|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
โตชิบาวางไทยเป็นฮับเครื่องซักผ้ารองรับ AEC และเอเชีย พร้อมลุยตลาดในประเทศเต็มสูบ หลังพบสัญญาณที่ดี 4เดือนโตเกิน27% เชื่อถึงเดือนมี.ค. รายได้รวมพุ่ง 9,400 ล้านบาท เติบโตกว่า 27% สูงสุดในรอบ20ปี
นายยูกิฮาระ อาดาชิ ประธาน บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทแม่มีนโยบายให้ฐานการผลิตสินค้าในกลุ่มเอชเอโดยเฉพาะตู้เย็นและเครื่องซักผ้าเป็นศูนย์กลางการส่งออกรองรับ AEC เนื่องจากไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว โดยเฉพาะโรงงาน ที่มีมากสุดในย่านนี้มากวา 10 แห่ง เช่น โรงงานโตชิบาคอนซูเมอร์โปรดักส์ และโรงงานไทยโตชิบาอิเล็คทริคอินดัสทรีซึ่งตามหลักแล้วทางบริษัทแม่พร้อมสนับสนุนในการรุกตลาดอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มเครื่องซักผ้านั้น พบว่าในประเทศไทย เราเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับแบรนด์ญี่ปุ่นด้วยกัน ส่วนในตลาดรวมเครื่องซักผ้า 1.5 ล้านเครื่องในปีนี้ปัจจุบันเรามีส่วนแบ่งที่ 8% ภายในสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะขยับแชร์ขึ้นเป็น 11% ได้ โดยล่าสุดได้เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์ใหม่ในรุ่น Super Direct Drive Inverter (S-DD Inverter) ขนาด 11,13 และ15 กิโลกรัมคาดว่าจะส่งให้มียอดขายเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 50% ได้ในสิ้นปี
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวต่อว่า ปีนี้เรามีความพร้อมทั้งในแง่ของสินค้าที่ครบไลน์ รวมถึงการขยายช่องทางขายไปสู่ช่องทางใหม่ๆ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้าให้กว้างมากขึ้น ภายใต้งบการตลาดรวมกว่า 500 ล้านบาทใช้มากขึ้น 25% บวกกับสถานการณ์ทางการเมืองและเศรฐกิจที่ดีส่งผลให้ยอดขายตั้งแต่เม.ยถึงปัจจุบันมีอัตราเติบโตไม่ต่ำกว่า 27%
ดังนั้นตามปีงบประมาณ 2554 (เม.ย54- มี.ค55) จากเดิมที่จะวางเป้าเติบโตที่ 15% เช่นปีก่อนๆ บริษัทได้ปรับเป้าเติบโตใหม่ไว้ที่ 27% สูงสุดในรอบ 20 ปี หรือคาดว่าถึงเดือนมี.คปีหน้า จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 9,400 ล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้ที่ 7,400 ล้านบาท เติบโต 15% โดยปีนี้กลุ่มสินค้าทั้งไอทีและเอวีมีการเติบโตมากสุดและเมื่อเทียบเป็นชนิดสินค้า พบว่า โน็ตบุค แอลซีดีทีวี ตู้เย็น และเครื่องซักผ้า สร้างรายได้ให้โตชิบามากสุดตามลำดับ
อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพที่ดี ไม่เปลี่ยนตำแหน่งบ่อยๆ ได้คนดีจริงมาร่วมบริหารประเทศ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่จะมาดูแลกระทรวงอุตสาหกรรม และพาณิชย์ ที่ได้คนมีความรู้ความสามารถ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อภาคธุรกิจและประเทศต่อไป ซึ่งในส่วนของนโยบายค่าแรง 300 ต่อวันนั้น มองว่าในระดับองค์กรใหญ่ไม่กระทบ แต่ส่วนย่อยอย่าง เอสเอ็มอี ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งของเราจะเดือดร้อน และต่อไปเราก็อยู่ไม่ได้ตามเช่นกัน ดังนั้นจึงมองว่าการปรับค่าแรงขึ้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ควรเป็นสเต็ปเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้
|
|
|
|
|