศน์เป็นชื่อที่พี่สาวของคุณตั้งให้นานมาแล้ว เวศน์ ก็ที่อยู่อาศัย
"บุญญ" ก็หมายถึงอะไรหล่ะ…บ้านที่อยู่แล้วเจริญมั้ง" ประโยคสุดท้ายที่คุณหญิงสมศรีเล่ากับ
"ผู้จัดการ"