Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน22 สิงหาคม 2554
ดิเอราวัณฯทุ่มหมื่นล.ใน5ปีปรับราคาห้องพักอ้างต้นทุนพุ่ง             
 

   
related stories

ดิ เอราวัณ เต็มไปด้วยบทเรียน
เหตุการณ์สำคัญของ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป

   
search resources

Hotels & Lodgings
ดิ เอราวัณ กรุ๊ป, บมจ.




ดิเอราวัณ กรุ๊ป ปลื้ม ผลประกอบการปีนี้ ฟื้นแล้ว ครึ่งปี รายได้โตกว่า 100% เทียบกับปีก่อน เตรียมขยับขึ้นราคาห้องพัก เฉลี่ย 3-5% ในรอบ 3 ปี ระบุ ในอีก 5 ปี ข้างหน้า หมดศึกสงครามราคา เข้าสู่ยุดเติบโตแบบยั่งยืน ยันเดินหน้าแผนงาน 5 ปี ลงทุน 10,000 ล้านบาท เปรยสนใจขยายไลน์สินค้า เปิดคอนโดมิเนียมกลางกรุง สิ้นปีนี้

นางกมลวรรณ วิปุลากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัท ได้ทยอยปรับขึ้นอัตราค่าห้องพักของโรงแรมในกรุ๊ปที่มีอยู่ทั้งหมด ให้เป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง เพราะขณะนี้ สถานการณ์ธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมฟื้นตัวเกือบเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่า ถึงสิ้นปี ยอดขายห้องพักของโรงแรมรวมทั้ง 13 แห่ง จะเติบโตจากปี 2553 ราว30% จากอัตราเข้าพักที่เติบโต 13% เทียบกับปีก่อน โดยในส่วนของโรงแรมระดับ 5 ดาว ของบริษัท ได้แก่ โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ และ โรงแรม เจ ดับ บิว แมริออท สุขุมวิท จะสามารถขยับขึ้นราคาได้ตั้งแต่ 3% ขึ้นไป ขณะที่แบรนด์ โรงแรม 3 และ 4 ดาว คือ ไอบิส และ เมอร์เคียว จะปรับขึ้นราคาได้อย่างน้อย 5% ครั้งแรกในรอบ 3 ปี

“ปี 2553 รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก ของโรงแรม ในกรุ๊ป เราอยู่ที่ 1,437 บาท ต่อห้องต่อคืน ส่วนปีนี้ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,769 บาท ต่อห้องต่อคืน โดยครึ่งปีแรกของ 2554 อัตราเข้าพักเฉลี่ยของโรงแรมทั้งกลุ่มอยู่ที่ 72% เพิ่มจากปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 56% อัตราค่าห้องพักของทั้งกลุ่มปรับเพิ่มขึ้น 5% ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งกลุ่มปรับเพิ่มขึ้น 34% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการปรับตัวขึ้นทุกกลุ่มโรงแรม โดยเฉพาะโรงแรมระดับกลาง อย่าง เมอร์เคียว์และไอบิส ที่เติบโตสูง ตามเทรนพฤติกรรมของนักท่องเที่ยว”

ผลจากการเมืองทำให้ปี 2553 โรงแรมในพื้นที่กรุงเทพฯได้รับผลกระทบอย่างมาก ทำให้ในปี 2554 โรงแรมของกลุ่ม ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ทั้ง 5 ดาว และ ระดับกลาง มีอัตราเติบโตรวมเพิ่มจากปีก่อน 122% และ 108% ตามลำดับ ส่วนโรงแรมที่อยู่นอกเขตกรุงเทพฯ มีรายได้เติบโตเทียบกับปีก่อน 38% พื้นที่เมืองพัทยาเติบโตสูงสุด ซึ่งมาจากลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว และการเติบโตของลูกค้าองค์กรจากธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก

เชื่อ 5 ปี โรงแรม 5 ดาวเข้ายุดเติบโต

นางกมลวรรณ กล่าวว่า ในช่วงนี้ ยอมรับว่า โรงแรม 5 ดาว ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านถนนสุขุมวิท มีการแข่งขัน สูง ทำให้โรแงรมเกิดใหม่ ต้องเหนื่อยมาก อย่างไรก็ตาม มั่นใจในอีก 5 ปีข้างหน้า โรงแรมระดับ 5 ดาว จะกลับมาเติบโตอย่างจริงจังอีกครั้ง เพราะขณะนี้เป็นช่วงที่โรงแรมระดับ 5 ดาว แบรนด์ใหม่ๆ จากต่างประเทศ ทยอยเข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย ซึ่งจะเปิดครบในอีก 5 ปีข้างหน้า หลังจากนั้น การปรับขึ้นราคาของโรงแรมระดับ 5 ดาว จะปรับขึ้นได้ตามต้นทุนที่แท้จริงในแต่ละปี เข้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

แผนงาน 5 ปีของบริษัทฯ ที่ตั้งเป้าหมายลงทุน 7,000-10,000 ล้านบาท ทั้งรีโนเวตโรงแรมเดิม และเปิดโรงแรมใหม่เพิ่มเติบ ยังเป็นตามเดิม บริษัท จะมีโรงแรมในประเทศไทยมากกว่า 20 แห่งขึ้นไป จากปัจจุบัน 13 แห่ง โดยในปี 2558 จะมีรายได้เป็น 2,500 ล้านบาท จากจำนวนห้องพักรวม 5,000 ห้อง จากปี 2554 ที่ประเมินว่าจะมีรายได้รวมทั้งปีที่ 1,700 ล้านบาทเศษ จากจำนวนห้องพักรวม 3,400 ห้อง

สนใจเปิดธุรกิจคอนโดมิเนียม

สำหรับแผนการลงทุน มีความเป็นไปได้ ที่จะขยายธุรกิจ เข้าสู่ พร็อพเพอร์ตี้ ที่อยู่อาศัย ประเภทคอนโดมิเนียม ในย่านเมืองและย่านธุรกิจ คาดเปิดตัวสิ้นปีนี้ ตอบรับดีมานด์ที่มีอยู่แล้วในตลาด จากขณะนี้ธุรกิจของบริษัท ยังคงเป็น โรงแรม อาคารสำนักงาน และ พื้นที่พลาซ่า ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ ภายหลังเปิดเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2558

ถ้าเห็นโอกาสที่เหมาะสมก็จะทำ โดยประเ?สที่น่าลงทุนในความคิดตอนนี้คือ เวียดนาม เพราะ มีการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสูง และยังเป็นประเทศที่มีรถไฟเชื่อมต่อ ทำให้กาเรดินทางสะดวก   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us