สมหมาย ฮุนตระกูล บางคนให้ฉายาว่า ซามูไรหนังเหนียว จากพฤติการณ์ที่อยู่ยงคงกะพันท่ามกลางการฟัด
กัดตีของบรรดาเสือสิงห์ กระทิงแรด ในวงการเมืองของไทยยุคที่เพิ่งจะปิดหน้าไปไม่นานและกำลังจะเปิดหน้าใหม่ต่อไปนี้
เขาเป็นคนหนักแน่น มีฐานมั่นคงไม่สั่นคลอน มีบารมีแก่งกล้าทำในสิ่งที่บางคนไม่กล้า
เรื่อง เล็ก ๆ ไม่ใส่ใจอะไรเทือกนี้
บริษัทอัมพุทพงศ์ จำกัด เป็นบริษัทครอบครัวเขา หรือจะเรียกให้โก้สักหน่อยก็ว่า
"โฮลดิ้งคัมปะนี" ตั้งขึ้นมาถือหุ้นแทนตนเองในบริษัทไทยโอบายาชิ
(นันทวัน) ป้องกันการครหาว่า รัฐมนตรีการคลังมีธุรกิจเป็นกรรมการบริษัท
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น อันเป็น
"จุดอ่อน" ที่อีกฝ่ายหนึ่งมักจะยกขึ้นมาโจมตีเสมอ ๆ
บริษัทอัมพุทพงศ์ ทุนจดทะเบียนครั้งแรก 1 ล้านบาท สมหมาย-คุณหญิงสมศรี
มีบุตรและธิดารวม 3 คน กระจายกันถือหุ้นดังนี้ สมหมาย ถือหุ้นมากที่สุด 33%
คุณหญิงสมศรี 15% บัณฑิตย์ ฮุนตระกูล ลูกชายคนโตถือหุ้น 19% ศศิณี คุ้มไพโรจน์
16% และลูกสาวคนสุดท้อง-ภัทนี ฮุนตระกูล 16%
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2526 เพิ่มทุนเป็น 2 ล้านบาท สมหมายถือหุ้นประมาณ
16% คุณหญิงสมศรี 28% บัณฑิตย์ 24.4% ศศิณี 23% และมัทณี 23%
ดูบัญชีทำการค้าและกำไรขาดทุน (โปรดดูตารางประกอบ) บริษัทอัมพุทพงศ์ ขาดทุนตลอดรายการ
รายได้มาจากทางเดียวคือ เงินปันผล ปี 2527 ระบุว่า 85,836 บาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างจะขัดแย้งกับเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทไทยโอบายาชิ
ในปีเดียวกัน หุ้นละ 250 บาท อัมพุทพงศ์ถืออยู่ 400 หุ้น หรือได้รับเงินปันผล
100,000 บาท
และปรากฏว่า บริษัทนี้จ่ายดอกเบี้ยอย่างอุตลุด ขาดทุนหนักก็ตรงนี้
คนที่เป็นนักบัญชีมืออาชีพก็ต้องสงสัยบัญชีนี้กันทั้งนั้น!!
"ไม่เห็นมีความจำเป็นอะไรจะต้องมาตกแต่งให้มากความ" บางคนสรุปขึ้นลอย
ๆ