Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ พฤศจิกายน 2529








 
นิตยสารผู้จัดการ พฤศจิกายน 2529
จิระ จิริยะสิน คอมพิวเตอร์แมน (แบบไต้หวัน) แนวหน้าของไทย             
 

   
related stories

เถ้าแก่ยุคใหม่พลังอันน้อยนิดแต่วิญญาณธุรกิจยิ่งใหญ่

   
search resources

Computer
จิระ จิริยะสิน




ถ้าเอ่ยชื่อถาวรคอมพิวเตอร์ คนที่อยู่ใน FIFLD คอมพิวเตอร์คงรู้จักกันดี แต่ถ้าเอ่ยชื่อ จิระ จิริยะสิน คงมีไม่กี่คนที่รู้ว่าเขาเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท ถาวรคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่าย PERSONAL COMPUTER ชื่อคนไทยเป็นบริษัทแรก

ขณะนี้จิระอายุ 26 เป็นกรรมการผู้จัดการมาแล้ว 4 ปีกว่า และในปีนี้เขาตั้งใจว่า จะทำยอดขายให้ได้ประมาณ 40 ล้านบาท ขณะที่ปีแรกของการดำเนินกิจการบริษัทถาวรคอมพิวเตอร์ มียอดขายเพียง 2 ล้านกว่าเท่านั้น

ปี 2524 ไมโครคอมพิวเตอร์เริ่มบูมโดยเฉพาะที่ไต้หวันมีการรับเอาเทคโนโลยีจากอเมริกาและแหล่งผลิตอื่น ๆ เข้าประเทศในทุกรูปแบบ ไต้หวันในช่วงนั้นเป็นแหล่งผลิตไมโครคอมพิวเตอร์และส่งออกในราคาถูกมาก ๆ ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่จิระดำเนินธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาวดำในเมืองไทย เมื่อได้เดินทางไปติดต่อซื้ออะไหล่หรือส่วนประกอบโทรทัศน์ที่ไต้หวัน จิระจึงเห็นตลาดคอมพิวเตอร์ที่นั่น เขาเล่าว่าเขาไปติดต่อซื้ออะไหล่ที่บริษัทต้าถุงในไต้หวัน และได้เห็นเด็กนักเรียนเล่นคอมพิวเตอร์ที่บริษัทตั้งโชว์ไว้อย่างสนุกสนาน เขาคิดว่าเมืองไทยน่าจะเป็นอย่างนี้บ้าง...นับตั้งแต่วันนั้นมาจิระก็ศึกษาและสะสมความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เรื่อยมา

ปลายปีเดียวกันนั้น ธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาวดำของจิระซึ่งร่วมหุ้นกับบริษัทพระโขนง ทีวี ประสบปัญหา

"ตอนนั้นทีวี เริ่มแย่ เพราะรัฐบาลชุดนั้นขึ้นภาษีนำเข้าในรูป KCD จากเดิมประมาณ 10% เป็น 55% และเศรษฐกิจช่วงนั้นก็ซบเซา เคยขายได้เดือนละพันกว่าเครื่องลดลงเหลือไม่กี่ร้อย กำไรแทบไม่มีเราเห็นว่าถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปไม่รอดแน่เลยเลิก ทางโน้นเขามี PROJECT ทำทีวีสีต่อ ก็ย้ายโรงงานออกไปนอกเมือง" จิระเล่าถึงจุดจบของบริษัท ถาวร อีเลคทริค จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ

ความผันแปรในชีวิตการทำธุรกิจในครั้งนั้น เป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญที่สำคัญที่สุดของจิระ เมื่อเลิกประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ แล้ว ด้วยความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่สะสมไว้จากการเดินทางไปไต้หวันบ่อยๆ ได้ดูโรงงานประกอบคอมพิวเตอร์ตามที่ต่างๆ ความคิดเรื่องทำธุรกิจคอมพิวเตอร์จึงผุดขึ้นในสมอง

ช่วงนั้นตลาดคอมพิวเตอร์ในประเทศไทยยังไม่มีการแข่งขันกันมากนัก บริษัทจำหน่าย PERSONAL COMPUTER ในตลาดมีไม่กี่ราย และราคาแพง จากประสบการณ์ธุรกิจจิระรู้ดีว่าผู้ริเริ่มเป็นรายแรกๆ มักประสบความสำเร็จเสมอ เพราะก่อนที่จิระจะทำธุรกิจประกอบโทรทัศน์ขาว-ดำ จิระเคยร่วมหุ้นกับเพื่อน ๆ เปิดร้านให้เช่าม้วนเทปวิดีโอ เป็นร้านที่สองของเมืองไทยเมื่อตลาดวิดีโอบูม จิระกับเพื่อนก็รับไปไม่รู้เท่าไรมาแล้ว

ผลพวงจากการติดต่อกับบริษัทอะไหล่โทรทัศน์ในไต้หวัน ทำให้การติดต่อซื้อส่วนประกอบและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ทำได้ไม่ยาก และช่วงนั้นในเมืองไทย SEGMENT คอมพิวเตอร์ราคาถูกยังไม่มีคู่แข่ง จิระวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ยี่ห้อถาวรในราคาถูกทันที...จิระและถาวรคอมพิวเตอร์จึงเกิดได้เต็มตัว

เดือนกรกฎาคม ปี 2525 บริษัทถาวรคอมพิวเตอร์ จำกัด เกิดขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท ซึ่งเป็นทุนของครอบครัว "จิริยะสิน" มีจิระเป็นกรรมการผู้จัดการ มีอำนาจการตัดสินใจบริหารได้เต็มที่เมื่ออายุ 22 เศษ ๆ

"เราสั่งของเข้ามา LOT แรก ๆ รู้สึกกว่าต้นทุนมันสูง ผมก็เลยหาทางมาประกอบในนี้หรือผลิตในนี้บางส่วน พยายามนำชิ้นส่วนเข้ามาซื้อเทคโนโลยี ซื้อ LICENCE บางส่วนให้เขาส่งช่างมาบ้างเราส่งช่างไปบ้าง มาช่วงหลังราคาถูกลงมาก คนซื้อไปใช้เยอะคุณภาพก็เป็นที่ยอมรับ...เราใช้ยี่ห้อถาวรตั้งแต่แรกเลย" เขาเล่าถึงการปรับตัวธุรกิจของเขา

"คอมพิวเตอร์ที่เราขายจะเป็น 2 ลักษณะคือ เครื่องที่เป็นยี่ห้อถาวรที่ขายออกไป กับอีกส่วนหนึ่งที่เป็นลักษณะขายส่ง ซึ่งขายเป็นลักษณะ NO BRAND ไปให้ลูกค้าติดยี่ห้อเอง" จิระ กล่าวถึงคอมพิวเตอร์ของเขา

จิระช่วงแรก ๆ ใช้ทุนจากครอบครัวพอมาระยะหลังกิจการขยายตัวมากขึ้นจึงติดต่อกับธนาคาร จิระโชคดีที่ได้บัญชีของลุงซึ่งเป็นลูกค้าที่ดีของธนาคารมาหลายปีเมื่อลุงของจิระเลิกทำกิจการแผ่นเสียงจึงโอนบัญชีให้เขา จิระจึงได้เครดิตในเรื่องโอ/ดี และเงินกู้ต่าง ๆ ...เพียงแต่

"บางช่วงที่ติดขัดจริง ๆ ก็ไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่บ้าง ไปหยิบยืมมาแล้วก็คืนให้" จิระบอกกับ "ผู้จัดการ" ตรงๆ

ตลอดเวลา 4 ปีกว่าที่ดำเนินกิจการมาจิระรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีพื้นฐานทางด้านคอมพิวเตอร์โดยตรง และอายุยังน้อยอีกด้วยการไม่ได้รับการยอมรับจากคนในวงการคอมพิวเตอร์ภายนอกบริษัทเป็นเรื่องน่าลำบากใจมาก แต่จิระก็รู้ดีว่าการไม่ได้รับการยอมรับจากพนักงานในบริษัทเป็นเรื่องน่าลำบากใจมากกว่า

จิระต้องใช้เวลาศึกษาคอมพิวเตอร์มาก เมื่อมีเวลาว่างทุก ๆ เย็นหลังบริษัทปิดแล้วเขาจะอยู่ที่บริษัทจนค่ำมืดคลุกคลีอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ ยิ่งเมื่อเครื่องรุ่นใหม่เข้ามาเขาจะต้องได้จับก่อนใครในบริษัทและศึกษาจนเข้าใจก่อน

นอกจากนี้จิระยังตระหนักดีว่าเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นั้นก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ๆ เขาต้องคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลา จิระต้องอ่านหนังสือมากโดยเฉพาะนิตยสารต่างประเทศที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เขาอ่าน 10 กว่าฉบับ

"จะอ่านนิตยสารจากไต้หวัน ญี่ปุ่น อเมริกา ฮ่องกง จะได้ประโยชน์จากการดูโฆษณาด้วย ส่วนเรื่องไหนที่สนใจมาก ๆ แต่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็จะให้พนักงานที่รับผิดชอบเรื่องนั้น ๆ โดยตรงไปอ่านแล้วมาคุยกัน แล้วผมก็พยายามไปชมนิทรรศการในต่างประเทศ อย่างเช่น เวลาไปไต้หวันผมจะใช้เวลาตระเวนไปตามโรงงานต่าง ๆ ให้มากที่สุด แห่งละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี เพราะเขามีอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา" จิระเล่า

ถึงแม้จิระจะไม่มีความรู้พื้นฐานทางด้าน MARKETTING แต่ประสบการณ์ธุรกิจที่ผ่านมาทำให้จิระใช้กลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างครบเครื่อง ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้คอมพิวเตอร์ถาวรเกิดและกำลังโตไม่หยุด

คอมพิวเตอร์ถาวร เข้าตลาดได้เพราะขายสินค้าในราคาถูก ถ้าเทียบกับยี่ห้อดัง ๆ ราคาถูกกว่า 2-3 เท่าเลยทีเดียว เมื่อแรกเข้าตลาดเน้นที่การขายปลีกแต่มาช่วงหลัง ๆ เริ่มจับหน่วยราชการ โดยใช้กลยุทธ์ช่วยจัดสัมมนาให้แล้วนำเครื่องไปให้ทดลองใช้ทางด้านตลาดเอกชนก็จะมีเซลส์เข้าไปคุยกับเจ้าของกิจการต่าง ๆ ถึงปัญหาของเขาและกลับมา PLAN งานแก้ไขปัญหาให้โดยใช้คอมพิวเตอร์เข้าช่วย พร้อมบริการหลังการขายเพียบ

จิระเข้าใจประโยชน์ของการโฆษณามาก เขาใช้โฆษณาเข้าช่วยตั้งแต่ปี 2527 ด้วยงบปีละเกือบล้านบาทมาตลอด ทำให้ชื่อคอมพิวเตอร์ถาวรติดปากติดตาผู้พบเห็นด้วยการโฆษณาเน้นความเป็นไทย ให้ความเชื่อมั่นในความแปลกใหม่และการพัฒนาเทคโนโลยีโดยคนไทย ถ้าใครเคยเห็นโฆษณาของคอมพิวเตอร์ถาวรและติดตามบ้างจะรู้ว่าแคมเปญของเขาทำได้ไม่แพ้ AGENCY มืออาชีพเลย

จิระเข้าใจถึง CONCEPT การเปิดตัวดีทำให้เขาไม่เคยพลาดการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และการเข้าใจในเรื่องนี้ทำให้ถาวรคอมพิวเตอร์เปิดตลาดต่างประเทศได้สำเร็จ

"ตอนนี้เพิ่งเริ่มส่งออกไปแถบสวีเดนนอรเว เขามาหาเราเองจากงานแสดงคอมพิวเตอร์ไทยงานหนึ่ง กับงานอุตสาหกรรมส่งออกของกระทรวงพาณิชย์อีกงานหนึ่งและช่วงนี้อยู่ในระหว่าง CONTRACT กับอีก 2-3 บริษัท" จิระบอกถึงตลาดต่างประเทศ

ช่องทางการจำหน่ายจิระก็พยายามกระจายออกไปในส่วนภูมิภาคในจุดที่คิดว่าตลาดจะโตขึ้นได้ นอกจากในกรุงเทพฯแล้ว เขายังมีเอเย่นต์ทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ทางภาคใต้ก็เคยมีที่หาดใหญ่แต่ถูกของหนีภาษีตีแตกกระจุยเลยต้องถอยทัพกลับ

จิระฝันจะให้คอมพิวเตอร์เป็น MASS PRODUCTION ที่จะช่วยพัฒนาประเทศได้ดังนั้นสำหรับตลาดที่เป็นสถานศึกษาจิระจะช่วยเต็มที่ โดยขายให้ในราคาต่ำมาก ๆ เพื่อให้นักเรียนนักศึกษาได้มีโอกาสใช้กันแพร่หลาย ตลาดในช่วงนี้จิระเน้นสถานศึกษาประมาณ 30% ขายปลีก 30% ที่เหลือเป็นขายส่ง

เมื่อแรกเริ่มกิจการที่ใช้ชื่อคอมพิวเตอร์ถาวร จิระยอมรับเองว่ามีปัญหาเรื่องค่านิยมความไม่น่าเชื่อถือในคุณภาพ เพราะไม่ใช่ของนอก แต่จิระก็สู้พยายามสร้างภาพพจน์ที่ดีให้สินค้าทางโฆษณาและใช้กลยุทธ์ด้านราคาเข้าช่วยทำให้มีการทดลองใช้มากขึ้น จนขณะนี้ปัญหาเรื่องเป็นคอมพิวเตอร์ไทยคุณภาพสู้ของนอกไม่ได้เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ปัญหาเรื่องคนระดับรองลงมาที่จะแทนจิระได้ก็กำลังเป็นปัญหาของถาวรคอมพิวเตอร์

ระบบการตัดสินใจของถาวรคอมพิวเตอร์ขณะนี้ จิระตัดสินใจเพียงคนเดียว ไม่มีคณะกรรมการควบคุมการทำงานหรือที่ปรึกษาเป็นคณะถาวร และไม่มีการจัดระบบที่ชัดเจนมากนัก การวางแผนก็เป็นเพียงระยะสั้น ๆ ในอนาคตจิระคงจะต้องเอาใจใส่ในเรื่องนี้มากขึ้นถ้าเขาจะขยายอาณาจักรถาวรคอมพิวเตอร์ออกไปให้เป็น MASS PRODUCTION ดังที่เขาใฝ่ฝันไว้

ด้วยวัยเพียง 26 จิระเลิกคิดที่จะเรียนต่อที่คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์ให้จบเพราะ DROP มาหลายเทอมแล้ว ขณะนี้ได้แต่มุ่งทำงานหนักวันละกว่า 10 ชั่วโมงหลายวันในหนึ่งเดือนจิระจะนอนที่บริษัท จิระจะตื่นเช้ามาทำงาน 8 โมงเช้าเป็นประจำด้วยเงินเดือนเลข 5 ตัวระดับต้นกับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการจิระรับเงินเดือนน้อยกว่าพนักงานบริษัทบางคนด้วยซ้ำไป เขาใช้ชีวิตง่าย ๆ กลางวันกินข้างแกงข้างบริษัท กลางคืนถ้าไม่มีงานเลี้ยงลูกค้าก็จะอยู่ทำงานจนดึกแทบจะไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว

แต่คนในถาวรคอมพิวเตอร์รู้ดีว่ากรรมการผู้จัดการของเขาไม่ค่อยว่างนักโดยเฉพาะในหนึ่งเดือนจิระจะไม่ได้นอนสองวันสองคืนติดกัน เพราะจะไปเดินง่วนอยู่ที่โรงงาน

"เป็นวันที่เราออกของ เราจะออก LOT ใหญ่ ๆ เดือนละครั้งแล้วต้องผลิตทันทีในช่วงผลิตเป็นงานเร่งผมจะไปดูเอง โรงงานก็มีคนคุมอยู่แล้วแต่ผมก็ชอบไปดู อย่างน้อยถ้าเราไปอยู่กำลังใจของเขาก็ดี เขาทำงานไปเราก็เดินไปเดินมา 2 คืน" จิระบอกผู้จัดการพร้อมกับหัวเราะหึหึ

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us