“อสมท” ทุ่ม 150 ล้านบาทเพิ่มเช่าช่องสัญญาณทรานสปอนเดอร์จากดาวเทียมไทยคม ลุยเคเบิลทีวีผ่านระบบจานรับสัญญาณเคยูแบนด์ จีบผู้ผลิตรายใหญ่ร่วมผลิต เปิดให้บริการตั้งแต่ครึ่งปีหลังเป็นต้นไป ประเมิณโครงการที่ดิน 50 ไร่ ผ่านลุยแม้เปลี่ยนรัฐบาลใหม่ คุยทั้งปีรายได้ตามเป้าโตไม่ต่ำกว่า 10%

นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานของอสมทในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ในส่วนของช่องโมเดิร์นไนน์ จะมุ่งเน้นพัฒนารายการช่วงนอนไพร์มไทม์เป็นหลัก เน้นจับมือกับเอเจนซี่รายใหญ่ร่วมผลิตรายการ ขณะที่ในสื่อนิวมีเดียนั้น จะได้เห็นการเปิดตัวโครงการจานดาวเทียมแบบเคยูแบนด์ จากปีก่อนที่อสมทเข้ามารุกในสื่อเคเบิลทีวี และให้บริการในระบบจานรับสัญญาณแบบซีแบนด์

สำหรับโครงการจานดาวเทียมเคยูแบนด์นี้ เบื้องต้นใช้งบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท เป็นค่าเช่าสัญญาณเพิ่มทรานสปอนเดอร์ระบบเคยูแบนด์จากดาวเทียมไทยคม5 ซึ่งสามารถบีบอัดสัญญาณออกมาได้ประมาณ 10 กว่าช่อง แต่ตามแผนต้องการวางเป็นช่องHD จะทำได้6 ช่อง และทำแบบธรรมดาจะทำได้ 8-9 ช่อง รวมกับแบบผสมผสานได้อีก 2-3 ช่อง ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนทดลองการออกอากาศอยู่

ตามแผนการดำเนินงาน บริษัท ต้องการใช้ช่องทางดังกล่าว ทำเป็นช่อง HD ของ อสมท 1 ช่อง ภายใต้คอนเท้นต์ที่มีอยู่เดิมและผลิตขึ้นใหม่ ส่วนช่องที่เหลือนั้น จะมีทั้งแบบให้เช่าช่องสัญญาณ และร่วมผลิต ซึ่งกำลังคุยกับผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น แกรมมมี่ อาร์เอส เวิร์คพ้อยท์ รวมไปถึงเนชั่น เนื่องจากพบว่ามีผู้ประสงค์เช่าช่องสัญญาณหลายรายแต่พื้นที่ให้เช่าสัญญาณนั้นเริ่มหมดลง โดยปีนี้น่าจะทำได้ 3-5 ช่อง ตั้งเป้าว่าภายในปี 2555 ช่องเคเบิลทีวีทั้งระบบซีแบนด์และเคยูแบนด์ของอสมท จะมีจำนวนรวมไม่ต่ำกว่า 20 ช่อง จากปัจจุบันให้บริการอยู่ที่ประมาณ 10 ช่อง ในระบบซีแบนด์

อย่างไรก็ตาม ครึ่งปีหลังนี้ ในส่วนของโครงการโมบายทีวีได้เลื่อนออกไป เพราะต้องรอการเกิด “กสทช” ก่อน ส่วนโครงการพัฒนาที่ดิน 50 ไร่นั้น เชื่อว่าแม้จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ โครงการดังกล่าวก็น่าจะผ่านมติ ให้สามารถดำเนินการต่อไปได้

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้จากโทรทัศน์ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้น ในรายการข่าว กิจกรรมการเลือกตั้งและรายได้จากธุรกิจสื่อใหม่ ด้านธุรกิจสถานีวิทยุฯ มีรายได้ 227 ล้านบาท เติบโต 0.5% ทำให้มีรายได้ รวม 1,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553

ทั้งนี้มองว่าสิ้นปีนี้อสมทจะมีรายได้เติบโตที่ 10% ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยรายได้หลักยังมาจากกลุ่มสื่อโทรทัศน์ 60% วิทยุ 15% สัมปทาน10% และนิวมีเดีย 5%

บมจ. อสมท แถลงผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2554 เดินหน้ายกระดับสื่อชั้นนำ รายได้โตต่อเนื่อง ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 บริษัทฯ มีรายได้โทรทัศน์ 1,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 25 จากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้น ในรายการข่าว กิจกรรมการเลือกตั้งและรายได้จากธุรกิจสื่อใหม่ ด้านธุรกิจสถานีวิทยุฯ มีรายได้ 227 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 0.5 ทำให้มีรายได้ รวม 1,520 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553

นายธนวัฒน์ วันสม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการดำเนินงานของ บมจ. อสมท และบริษัทย่อย ประจำไตรมาส 2 ปี 2554 (เม.ย. –มิ.ย. 2554) แบ่งตามธุรกิจสื่อดังนี้

ด้านธุรกิจโทรทัศน์ รายได้โทรทัศน์ปรับตัวขึ้นร้อยละ 20 ในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2553 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ในไตรมาส 2 จากรายได้โฆษณาที่เพิ่มขึ้น ในรายการข่าว รายการประเภท Seasonal Program เช่น รายการ The Star และการเพิ่มสัดส่วนรายการบันเทิงเชิงสาระมากขึ้น โดยเฉพาะรายการละครหลังข่าว วันเสาร์อาทิตย์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงสามารถรักษาสัดส่วนผู้ชมให้อยู่ในลำดับที่ 3 และส่งผลให้อัตราการใช้เวลาโฆษณา (Utilization Rate) เฉลี่ยในช่วง Prime Time และ Non – Prime Time ในไตรมาสสอง มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นจากไตรมาสแรก นอกจากนี้การปรับขึ้นราคาค่าโฆษณาบางรายการในช่วงต้นปี 2554 รวมถึงกลยุทธ์การขายที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและตลาด ทำให้สัดส่วนการตลาดของสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ ขยายตัวจากปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมาร้อยละ 10 จากการใช้งบโฆษณาเพิ่มขึ้นของสินค้าต่าง ๆ และการเพิ่มกิจกรรมของรายการและของสถานีอย่างต่อเนื่องช่วยกระตุ้นการใช้งบโฆษณาผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การเลือกตั้ง การแข่งขันหุ่นยนต์ ABU ชิงชนะเลิศประเทศไทย การจัดกิจกรรมเสริมรายการ อาทิ Quit Surprise Trip นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากธุรกิจสื่อใหม่ เช่น การบริหารสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมให้กรุงเทพมหานคร (Bangkok City Channel) และการทำสัญญารายปีเพื่อแพร่ภาพออกอากาศรายการโทรทัศน์ผ่านช่องสัญญาณดาวเทียม ระบบ C-band การออกอากาศช่อง MCOT 1 และ ASEAN TV

ด้านธุรกิจวิทยุ รายได้ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 และในไตรมาส 2 เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2553 โดยสถานีวิทยุส่วนกลางและส่วนภูมิภาคยังสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดและฐานลูกค้าโฆษณาได้ ในขณะที่ภาพรวมของอุตสาหกรรมวิทยุในช่วงครึ่งแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 95 ลูกทุ่งมหานคร และสถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม 97.5 (Seed FM) ยังคงรักษาความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ในขณะที่สถานีวิทยุฯ เอฟ.เอ็ม. 96.5 คลื่นความคิด ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในช่วงเลือกตั้ง

ค่าใช้จ่ายรวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2553 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ในช่วงครึ่งปีแรกเมื่อเทียบกับปี 2553 บมจ.อสมท สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโดยรวมในไตรมาส 2 ได้ดีขึ้น โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีเพียงค่าใช้จ่ายด้านโทรทัศน์และวิทยุที่เพิ่มขึ้น จากการผลิตรายการพิเศษในช่วงการเลือกตั้ง และค่าเช่าใช้บริการถ่ายทอดสัญญาณผ่านดาวเทียม รวมถึงค่าใช้จ่ายบุคคลที่เพิ่มขึ้น จากการปรับรอบการประเมินผลงานประจำปี

ภาพรวมของผลกำไรประจำไตรมาส ที่ 2 ปี 2554 ของบริษัท ยังมีการเติบโตของรายได้ต่อเนื่อง โดย บริษัท มีกำไรสุทธิ 504 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือ คิดเป็น 0.73 บาทต่อหุ้น โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 499 ล้านบาท และกำไรสุทธิในช่วงหกเดือนแรกของปี 2554 มีจำนวน 871 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 1.27 บาทต่อหุ้น โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ จำนวน 863 ล้านบาท จึงทำให้บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 10,360 ล้านบาท หนี้สิน 2,602 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 7,758 ล้านบาท เป็นผลจากเม็ดเงินจากการโฆษณากิจกรรม และโครงการต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น พร้อมการเดินหน้าต่อยอดธุรกิจใหม่ หรือนิวมีเดีย ทำให้ บมจ. อสมท ยังเดินหน้าขยายพื้นที่ธุรกิจสื่อ ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่งคง