|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
พิพิธภัณฑ์ในกรุงปารีส มีมากจนไปเยือนไม่หมดเสียที ประกอบกับบางแห่งรวบรวมงานศิลป์ที่ไม่ต้องใจ ดังในกรณีของพิพิธภัณฑ์บรองลี (Musee Branly) ซึ่งมีผลงาน primitive arts รู้สึกว่าเป็นงานที่ดิบเกินไปและน่ากลัวเกินไป ขอเก็บไว้ยามมีนิทรรศการดีๆ แล้วค่อยไปเยือน
ประติมากรรมเป็นงานศิลป์ที่ไม่ค่อยสนใจ หากเมื่อได้ชมผลงานของกามีย์ โคลเดล (Camille Claudel) ที่พิพิธภัณฑ์ โรแดง (Musee Rodin) จึงได้ชมผลงานของโอกุสต์ โรแดง (Auguste Rodin) ด้วย ทำให้ตระหนักว่างานประติมากรรมสวยๆก็มี สวยด้วยมีพลังด้วยก็เยอะ ทั้งเคยเห็นงานประติมากรรมของซัลวาดอร์ ดาลี (Salvador Dali) เป็นงานสวยจนน่าทึ่งว่าจิตรกรเซอเรียลิสต์ (surrealist) ก็สามารถ ผลิตผลงานประติมากรรมได้ละเมียดละไม
พิพิธภัณฑ์บูร์แดล (Musee Bourdelle) หนึ่งในเป้าหมายที่จะไปเยือน หากมัวแต่ผัดวันประกันพรุ่ง จนเวลาล่วงเลยไปหลายเพลา ในฤดูใบไม้ผลิ 2011 มีนิทรรศการ Madame Gres, la couture a l’พuvre ที่พิพิธภัณฑ์บูร์แดล ซึ่งเป็นนิทรรศการแฟชั่นแสดงเสื้อสวยๆ ของห้อง เสื้อมาดามเกรส์ (Madame Gres) จึงรีบ รุดไป
พิพิธภัณฑ์บูร์แดลตั้งอยู่ที่ถนนออง ต็วน บูร์แดล (rue Antoine Bourdelle) ย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) จึงนั่งรถไฟใต้ดินไปขึ้นสถานีมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ออกทางถนนแมน (avenue du Maine) เดินเพียงนิดเดียว แล้วเลี้ยวเข้าถนนอองต็วน บูร์แดล (rue Antoine Bourdelle)
อันว่าอองต็วน บูร์แดลนั้นเป็นประติมากร เกิดที่เมืองมงโตบอง (Montauban) ในปี 1861 ชอบเขียนรูปตั้งแต่เด็ก ได้ทุนเรียนที่สถาบันวิจิตรศิลป์ (Academie des beaux-arts) ที่เมืองตูลูซ (Toulouse) ต่อมาเรียนที่โรงเรียนวิจิตรศิลป์ (Ecole des beaux-arts) ที่กรุงปารีส เป็นลูกศิษย์ของอเล็กซองดร์ ฟัลกีแอร์ (Alexandre Falgiere) หากเลิกเรียนเสียก่อน หันมาเขียนรูปส่งขายตามแกลเลอรีงานศิลป์ ในปี 1893 ไปทำงานกับโอกุสต์ โรแดง ประติมากรชื่อดัง ระหว่างนั้นเข้าร่วมประกวดแบบก่อสร้างอนุสาวรีย์ ผู้เสียชีวิตในสงครามปี 1870 ที่เมืองมงโตบอง โอกุสต์ โรแดงช่วยให้ศิษย์ก้นกุฏิได้งานนี้
เมื่อโอกุสต์ โรแดงตั้งโรงเรียนสอนประติมากรรม (Institut Rodin) ในย่านมงต์ปาร์นาส อองต็วน บูร์แดลเป็นหนึ่งใน ครูผู้สอน ทว่าโรงเรียนต้องปิดไปเพราะบริหารกันไม่เป็น แต่ทำให้อองต็วน บูร์แดล ตระหนักว่าตนชอบการสอน จึงไปสอนที่ Academie de la Grande Chaumiere ซึ่งก่อตั้งในปี 1902 โดยมาร์ธา สเตทเลอร์ (Martha Stettler) โดยมีลูกศิษย์ที่ภายหลังเป็นจิตรกรดัง เช่น อัลแบร์โต จาโกเมตตี (Alberto Giacometti) อริสตีด ไมยอล (Aristide Maillol) เรอเน อิเช (Rene Iche) แจร์แมน ริชีเอร์ (Germaine Richier) อองต็วน บูร์แดลมักพาลูกศิษย์ไปชมงานศิลป์ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre) หรือนิทรรศการศิลป์ที่ Salon des Tuileries หรือวิหารโนเทรอะ-ดามเมืองแรงส์ (Notre-Dame de Reims) เป็นต้น
อองต็วน บูร์แดลเลิกทำงานกับโอกุสต์ โรแดงในปี 1908 เขาล้มป่วยในปี 1929 ขณะพักผ่อนที่บ้านเพื่อนในเมืองเวซีเนต์ (Vesinet) ร่างของเขาฝังที่สุสานมงต์ปาร์นาส
ผลงานของอองต็วน บูร์แดลมีมาก มาย เขาเป็นผู้นำร่องประติมากรรมเกี่ยวกับอนุสาวรีย์ เช่น อนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตในสงครามที่เมืองมงโตบอง อนุสาวรีย์ที่มิคกีเอวิช (Monument a Mickiewicz) ซึ่งตั้งที่ปลาซ เดอ ลัลมา (Place de l’Alma) ในกรุงปารีส รูปปั้น La France ที่ปาเลส์ เดอ โตเกียว (Palais de Tokyo) และที่เมืองบริอองซ็ง (Brian”on) รูปปั้นฌาน ดาร์ก (Jeanne d’Arc) ที่เมืองบารองแตง (Barentin) อนุสาวรีย์ผู้เสียชีวิตที่เมืองกาปูเลต์-จูนัก (Capoulet-Junac) ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานในปี 2007 รูปปั้นครึ่งตัวของแองเกรอะส์ (Ingres) รูปปั้นเบโธเฟน (Beethoven)
อองต็วน บูร์แดลเคยตั้งความปรารถนาให้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ของตน เฉกเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์โรแดง ปิยมิตรของเขาคือกาเบรียล กอญัค (Gabriel Cognacq) ซึ่งออกเงินซื้อบ้านที่อองต็วน บูร์แดลพำนักและมีสตูดิโอทำงานในบริเวณเดียวกันระหว่างปี 1884-1929 ภรรยาและลูกสาวของอองต็วน บูร์แดล มอบผลงานในครอบครองแก่เมืองปารีส (Ville de Paris) จนสามารถเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี 1949 มีการก่อสร้างต่อเติม สองครั้งในปี 1961 และ 1992
เพียงเข้าไปในบริเวณพิพิธภัณฑ์ ม้าบรอนซ์ตัวใหญ่ตั้งตระหง่านในสวนขนาดเล็กที่ติดถนน นอกจากนั้นยังมีรูปปั้น อื่นๆ ตั้งอยู่ด้วย ภายในโถงใหญ่เป็นรูปปั้นปูนปลาสเตอร์และหินอ่อนขนาดใหญ่ ซึ่งล้วนแต่เป็นแม่แบบของอนุสาวรีย์ดังที่เขาปั้น เช่น อนุสาวรีย์นายพลอัลเบอาร์ (Alvear) รูปปั้น Centaure mourant ภาพนูนต่ำที่เขาออกแบบเพื่อแต่งโรงละคร ชองป์-เซลีเซส์ (Theatre des Champs-Elysees) เดินไปตามทางเห็นรูปปั้นขนาดเล็ก เป็นรูปนักยิงธนู (Herakles archer) สวยมากทีเดียว อีกทั้งรูปปั้นสาวเปลือย
สวนด้านหลังก็เต็มไปด้วยรูปปั้น อพาร์ตเมนต์และสตูดิโอของอองต็วน บูร์แดลมืดทึม เข้าไปแล้วหายใจไม่ค่อยออก เครื่องเรือนและวัสดุที่ใช้ในการรังสรรค์ผลงานยังคงสภาพเดิม
นอกจากรูปปั้นแล้วยังมีภาพเขียนที่อองต็วน บูร์แดลวาดเองด้วย มีทั้งภาพสีน้ำมันและสีปาสเตล อีกทั้งงานศิลป์ที่เขาสะสม มีทั้งผลงานของโอกุสต์ โรแดง เออแจน เดอลาครัวซ์ (Eugene Delacroix) มอนติเชลลี (Monticelli) แองเกรอะส์ (Ingres) ปูวิส เดอ ชาวานส์ (Puvis de Chavannes) เป็นต้น
พิพิธภัณฑ์บูร์แดลยังเป็นศูนย์การค้นคว้าและวิจัยด้านศิลปะอีกด้วย
|
|
|
|
|