|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
 |
ด้วยจังหวะที่แบรนด์ “แบล็คแคนยอน” เปิดให้บริการในเมืองไทยมาเกือบ 20 ปี ประกอบกับสัดส่วนกลุ่มลูกค้าของแบล็คแคนยอนจะเป็นกลุ่มคนทำงานและผู้ใหญ่เสียเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่คนรุ่นใหม่กลับมีน้อยมาก แต่นับเป็นกลุ่มที่มีพลังและกำลังเติบโตในอนาคต ทำให้ “แบล็คแคนยอน” ตัดสินใจปรับทิศทางการทำตลาดใหม่ ด้วยการปรับภาพลักษณ์ใหม่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ทั้งโลโก้ บรรยากาศและเมนูอาหารใหม่กว่า 30 รายการ หวังเอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่ยิ่งขึ้น
ท่ามกลางกระแสการเติบโตของธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม แบล็คแคนยอน ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มรายใหญ่ของตลาดต้องเผชิญกับความท้าทาย เพราะไม่เพียงแต่การโหมทำตลาดของแบรนด์ร้านอาหารและเครื่องดื่มรายเก่าและรายใม่ที่ต่างถาโถมเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ยังมีศึกใหญ่ที่รออยู่ นั่นคือ การเติบโตของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เกือบทุกแบรนด์ต่างหันหัวเข้ามาร่วมเอี่ยว เนื่องเพราะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีพลังอย่างมากในอนาคต
“คนรุ่นใหม่เป็นกลุ่มที่จะต้องเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ทำให้เราไม่อาจมองข้าม และต้องเร่งสร้างความประทับใจกับลูกค้ากลุ่มนี้ตั้งแต่วันนี้ เพราะหากวันหนึ่งเขาเติบโต ก็จะกลายมาเป็นลูกค้าของเรา”
เป็นคำกล่าวของ กรรณิการ์ ชินประสิทธิ์ชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารตราสินค้า บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ถึงอิทธิพลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบล็คแคนยอนต้องรุกขยายฐานเข้าไปยังลูกค้าเป้าหมายกลุ่มนี้ให้ได้เช่นกัน
ปัจจุบัน แบล็คแคนยอน มีสัดส่วนลูกค้ารุ่นใหม่ในกลุ่มคนอายุ 21-22 ปีน้อยมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มลูกค้าวัยทำงานและผู้ใหญ่ในกลุ่มอายุ 26-50 ปี แม้ว่าในแง่ค่าใช้จ่ายในการรับประทานต่อหัวต่อครั้งจะเท่ากัน คือ เฉลี่ย 240 บาท แต่แบล็คแคนยอนก็ไม่อาจจะละเลยคนรุ่นใหม่เหล่านี้ที่กำลังจะกลายเป็นลูกค้าเป้าหมายอนาคตไปได้
เมื่อผู้บริโภครุ่นใหม่ คือเป้าหมายสำคัญ ทำให้ทิศทางการทำตลาดของ แบล็คแคนยอนนับจากนี้ จึงต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ใหม่เพื่อเอาใจผู้บริโภครุ่นใหม่มากขึ้น โดยเริ่มมีการปรับภาพลักษณ์ร้านแบล็คแคนยอนใหม่ ซึ่งถือเป็นการปรับครั้งแรกในรอบ 10 ปี ทั้งโลโก้ให้มีความทันสมัยมากขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “ประสบการณ์แห่งความอร่อย” ควบคู่ไปกับการปรับแพกเกจจิ้ง และการตกแต่งบรรยากาศภายในร้าน ให้เน้นสีสันสดใส ในสไตล์อีตาลี
แบล็คแคนยอน เริ่มทยอยปรับโฉมสาขารูปแบบใหม่ใน 5 สาขา และคาดว่าภายในสิ้นปีจะทยอยปรับสาขาเดิมให้เป็นรูปแบบใหม่อีกประมาณ 10 แห่ง จากปัจจุบันมีร้านแบล็คแคนยอนทั้งหมด 204 แห่ง
นอกจากนี้ แบล็คแคนยอน ยังเพิ่มเมนูใหม่รวม 53 รายการ แบ่งเป็น เครื่องดื่มใหม่ 17 รายการ และเมนูอาหาร 36 รายการ เน้นความหลากหลาย และอาหารเพื่อสุขภาพตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่
รวมถึงเริ่มมีการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้น ด้วยการเปิดเฟซบุ๊กเป็นช่องทางในการสื่อสารถึงกลุ่มลูกค้า ทั้งการจัดกิจกรรมและเล่นเกมชิงรางวัล โดยทดลองเปิดมาประมาณ 1 ปี ปัจจุบันมียอดสมาชิก 12,000 ราย โดยเป็นลูกค้าในกลุ่มคนอายุ 21-35 ปี หรือแม้แต่การเข้าไปออกบูทแบล็คแคนยอนตามงานคอนเสิร์ตต่างๆ ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของแบล็คแคนยอนที่จะเข้าไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ได้ตามเป้าหมาย
เรียกได้ว่า แบล็คแคนยอน กำลังเดินเครื่องอย่างเต็มสูบเพื่อสร้างประสบการณ์แบรนด์กับคนรุ่นใหม่ เพราะแน่นอนว่าการมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาเสริมทัพ ย่อมส่งผลดีกับธุรกิจในระยะยาวของแบล็คแคนยอนได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แม้แบล็คแคนยอนจะให้ความสำคัญกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งฐานลูกค้าเก่า โดยในครึ่งปีหลังของปีนี้ แบล็คแคนยอนมีการนำกลยุทธ์ซีอาร์เอ็ม ผ่านรูปแบบการสะสมแต้มมาใช้มัดใจคอกาแฟเดิมให้อยู่หมัด พร้อมมีแผนปรับปรุงโปรแกรมบัตรสมาชิกที่ปัจจุบันมีฐานสมาชิก 1 แสนรายให้โดนใจลูกค้ามากขึ้น โดยแบล็คแคนยอนมั่นใจว่าหลังปรับภาพลักษณ์ร้านใหม่ พร้อมปรับกลยุทธ์ใหม่ในครึ่งปีหลัง จะทำให้แบล็คแคนยอนเข้าถึงลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ได้มากขึ้น และมียอดขายทั้งปีเติบโต 15%
|
|
 |
|
|