Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา กันยายน 2554
วิลลาน่าอภิรมย์บนเกาะสวรรค์ St.Barts             
 


   
search resources

Architecture




มีโอกาสได้รู้จัก Charles Gwathmey ทั้งในฐานะสถาปนิกและเพื่อน ไม่มีใครปฏิเสธความทุ่มเท ความหลงใหล และความสัตย์ซื่อของเขา ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นแม้ในช่วงบั้นปลายของชีวิตขณะป่วยเป็นโรคร้าย

พฤษภาคม 2009 ขณะต่อสู้กับมะเร็งหลอดอาหารที่กำเริบอย่างหนัก Gwathmey ยังกัดฟันเดินทางไปที่ St.Barts เกาะภูเขาไฟในทะเลแคริบเบียน เพื่อตรวจดูความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างในความรับผิดชอบ ครั้งนั้นมี Kang Chang ผู้ช่วยคู่ใจในบริษัท Gwathmey Siegel & Associates Architects ตามไปด้วย

หลังจากกลับบ้านแล้ว เขาเขียนจดหมายถึง Chang ว่า

“โครงการที่ St.Barts น่าอัศจรรย์ใจในทุกๆ ด้าน ผมหวังจะได้อยู่เห็นแผนงานขั้นสุดท้าย ผมไว้ใจในแนวทางและความมุ่งมั่นของคุณ ตอนนี้ชีวิตผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมต้องประนี ประนอม แต่ไม่เคยหยุดความคิดสร้างสรรค์และการวิจารณ์ตนเอง”

หลังจากนั้นไม่นาน สถาปนิกใจสิงห์ที่วงการยกนิ้วให้ว่า เป็น “โมเดิร์นนิสต์” ระดับแนวหน้า ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2009 ขณะอายุ 71 ปี ทิ้งงานชิ้นสุดท้ายไว้เบื้องหลังในฐานะผลงานชิ้นเอกชิ้นหนึ่ง โดย Chang ผู้เป็นศิษย์เอกรับหน้าที่สานต่อจนงานก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2010 เพื่อเป็นข้อพิสูจน์สัมพันธภาพอันยาวนานและแน่นแฟ้นของคนทั้งสอง

สถาปนิกต่างวัยคู่นี้รู้จักกันตั้งแต่ Chang ยังเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ปีหนึ่งของมหาวิทยาลัย Syracuse วันหนึ่งนักศึกษาหนุ่มน้อยผู้ถือกำเนิดในเกาหลีไปหาเพื่อนที่ทำงานในบริษัทของ Gwathmey และเขาวิ่งชนสถาปนิกอาวุโสเข้าอย่างจังโดยที่ไม่รู้จักด้วยซ้ำ

“หมอนี่เป็นใครกัน” Gwathmey ตะโกนใส่หน้า แล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียงว่า “นายเคยมีผลงานอะไรไหม”

จากวันนั้นเอง Chang เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่า บุคลิกเข้มๆ ดุๆ ของ Gwathmey เป็นเพียงสิ่งที่ฉาบไว้ภายนอก ลึกๆ แล้วเขาเป็นคนใจดี มีเมตตาสูงมาก ดังนั้น ระหว่างปิดภาคฤดูร้อน นักศึกษาหนุ่มเกาหลีจึงมีโอกาสไปฝึกงานกับ Gwathmey ทุกปี เมื่อสำเร็จการศึกษาก็เข้าทำงานกับเขาเมื่อปี 1996

Chang ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบโครงการ “แมนฮัตตัน อพาร์ตเมนต์” ของ David Geffen ซึ่งเป็นงานใหญ่ชิ้นแรก หลังจากรับหน้าที่ เป็นสื่อกลาง คอยประสานงานระหว่าง Gwathmey กับ Geffen ได้อย่างดีเลิศ และลงไปในรายละเอียดของงานออกแบบ ทุกตารางนิ้ว Chang ได้รับความไว้วางใจ จากเจ้านายเป็นอย่างมาก “เขาให้อิสระผมมากทีเดียว”

Chang จึงทำหน้าที่หัวหน้าสถาปนิกคุมงานสร้างที่พักอาศัยให้ลูกค้าชื่อเสียงระดับโลกมากมาย เช่น Jerry Seinfeld, Steven Spielberg และ Terry Semel

ปี 2007 Gwathmey รับโทรศัพท์ จากลูกค้ารายสำคัญให้สร้างที่พำนักบนเนื้อที่หนึ่งเอเคอร์ทางเหนือสุดของเกาะ St.Barts ให้ด้วย ทั้งสองจึงเดินทางไปพร้อมภรรยา และพำนักอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุขถึงหนึ่งสัปดาห์ เพื่อศึกษาวัสดุท้องถิ่นและชนิดของการก่อสร้างให้ถ่องแท้ เพราะพวกเขาไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานแถบทะเลแคริบเบียนมาก่อน

สำหรับ Gwathmey งานออกแบบบนเกาะภูเขาไฟแห่งนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง เพราะทางการท้องถิ่นมีกฎระเบียบเข้มงวดว่า บ้านทุกหลังต้องมีหลังคาแบบสมมาตรทั้งสี่ด้าน และไม่มีโอกาสละเมิดกฎอย่างสิ้นเชิง เพราะมีเพื่อนบ้านข้างๆ เป็นประธานสภาภาคพื้นดินเกาะ St.Barts

ที่ดินแปลงนี้ตั้งอยู่บนยอดเนินซึ่งเป็นพื้นที่สูงชัน Gwathmey จึงมีแรงบันดาลใจในการสร้าง ที่พักในลักษณะของพลับพลาและมีสองระดับ ส่วนที่อยู่ระดับต่ำกว่าออกแบบเป็นวิลลา “เรือนรับรอง” 6 หลัง โดยวิลลาหลังหนึ่งเป็นที่ตั้งของห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องอาหาร และห้องออกกำลังกาย พลับพลาส่วนที่อยู่ด้านบนเป็นวิลลาของห้องนอนใหญ่ และมีห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องครัวด้วย วิลลาทั้งสองส่วนมีสระว่ายน้ำและเทอร์เรซของตนเองแยกกัน

Gwathmey ยึดหลักความเรียบง่ายอย่างเคร่งครัด จำกัดประเภทวัสดุก่อสร้างให้มีน้อยอย่าง ที่สุด ผนังด้านนอกเป็นคอนกรีตทาสีขาวและคอนกรีตขัดเงา ส่วนของกำแพงกันดินและประตูทางเข้าบางแห่งสร้างด้วยหินภูเขาไฟสีเทา-ดำที่ขุดจากบริเวณใกล้เคียง สำหรับเทอร์เรซกลางแจ้งห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ สร้างด้วยหินปูน Ataija Azul จากโปรตุเกส

พื้นห้องนอน เครื่องไม้และเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ใช้ Sucupira ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งของบราซิลเป็นวัสดุหลัก ความพิเศษอยู่ที่การบุเก้าอี้นั่งด้วยผ้าใบสีขาวแลดูสวยเด่นและเรียบเนี้ยบ ที่น่าสนใจคือ บนผนังทั่วทั้งบ้านไม่เน้นการแขวนหรือโชว์ผลงานศิลปะใดๆ เพราะต้องการให้จุดสนใจไปอยู่ที่ความสวยงามของภาพทิวทัศน์ ข้างนอก ด้วยการมองผ่านหน้าต่างบานมหึมาทั่วบ้าน

ทีมสถาปนิกกับลูกค้าตกลงว่า งานก่อสร้างแบ่งเป็นสองระยะ เริ่มจากวิลลาข้างล่างก่อน ซึ่ง Chang เล่าว่า

“การตัดสินใจอย่างนี้กลับกลายเป็นความคิดที่ดี เพราะเรามีโอกาส เรียนรู้จากข้อผิดพลาดตรงนั้นก่อนจะลงมือสร้างวิลลาส่วนที่อยู่ด้านบน”

งานก่อสร้างระยะแรกแล้วเสร็จก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้าปี 2009 แต่น่าเศร้าที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้น Gwathmey เสียชีวิตไปก่อนแล้ว ส่วนระยะที่สองแล้วเสร็จในอีกหนึ่งปีถัดมา

ฤดูใบไม้ผลิปี 2010 Chang เปิดบริษัทของตนเองคือ KangModern เพื่อดูแลรายละเอียดของโครงการที่ St.Barts จนเสร็จสมบูรณ์ เขาพูดถึง Gwathmey ว่า

“ผมคิดถึง Charlie มาก เขาเป็นเหมือนพ่อ ทั้งยังเป็นที่ปรึกษาสุดวิเศษ ผมชอบตั้งคำถามในใจเสมอว่า เขาจะทำอย่างไรกับงานที่ทำในแต่ละสถานการณ์ เขายังเป็นคนปลูกฝังให้ผมออกแบบและปรับปรุงรายละเอียดของงานจนนาทีสุดท้าย ทั้งยังเป็นคนไม่ประนีประนอมเพราะถือว่า ตราบใดที่ลูกค้ายังไม่ก้าวเข้ามา คุณยังมีเวลาทำให้งานดีขึ้นเสมอ”   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us