Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ ตุลาคม 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ ตุลาคม 2529
เปิดบ้าน สมหมาย ฮุนตระกูล ขุนนางไทยเชื้อสายไหหลำ...อีกคน             
 

   
related stories

ไทยโอบายาชิ "กระเป๋าสตังค์ใบใหญ่" สมหมาย ฮุนตระกูล?

   
search resources

สมหมาย ฮุนตระกูล
Economics




ต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมหมาย ฮุนตระกูล ได้เปิดบ้านเพื่อเลี้ยงอาหารสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก เมื่อมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสบ้านที่แม้แต่คณะรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลยังไม่เคยเข้าไป จะเขียนเป็นรายงานสั้น ๆ ก็ดูจะไร้วิญญาณคนทำหนังสือไปหน่อย และเมื่อเขียนถึงก็น่าจะสอบสาวไปถึงสาแหรกของตระกูลฮุนตระกูล ที่เรายังไม่เคนเขียนถึงมาก่อน

เลยสี่แยกลาดพร้าวตัดกับถนนรัชดาภิเษกประมาณ 200 เมตร ทางด้านขวามือคือ จักษุคลีนิคชื่อว่า "อัมพุทคลีนิค" ติดกับถนนใหญ่และติดปากซอยลาดพร้าว 36 ถ้ามีคนช่างสงสัยเดินไปดูที่ประตูเหล็ก หล่อเป็นลวดลายกิ่งก้านไม้ใบก็อาจะแปลกใจว่าทำไมมีป้ายชื่ออีกป้ายหนึ่งว่า "บุญญเวศน์" เมื่อมองผ่านประตูเข้าไปจะเห็นตึกสองชั้นขนาดไม่ใหญ่นัก ทว่าท่าทางมีอายุเก่าแก่พอสมควร แต่คงได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี จึงไม่มีร่องรอยของความทรุดโทรม

หากไม่มีใครบอกน้อยคนนักจะเชื่อว่านี่คือที่พำนักของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมหมาย ฮุนตระกูลและครอบครัวมากว่า 30 ปีแล้ว

วันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมบ้าน "บุญญเวศน์" ก็ได้มีโอกาสเปิดต้อนรับบรรดาผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์หลายฉบับเป็นครั้งแรก…และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองอบอุ่นอ่างคาดไม่ถึง

คุณหญิงสมศรี ฮุนตระกูลเป็นแม่งานสั่งการในห้องครัวตั้งแต่ช่วงบ่ายจัด ๆ โดยมีพนักงานแบงก์ชาติ กระทรวงการคลัง และเจ้าหน้าที่จากบรรษัทเงินทุนอุจสาหกรรมมาคอยช่วยดูแลทางด้านเครื่องดื่ม

"ทีม" นักข่าวกลุ่มแรกที่ไปถึงก็คือ "ผู้จัดการ" ที่เรียกว่าทีมเพราะแห่กันไปตั้ง 3 คน…นักข่าวสอง ช่างภาพหนึ่ง เพราะเราเห็นว่าเป็นวาระที่ค่อนข้างสำคัญรวมทั้งเข้าใจผิดเรื่องเวลานัดหมาย แต่การไปถึงก่อนเวลาก็ใช่ว่าจะให้โทษ ตรงข้ามกลับเป็นคุณเสียด้วยซ้ำด้วยว่ามีเวลาพุดคุยซักถามเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเจ้าของบ้าน รวมทั้งช่างภาพเองก็พึงใจที่ได้ถ่ายรูปในขณะที่ยังมีแสงธรรมชาติเหลืออยู่

"ที่ดินแปลงนี้เราซื้อมาเมื่อครั้งยังมีราคาตารางวาละ 20 บาท ก็มีเด็กแบงก์ชาติบางคนพูดเข้าหูลูกน้องเก่าของคุณ (สมหมาย) ว่า …เนี่ยะพอได้เป็นรัฐมนตรีก็ซื้อที่ซื้อบ้านเสียใหญ่โต ก็เลยโดนตอกกลับไปว่า นี่คุณ…บ้านหลังนี้เขาซื้อตั้งแต่คุณยังไม่เกิดด้วยซ้ำ" คุณหญิงสมศรีภริยาอดีตรัฐมนตรีเล่าให้ฟังต่ออย่างผู้ใหญ่ใจดีว่า

"บ้านเรานี่เป็นตึกหลังแรกบนถนนสายนี้เมื่อก่อนหน้าบ้านเป็นคูเล็ก ๆ ผ่านรอบ ๆ มีแต่ทุ่งนา นั่งอยู่ชั้นบนมองเห็นรถเข้ารถออกที่สถานีขนส่งหมอชิตได้สบาย ไฟฟ้าบ้านเราก็มีหลังแรก โทรศัพท์ก็เหมือนกัน เวลามีเรื่องอะไรแถวนี้ กำนันก็ต้องมาขอใช้โทรศัพท์ที่นี่"

ปัจจุบันเนื้อที่ของบ้านบุญญเวศน์ได้ถูกตัดแบ่งให้กับลูกหลานไปเป็นส่วนใหญ่ คงเหลือเนื้อที่รวมกับบ้านของลูกสาว แพทย์หญิงภัทนีประมาณ 3 ไร่เท่านั้น

บริเวณที่ใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงอยู่ที่บริเวณชายคาของบ้านทรงไทยหลังงามซึ่งเป็นบ้านพักของแพทย์หญิงภัทนีและสามี จัดเป็นโต๊ะอาหารสองชุด ตั้งโต๊ะเครื่องดื่มไว้บริเวณหน้าห้องครัว "ผู้จัดการ" ชำเลืองมองเห็นบรั่นดีขวานหงาย 1 ขวด วิสกี้จอห์นนี่วอล์คเกอร์ตราดำและเบียร์ไทยยี่ห้อเก่าแก่ โดยบรรดาบริกรอาสากำลังทดสอบรสชาติกันคนละเล็กคนละน้อย

"บ้านเรือนไทยหลังนี้เราซื้อมาจากหัวหินส่วนหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่รื้อมาจากบ้านสี่พระยา ซึ่งเป็นบ้านของคุณพ่อ (โกศล ฮุนตระกูล) ซึ่งพอท่านเสียเราก็ขายที่บริเวณนั้นไปประมาณ 30 ล้านบาท…ก็แถว ๆ โรงแรมปักกิ่งหือสี่พระยาวิลล่า" คุณหญิงสมศรีตอบคำถาม "ผู้จัดการ" เมื่อแวะมาทักทายอีกรอบหนึ่งในหลาย ๆ รอบ

บ้านหัวหินที่คุณหญิงสมศรี ฮุนตระกูลพูดถึงก็คือบริเวณที่เคยเป็นโรงน้ำแข็งของโกศล ฮุนตระกูล เดิมมีที่ดินนับร้อยไร่ตั้งแต่บริเวณชายทะเลไปจนจรดภูเขา ภายหลังตัดที่แบ่งขายไปบ้าง แบ่งให้ญาติพี่น้องไปบ้างเหลือเนื้อที่ประมาณ 4-5 ไร่ ปัจจุบันยังมีบ้านไม้สักหลังใหญ่ที่สร้างขึ้นเมื่อปี 2467 และบรรดาเพื่อนพ้องของลูก ๆ ทั้งบรรษัทเงินทุนฯ และปูนซิเมนต์ไทยใช้เป็นที่พักอาศัยอยู่เนือง ๆ เวลาไปพักผ่อนที่หัวหิน

"บ้านที่หัวหินนี่ก็มีประวัติศาสตร์นะคะ เพราะก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครองเจ้าคุณอา (พระยาศรีวิสารวาจา) ก็พาพรรคพวกคณะราษฎรไปประชุมที่นั่น" อีกประโยคหนึ่งของคุณหญิงสมศรี

เนื้อที่ส่วนใหญ่ของบ้าน "บุญญเวศน์" อยู่ด้านหลังที่พักของสมหมาย ฮุนตระกูล คือบริเวณบ้านเรือนไทย มีสวนญี่ปุ่นอยู่ตามมุมโน้นมุมนี้ของสนามห้าเรียบเขียว

"สวนญี่ปุ่นนี่เวลาดิฉันไปญี่ปุ่นกับเพื่อน ๆ …กับพวกทัวร์ เห็นที่ไหนสวยดีก็ถ่ายรูปมา แล้วก็ค่อย ๆ ทำไปทีละนิด ทีละหน่อย…โอยคุณ (สมหมาย) ท่านไม่ว่างหรอก ที่เป็นสนามหญ้านี่เดิมเป็นสวนครัว พวกลูก ๆ เขาก็บอกว่าทำเป็นกรีนให้คุณซ้อมพัทกอล์ฟเถอะ ก็รื้อสวนครัวไปหมด ไป ๆ มา ๆ รัฐมนตรีก็ไม่ได้เล่นกอล์ฟอะไรเลย" คุณหญิงสมศรี "บ่น" ให้ฟัง

ประมาณ 18.30 น อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนล่าสุด สมหมาย ฮุนตระกูล ก็เดินลงมาทักทายนักข่าว ซึ่งตอนนี้เพิ่มเป็น 5 คนแล้ว ทันทีที่หุดเดินวิสกี้โซดาค่อนข้างเบาก็ถูกส่งให้โดยลูกน้องเก่าจากบรรษัทฯ

"สถานการณ์เศรษฐกิจตอนนี้ก็ไม่น่าเป็นห่วงมากนัก พระราชกำหนดที่สำคัญทางการเงินก็ผ่านสภาผู้แทนแล้ว ที่ต้องระวังก็คือรักษาสถานการณ์เอาไว้ อย่าหันไปสู่สภาพเดิมที่ใช้เงินเกินตัวหรือใช้จ่ายมือเติบ" ประโยคแรกที่ สมหมาย ฮุนตระกูลพูดกับนักข่าวที่ยืนล้อมรอบเพื่อทยอยกันป้อนคำถาม

"เรื่องที่หนักใจก็คงเป็นเรื่องปรับค่าเงินบาทครั้งสุดท้าย (พ.ย. 2527) ผู้รับผิดชอบ รัฐมนตรีคลังทุกคน ทุกประเทศ ทุกยุคทุกสมัยไม่มีใครอยากจะทำในเรื่องปรับค่าของเงินให้ลดลง ไม่มีใครทำเพื่อความสนุกสนาน หรือเพื่อลองวิชา หรือลองอำนาจของตัวเอง หรือว่าทดสอบพังทางการเมือง…ไม่มีใครทำอย่างนั้นแน่ ก็เป็นเรื่องจำเป็นต้องฝืนทิศทางลมบ้าง แต่ก็ไม่เกินเหตุนัก ไม่ใช่ฝืนจนรัฐบาลล้มก็แย่หน่อย" คำตอบของสมหมายเมื่อถามว่าหนักใจเรื่องอะไรที่สุดตอนเป็นรัฐมนตรี

ทุ่มหนึ่งนักข่าวจากหนังสือพิมพ์ฉับต่าง ๆ มาถึงเป็นส่วนใหญ่ สมหมาย ฮุนตระกูล ดูเหมือนมีความสุขและให้ความเป็นกันเองเป็นพิเศษทักทายคนโน้นคนนี้อย่างอารมณ์ดี ผิดจากสมัยเมื่อยังดำรงตำแหน่งทางการเมือง

"ผมว่าจะไปรื้อฟื้นเรื่องตีกอล์ฟใหม่ เพราะหยุดไปตั้ง 7 ปี ก่อนเลิกเล่นแฮนดิแคปของผมประมาณ 18-20 แล้วแต่สนาม อีกอย่างหนึ่งที่คิดจะทำคือเขียนหนังสือเผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับคนรุ่นหลังศึกษาปัญหาทางเศรษฐศาสตร์ เพราะในระยะที่ผ่านมาเป็นช่วงที่มีความผันผวนมาก ก็คงไม่ใช่เฉพาะคนไทยหรอกนะ คนต่างประเทศเขาก็สนใจ" สมหมาย ฮุนตระกูล บอกใบ้ว่าหนังสือที่เขียนคงไม่ใช่ภาษาไทยดอกนะ

เวลาอาหารเริ่มประมาณทุ่มครึ่งที่นักข่าวประมาณ 20 คนเศษ นั่งแออัดกันที่โต๊ะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รายการอาหารวันนั้นโดยฝีมือกำกับของคุณหญิงสมศรี ฮุนตระกูล ได้แก่ปูจ๋า ยำแหนม ทอดมัน แกงเขียวหวานเป็ด หมูปิ้ง สตูลิ้น นมและผลไม้…เพียบ

อาหารที่ สมหมาย ฮุนตระกูล เลือกตักใส่จานของตนเท่าที่เห็นก็มีข้าวผสมกับขนมจีนราดด้วยแกงเขียวหวานเป็ด แนมด้วยปูจ๋าและทอดมัน…ซึ่งก็แทบจะไม่ค่อยมีโอกาสได้รับประทาน เพราะต้องคอยตอบคำถามที่ระดมมาเป็นชุด ทั้งเรื่องสถานการณ์บ้านเมืองและเรื่องส่วนตัว ท่ามกลางเสียงสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างชนิดที่ไม่มีเค้ามาก่อน

3 ทุ่มตรง คำถามที่พึงถามก็หมดแล้ว คำตอบที่พึงตอบก็ตอบไปแล้ว ฝนก็หยุดแล้ว บรั่นดีแก้วสุดท้ายที่คนสนิทเอามาเสิร์ฟตบท้ายอาหารมื้อค่ำของ สมหมาย ฮุนตระกูล ก็จิบจนหมดหยดสุดท้าย วาระต่อมาก็คือการถ่ายรูปหมู่ร่วมกับนักข่าวก่อนที่จะอำลาแยกย้ายกันกลับ

ทิ่งไว้แต่สองผู้เฒ่าเจ้าของบ้านที่ยืนส่งแขกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสด้วยความโล่งใจในภารกิจที่เสร็จสิ้นลง เช่นเดียวกับฝนที่กระหน่ำลงเมื่อชั่วครู่

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us