Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2529
ธีรพล นิยม "แปลนกรุ๊ป" ธุรกิจคนหนุ่มที่ไม่หยุดนิ่ง             
 

   
related stories

เถ้าแก่ยุคใหม่พลังอันน้อยนิดแต่วิญญาณธุรกิจยิ่งใหญ่

   
search resources

ธีรพล นิยม
Architecture




ธุรกิจสถาปนิกเดินหน้าด้วย "ไอเดีย" จุดเริ่มต้นไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุน แปลนอาคิเตคเริ่มต้นด้วยมันสมองของคน 7 คนรวมกัน ค่อย ๆ สะสมทุนจากไม่มีเลย จนถึงวันนี้ธุรกิจของพวกเขามีสินทรัพย์แล้วประมาณ 50 ล้านบาท ท่ามกลางการขยายธุรกิจออกไปหลายแขนงอันเกี่ยวข้องกับการออกแบบ และสิ่งสวย ๆ งาม ๆ

พวกเขารวมตัวกันครั้งแรกที่คณะสถาปตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พวกเขาประกอบด้วย ธีรพล นิยม ครองศักดิ์ จุฬามรกต วิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ อำพล กีรติบำรุงพงษ์ สันติพงษ์ ธรรมธำรง เดชา สุทธินันท์ และพิมาย วิระพรสวรรค์ (ภรรยาวิฑูรย์)

"สำนักงานสถาปนิกครั้งแรกตั้งอยู่ที่บ้านแม่ยายผม แถว ๆ บางโพ ผมสร้างเป็นเรือนหอเล็ก ๆ เพียง 7-8 หมื่นบาท" ธีรพล นิยม 1 ใน 7 ผู้ก่อการกล่าว

การรวมตัวครั้งนั้นเกิดขึ้นหลังจากจบการศึกษากันมาแล้ว 3 ปี เวลาที่เสียไปเพราะธุรกิจขายหนังสือซึ่งเริ่มต้นรวมตัวกันนอกมหาวิทยาลัย ครั้งแรกเมื่อ ปี 2517

พวกเขาล้วนเป็นเด็กบ้านนอก ส่วนใหญ่บ้านเกิดอยู่ปักษ์ใต้ ล้วนเรียนหนังสือเก่ง ๆ และปีท้าย ๆ ของการเรียนในมหาวิทยาลัยพวกเขาเป็นนักกิจกรรมจึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ส่งผลดีต่อการทำงานในเวลาต่อมา

ปี 2520 เริ่มตั้งสำนักงานสถาปนิกได้งานครั้งแรกที่จังหวัดชุมพรออกแบบก่อสร้างโรงแรมภราดรอินน์ มูลค่าก่อสร้าง 38 ล้านบาท "คุณครองศักดิ์ มีพื้นเพที่ชุมพรจึงได้งานเพราะคนรู้จักกัน เป็นงานที่พวกเขาตัดสินใจเริ่มต้นรวมตัวกันตั้งสำนักงาน" เพื่อนสนิทพวกเขาคนหนึ่งบอก

"เราคิดกันว่าในเมืองน่าจะมี ทาวน์เฮ้าส์ เป็นบ้านซึ่งไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เสียค่ารถ เราออกแบบ พีเอส ดีเวลล็อปเมนท์เป็นเจ้าของโครงการ ทำกันหลายโครงการ" ธีรพล เล่าว่าเป็นจุดที่พวกเขาได้งานมากขึ้น เพราะเป็นเจ้าของ "ไอเดีย" ทาวน์เฮ้าส์ครั้งแรก ๆ ในกรุงเทพฯ

โครงการเหล่านั้นได้แก่ ศาลาแดงทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 5 ล้านบาท แสงเงินทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 6 ล้านบาท สันติสุขทาวน์เฮ้าส์มูลค่า 8 ล้านบาทเป็นต้น

ในระยะแรก ๆ งานของพวกเขาที่ได้จะมาจาก 2 ทาง เริ่มต้นที่ต่างจังหวัดกับงานขนาดย่อมในกรุงเทพฯ ในปีที่ 3 พวกเขากระโดดไปหากินถึงสิงคโปร์ซึ่งถือเป็นการฝึกฝนวิทยายุทธครั้งสำคัญ

ปี 2522 ธุรกิจเริ่มปักหลักและแตกแขนงในเวลาเดียวกัน จดทะเบียนบริษัทแปลนอาคิเตคอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันก็ตั้งบริษัทแปลนดีเวลล็อปเมนท์ ร่วมโครงการพัฒนาที่ดิน สร้างและจัดสรรทาวเฮ้าส์ ธีรพลยอมรับว่าจุดนี้เป็นจุดก้าวกระโดดในการสะสมทรัพย์สิน และขยายตัวออกไปอย่างมาก "ถึงแม้มีเงินพวกเราใช้เงินอย่างประหยัด เงินเดือนเพียงคนละ 2,500 บาท ได้แค่นี้อยู่หลายปี"

ในช่วงนี้แปลนอาคิเตคมีรายได้และกำไรเป็นล้านๆ บาทแล้ว!

"เราพยายามขยันทำงานและตรงไปตรงมากับคนที่ใช้บริการเรา ผมว่ามันเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้เรามีเครดิต เราก็ได้รับความไว้วางใจเราทำโครงการ REAL ESTATE กำไรเป็นของเราค่าที่ดินเป็นของเขา" ธีรพลคุย

หลังจากปี 2522 เป็นต้นมา แปลนอาคิเตคก็ได้ขยายกิจการและแตกแขนงออกไปหลายทางมากขึ้น ตั้งแต่ REAL ESTATE MANAGEMENT (แปลนดีเวลล้อปเมนท์) บริษัทแปลนทอย (เดิมชื่อแปลนครีเอชั่น) ผลิตของเด็กเล่นส่งออก ซึ่งเพิ่งจะขยายกิจการลงทุนเพิ่มเกือบ 20 ล้านบาททั้งได้รับการส่งเสริมจาก บีโอไอ. และกู้เงินจาก ไอเอฟซีที. เมื่อไม่นานมานี้ด้วย บริษัทแปลนกราฟฟิค (เดิมชื่อกราฟฟิค อินเตอร์ฯ) ผลิตสิ่งพิมพ์รายงานประจำปี ปฏิทิน และไดอารี่ต่าง ๆ ในงานที่เรียกว่า GRAPHIC DESIGN ธุรกิจที่ใกล้เคียงกันนี้คือ บริษัทแปลน พับลิชชิ่ง ดำเนินงานหนังสือรักลูกและโรงพิมพ์แปลนพริ้นติ้งเฮ้าส์

นอกจากนี้ยังเปิดร้านเสื้อผ้า-วิทวิทที่ศูนย์การค้ามาบุญครอง และสยามเซ็นเตอร์

"แปลนอาคิเตคและแปลนทอย ดูจะไปได้ดีกว่ากิจการอื่นๆ" ผู้ใกล้ชิดกลุ่มนักธุรกิจหนุ่มกลุ่มนี้ตั้งข้อสังเกต

"เรา DIVERSIFIED ออกไปก็เพื่อมารองรับบริษัทออกแบบแปลนอาคิเตคของเรา ขณะเดียวกันก็สร้างโอกาสให้คนของเราฝึกฝนพวกเขาขึ้นมา อีกประการหนึ่งเราคิดว่างานบริการ (ออกแบบ) ในอนาคตจะหาเงินมากๆ ลำบาก เราเลยต้องลงทุน เพื่อให้ได้เงินมามากๆ และเป็นกิจการที่มีคุณภาพ ซึ่งก็นับว่าโชคดี" ธีรพลร่ายยาว

ถึงไม่บอกชัดก็พอจะทราบว่าพวกเขาเริ่มทำธุรกิจเป็น หลังจากเดินเครื่อง DIVERSIFIED ธุรกิจ

"พวกเราพยายามทำความเข้าใจธุรกิจตอนต้น ๆ ก็ไปเชิญเพื่อน ๆ ที่เรียน MBA มา LECTURE ไม่งั้นเราไม่รู้เรื่องเหมือนกัน" ธีรพล แจงถึงพัฒนาการของพวกเขาที่มาจาก ACTIVIST มีความคิดทางการเมือง และมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจที่มุ่งไปทางพัฒนาคนและเพื่อสังคมมากไปในระยะแรกๆ "บางบริษัทเราไม่ตั้งเป้าหมายเพื่อกำไรสูงสุดเช่นบริษัทผลิตหนังสือ เรารู้สึกว่าหนังสือจะเป็นสื่อให้อะไรกับสังคมได้บ้าง"

ปี 2525-2527 เป็นช่วงที่แปลนอาคิเตคได้งานมาก ได้รับรางวัลออกแบบสถาปัตยกรรมดีเด่น วงการนี้ยอมรับว่าแปลนอาคิเตคเป็นท็อปเท็น

โครงการใบหยกทาวเวอร์ อาคารสูงที่สุดในกรุงเทพฯ มูลค่า 280 ล้านบาทสำนักงานใหญ่ ปตท. มูลค่า 400 ล้านบาท ชาญอิสระทาวเวอร์มูลค่าก่อสร้าง 150 ล้านบาท ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือออกแบบของพวกเขา

แปลนอาคิเตคได้รับรางวัลออกแบบดีเด่นตากอาคารคอนโดมิเนียม "สิทธาคาร" ศูนย์เรียนรวมแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน เป็นต้น

ความสำเร็จของพวกเขาเกิดขึ้นจาก "มันสมอง" ของพวกเขาโดยแท้!

สถานการณ์ธุรกิจสถาปนิกทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก มีการแข่งขันกันมากขึ้น การ DIVERSIFIED สู่ธุรกิจอื่น ๆ ของพวกเขาที่ดำเนินการและวางรากฐานมาประมาณ 5 ปีก่อนจึงเป็นการมองการณ์ไกล

ลักษณะการบริหารของแปลนกรุ๊ปเริ่มจากคณะกรรมการ 7 คนเป็นผู้กุมนโยบายและแผนงาน โดยแบ่งงานให้กรรมการแต่ละคนรับผิดชอบโดยตรง อาทิ ธีรพล รับผิดชอบแปลนอาคิเตค แปลนดีเวลล็อปเมนท์ วิฑูรย์รับผิดชอบแปลนทอย พิมายบริหารร้านเสื้อผ้าวิทวิท เป็นต้น "แต่ละบริษัทเราพยายามให้มีแผนงาน มีระบบงบประมาณ จะได้รู้ว่ากองกลางจะสนับสนุนการเงินอย่างไร คณะกรรมการบริหารของกลุ่มประชุม 3 เดือน/ครั้ง" ธีรพลเล่าและว่าแปลนกรุ๊ปให้ความสำคัญของการประชุมมากถึง 30% ของการทำงานทีเดียว" แต่หากมีปัญหาใหญ่ก็จะเปิดประชุมทันที ซึ่งมันไม่ค่อยเกิด"

จุดเด่นของแปลนกรุ๊ปจึงอยู่ตรงที่คณะกรรมการสามัคคีกัน ถึงมีความเห็นขัดแย้งกัน ก็สามารถแก้ตกในที่ประชุมเป็นส่วนใหญ่ ไม่ออกมาระเบิดนอกห้อง อย่างไรก็ตามบางคนของพวกเขาก็ยอมรับความอะลุ้มอล่วย เป็นจุดอ่อนในการบริหารของแปลนกรุ๊ป

"แต่ละบริษัทจะต้องทำงบประมาณของตัวเองขึ้นมา ถ้าไม่พอ จำเป็นต้องใช้เงินเราก็จะประชุมคณะกรรมการกลุ่มว่าเรามีเครดิตไลน์ที่ไหน หรือถ้าไม่พอจะทำอย่างไร จะชวนคนมาร่วมหุ้นหรืออย่างไร เรามีสมุห์บัญชีคนหนึ่ง ไม่ใช่ 7 คนนี้นะเรียก FINANCE DIRECTOR และจะมีนักบัญชีรับผิดชอบแต่ละบริษัทขึ้นต่อ FINANCE DIRECTOR ส่วนการวางแผนด้านการเงินในลักษณะด่วนมาก ผมจะทำโดยปรึกษากับเพื่อน ๆ ก่อน" ธีรพล ในฐานะรับผิดชอบด้านการเงินของกรุ๊ปโดยตรงกล่าว

แปลนกรุ๊ปค่อนข้างโชคดีที่ได้รับการยอมรับจากธนาคารพาณิชย์ไม่ยากเหมือน YOUNG ENTREPRENUER คนอื่น ๆ เพราะผลงานเป็นที่ประจักษ์ และจับต้องได้" เขามีฝีมือเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจออกแบบก่อสร้าง และของเล่นเปรียบเทียบกับธุรกิจอื่นๆ แล้วเสี่ยงน้อยกว่า" คนวงการธนาคารแสดงความเห็น

แปลนเริ่มกู้เงินธนาคารในยุคที่ CONDOMINEUM บูมในปี 2524-25 ซึ่งธุรกิจของเขาได้งานออกแบบชนิดนี้ในระดับแนวหน้า

แปลนกรุ๊ปย้ายออกจากบ้านแม่ยายของธีรพลมาเช่าอาคารที่สีลม และเมื่อต้นปี 2529 นี้เอง คณะกรรมการได้ตัดสินใจโยกย้ายแผนกงานต่างๆ มาอยู่อาคารสำนักงานที่เพิ่งสร้างเสร็จของตนเองบนเนื้อที่เช่า "เราก็ใช้เงินธนาคารไทยพาณิชย์มาสร้างค่าก่อสร้างประมาณ 8 ล้านบาท" ผู้บริหารคนหนึ่งบอก

หากใครผ่านซอยศึกษาวิทยา บริเวณป่าช้าซึ่งเป็นบริเวณสิ่งแวดล้อมไม่ค่อยจะดีนักจะพบอาคารสถาปัตยกรรมแปลก ๆ นั่นคือสำนักงานใหญ่ของแปลนกรุ๊ปทุกวันนี้ พวกเขาตั้งใจจะทำซัพพลีเมนท์โฆษณาตนเองในหนังสือพิมพ์เหมือน ๆ ธุรกิจอื่น ๆ เช่นกัน

พวกเขาเป็นแบบฉบับของคนหนุ่มสมถะมาก ๆ ทุกคนแทบจะไม่มีใคร "แยกวง" ตั้งธุรกิจต่างหาก ยกเว้นธีรพลซึ่งเป็นที่ปรึกษาบริษัททำ REAL ESTATE แห่งหนึ่งและมีหุ้นในกิจการปั๊มน้ำมันในสหรัฐฯ ส่วนอื่น ๆ ยังรวมกันอยู่ใน "กงสี" นี้โดยทั้ง 7 คนมีเงินเดือนเท่ากันประมาณ 2 หมื่นบาท พวกเขาเป็นศิลปินชอบเดินทางชอบท่องเที่ยวและเล่นกีฬา

ปัญหาธุรกิจของพวกเขาที่สำคัญคือการตลาด อาทิหนังสือรักลูกเคยขาดทุนมาก ๆ ถึง 2 ล้านบาท ต้องพยายามพยุงฐานะจนดีขึ้นในปัจจุบัน ร้านอาหารก็เคยประสบปัญหาขาดทุนเรียบร้อย 2 ล้านต้องเลิกไป

และอุตสาหกรรมของเล่นเด็กซึ่งประสบปัญหาในช่วงแรก ๆ

"เราลงทุนช่วงต้น ๆ 4-5 ล้านบาท มันเป็นของใหม่ และไม่เคยทำเรื่องการตลาดมาก่อนเลย กว่าจะทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นก็ใช้เวลาถึง 3 ปี สายป่านเกือบหมด" ธีรพลยอมรับ

การแก้ปัญหาต้องระดมความคิดกัน!

คนที่ทำเรื่องการตลาดมากที่สุดเห็นจะได้แก่วิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ กรรมการผู้จัดการแปลนทอย

"เรื่องออเดอร์ที่เราผลิตไม่ทัน เราก็ต้องบอกเขาตรง ๆ หรือเราบอกเขาตรง ๆ ว่าตอนนี้ผมจะให้คุณครบ แต่เราไม่มั่นใจว่าจะควบคุมคุณภาพได้หรือไม่ ทำให้เขามั่นใจเรามากขึ้น เราไม่ทำธุรกิจแบบตีหัวเข้าบ้าน เขารู้ว่าเรารับผิดชอบ...เราภูมิใจมากที่สุดที่ขายให้ญี่ปุ่นได้ เพราะญี่ปุ่นขายยากที่สุด" วิฑูรย์ เคยกล่าวถึงยุทธวิธีการตลาดของเขาบางส่วนในนิตยสารรายเดือนฉบับหนึ่ง

ธีรพลกล่าวว่าปัจจุบันแปลนกรุ๊ปมีกิจการแตกออกไปหลายประเภท แนวคิดต่อไปของพวกเขาก็คือสร้างคุณภาพของกิจการ มากกว่าจะขยายกิจการใหม่ ๆ เขาเชื่อว่าถึงแม้กิจการสถาปนิกจะต้องเผชิญปัญหาการแข่งขันมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต่างประเทศพาเหรดเข้ามา แต่กิจการที่ขยายไปมากวันนี้ลดความเสี่ยงได้มาก

"เราขยายกิจการไปแล้วสร้างคนทำงานไม่ทันเมื่อธุรกิจใหญ่การประสานงานต้องทำมากขึ้น เราพยายามให้ผู้ร่วมงานมีส่วนได้ส่วนเสียกับบริษัทเรามากขึ้น จนถึงวันนี้มีผู้ถือหุ้นเดิมขายให้เพื่อนร่วมงานไปมากแล้ว" ธีรพล นิยมกล่าวตอนท้าย

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us