"แม็คโคร" ลุยหนักปีนี้ จัดเต็มรับเศรษฐกิจฟื้น ทุ่มกว่า 3,000 ล้านบาท ขยายสาขามากกว่าปีที่แล้ว รวมไม่ต่ำกว่า 7 สาขา พร้อมมุ่งเน้นฟอร์แมทโฮเรก้าเพราะเติบโตกว่า 25% เตรียมเผยโฉมสั่งซื้อออนไลน์เดือนหน้า ลุ้นปีหน้ารายได้ทะลุ แสนล้านบาท
นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ศูนย์ค้าส่งแม็คโคร กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯได้ใช้งบลงทุนรวมมากกว่า 3,000 ล้านบาท ทั้งการเปิดสาขาใหม่และการรีโนเวตสาขาเดิม โดยปีนี้ถือได้ว่าเป็นปีที่บริษัทฯขยายสาขาใหม่มากกว่าปีที่ผ่านมา ที่เปิดให้บริการสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา เนื่องจากว่าปีนี้ปัจจัยบวกมีหลายประการเช่นเรื่องของกำลังซื้อภายในประเทศที่ดีขึ้น โอกาสในการทำธุรกิจมีมากขึ้น รวมทั้การที่มีรับบาลชุดใหม่แน่นอนบริาหรประเทสแล้ว
ขณะเดียวกันรัฐบาลใหม่โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ซึ่งมีนโยบายชัดเจนในการมุ่งกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศให้มากขึ้น และให้มีการกระจายรายได้ในทุกช่องทาง จากปัจจุบันประเทศไทยมีรายได้หลักจากการส่งออก และการท่องเที่ยว เป็นหลัก ซึ่งไม่ควรมองเพียงแค่เศรษฐกิจเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่ควรมองประเทศอื่นๆด้วย เนื่องจากสหรัฐอเมริกา และยุโรปมีปัญหาเศรษฐกิจ ขณะที่ภูมิภาคเอเชียยังมีความแข็งแกร่งในขณะนี้
สำหรับการขยายาขาใหม่ปีนี้ เมื่อครึ่งปีแรกเปิดไปล้ว 2 สาขาคือที่ จังหวัดราชบุรี และ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ขนาดพื้นที่ 7,000 ตร.ม. ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี ส่วนแผนครึ่งปีหลังนี้ มีแผนที่จะขยายสาขาใหม่อีกประมาณ 3-4 สาขา เช่น จังหวัดอยุธยา, ลำปาง และสาขาหัวหิน ในรูปแบบโฮรีกา ซึ่งใช้งบลงทุนประมาณ 400-500 ล้านบาทต่อสาขา
หากเป็นไปตามแผนงานคาดว่าสิ้นปีนี้แม็คโครจะมีสาขาเปิดให้บริการรวมทั้งสิ้น 48 สาขา โดยแบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล 9 สาขา และเป็นสาขาในต่างจังหวัด 39 สาขา กระจายอยู่ใน 50 จังหวัดทั่วประเทศไทย
ปีนี้เราจะมุ่งเน้นการขยายสาขาแบบโฮเรก้า (คือห้างค้าส่งที่ทำธุกริจรองรับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการร้านอาหาร, โรงแรม และบริการจัดเลี้ยง) เพราะร้านอาหารในไทยมีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจุบันแม็คโครมีสาขารูปแบบโฮเรก้า4 สาขา คือ พัทยา, ภูเก็ต, สมุย และกระบี่ และสินค้าในกลุ่มนี้มีการเติบโตมากกว่า25%
“บริษัทฯประเมินว่า ในชขณะนี้ยังไม่มีความกังวลจากปัจจัยภายนอกมากเหมือนกับภาคธุรกิจอื่นๆ เพราะว่าธุรกิจของบริษัทฯเป็นการขายของที่จำเป็นกับผู้บริโภคในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว โดยที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งปัจจุบันแม็คโครมีฐานสมาชิกประมาณ 2.3 ล้านราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วในสาขาเดิมประมาณ 4-5 หมื่นราย และแบ่งเป็นกลุ่มโฮรีกา 3 แสนราย” นางสุชาดากล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2554 นี้ คาดว่าหากไม่มีปัจจัยลบใดๆเกิดขึ้นอีกเหมือนปีที่แล้ว บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น 10% ซึ่งมากกว่าอัตราการเติบโตของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีแน่นอน โดยยอดขายจากสาขาเดิมมีการเติบโต 7% จากเมื่อปี2553 บริษัทฯมียอดขายรวมประมาณ 89,000 หมื่นล้านบาท และมั่นใจว่าภายในปีหน้าบริษัท จะมีรายได้ทะลุ 1แสนล้านบาทเป็นครั้งแรก
ล่าสุด บริษัทฯเตรียมจัดงาน ตลาดนัดโชห่วย ครั้งที่ 4 ภายใต้แนวคิด “ถนนสายโชห่วย จากรุ่น...สู่รุ่น” ซึ่งเป็นกิจกรรมในโครงการ แม็คโคร มิตรแท้โชห่วย วันที่ 15-18 ก.ย.54 ที่ เอ็กซิบิชัน ฮอลล์1 และ2 ศูนย์แสดงสินค้าอิมแพค เมืองทองธานี ซึ่งบริษัฯเตรียมเปิดให้บริการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ เป็นครั้งแรกเป็นการทดลองอีกด้วยเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับสมาชิกลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแม็คโคร
|