|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
หลังจากค่ายเพลงอาร์สยามประสบความสำเร็จจากทำตลาดแบบ 360 องศาจนสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทตามเป้าที่วางไว้ 640 ล้านบาทอย่างแน่นอน เห็นจากครึ่งปีแรกยอดรายได้สูงเกิดกว่าเป้า 11% แล้วปีนี้จึงเกิดแนวคิดที่จะขยายช่องทางใหม่อีกช่อง คือ เปิดช่องสำหรับกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไป เพื่อระบายคอนเทนต์ที่มีอยู่มากจนไม่สามารถลงช่อง “สบายดี ทีวี” ได้
ศุภชัย นิลวรรณ รองกรรมการผู้อำนายการ สายงานเพลงลูกทุ่ง/ธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และกรรมการผู้จัดการค่ายเพลงอาร์สยาม ได้เปิดเผยถึงความสำเร็จของการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ One Stop Service Music Marketing ด้วยการมองหาพันธมิตรที่มีลูกค้าเป็นกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน เพื่อทำการตลาดร่วมกันแบบ 360 องศา ในขณะที่ค่ายอื่นทำธุรกิจเพลงอย่างเดียว แต่อาร์สยามเน้นการทำตลาดทุกรูปแบบ เนื่องจากธุรกิจขายเพลงไม่มีการเติบโต แต่ธุรกิจรอบข้างเพลงเติบโต
โดยอาศัยจุดแข็งด้านสื่อและศิลปินที่มีอยู่ เพื่อสร้างความพอใจให้กับลูกค้าในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า การจัดกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ และการจัดคอนเสิร์ต หรือการผูกบุคลิกของศิลปินเข้าไปกับตัวสินค้า หรือการ Tie-in สินค้าเข้าในมิวสิควีดีโอ นับเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยบริหารความเสี่ยงและลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีการออกสินค้า MP 3 ในราคา 99 บาทเพื่อแข่งขันกับตลาดผีด้วย
“ก่อนที่เราจะออกสินค้า MP 3 เราก็กลัวว่าจะไปตีกับลูกค้าที่ซื้อซีดี แต่เอาเขาจริงๆ เป็นคนละกลุ่มกันทำให้ไม่มีปัญหา การที่บริษัทใช้กลยุทธ์แบบOne Stop Service Music Marketing ส่งผลให้ปีนี้อาร์สยามมีส่วนแบ่งตลาดเพลงลูกทุ่งอยู่ 40-45% จากภาพรวมของตลาดเพลงลูกทุ่งในปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,500 ล้านบาท”
นอกจากนี้ ยังเป็นผลมาจากการตั้งช่อง “สบายดี ทีวี” ซึ่งคอนเซ็ปท์ช่องคือเพลงไทยหลากสไตล์ ดูสบายทั้งครอบครัวทำให้ธุรกิจเพลงของอาร์สยามได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ชมทั่วทั้งประเทศไทยและลาวเห็นได้จากการสำรวจของนีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระหว่างมิถุนายน - กรกฎาคม ที่ผ่านมา ยกให้ช่อง “สบายดี ทีวี” ในเครืออาร์เอส เข้าวินมาเป็นอันดับ 1 ครองใจผู้ชมในทุกกลุ่มอายุมาอย่างต่อเนื่อง
“ก่อนหน้านี้เราไม่เคยมองตลาดลาวเลย แต่ตอนนี้เราเริ่มหันมามองแล้ว เราคงไม่เข้าไปทำตลาดซีดีเพราะเขามีการละเมิดลิขสิทธิ์กันมาก เราคงทำตลาดดิจิตอลแทน พวกดาวน์โหลดลงมือถือ กำลังจะไปคุยกับโอปอเรเตอร์ที่นั้น”
อย่างไรก็ดี คาดว่าสิ้นปี 2554 นี้จะสามารถนำช่อง “สบายดี ทีวี” ให้ทำรายได้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน โดยถึงสิ้นปีนี้วางรายได้ไว้ที่ 640 ล้านบาท เพราะจากตัวเลขครึ่งปีแรกสามารถทำรายได้ 325 ล้านบาท หรือมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 11% โดยปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ 500 กว่าล้านบาท
“ครึ่งปีหลักอาร์สยาม และสบายดี ทีวี ยังมีคอนเสิร์ตใหญ่ และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย เช่น คอนเสิร์ตลูกทุ่งเฟสติวัล สบายดีสัญจร โรดโชว์ไปตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนให้อาร์สยามทำรายได้เข้าเป้าปลายปีอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้ หากรายได้เป็นตามเป้าที่วางไว้ จะทำให้บริษัทคุ้มทุน โดยแต่ละปี “สบายดี ทีวี” ใช้เงินลงทุน 50-60 ล้านบาท ซึ่งจากนี้ไปมีแนวโน้มว่าจะเปิดช่องใหม่ที่จะเอาคอนเทนต์สำหรับคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไปมาเผยแพร่ เนื่องจากมีคอนเทนต์อยู่มากทำให้ลงในช่อง “สบายดี ทีวี” ได้เพียงพอ และกลุ่มอายุ 40 ปีขึ้นไปก็เป็นกลุ่มที่น่าสนใจ
|
|
|
|
|