|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
กรมการท่องเที่ยว เตรียมยกพลบุกปารีสหารือธุรกิจสปาโลก ดันตั้งมาตรฐานเทียบสากล โตต่อเนื่องด้วยมูลค่าธุรกิจกว่า 1.5 หมื่นล้านบาทต่อปี
นายสุพล ศรีพันธุ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในเดือนกันยายนศกนี้ เตรียมนำคณะเดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อหารือกับภาคธุรกิจสปาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ในการหาข้อสรุปมาตรฐานสปาที่เป็นรูปแบบเดียวกัน เพราะขณะนี้มุมมองของไทย สปาเป็นบริการเพิ่มผ่อนคลาย ขณะที่ยุโรปมองสปาเป็นศาสตร์เพื่อการบำบัด
ในส่วนของแผนงาน กรมฯจะเร่งผลักดันข้อกำหนดมาตรฐานความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ท่านวด ,ชนิดสมุนไพร และ ที่สำคัญ การนำธุรกิจสปา เข้าจดทะเบียนให้ถูกต้องตามมาตรฐานจากหน่วยงานราชการ ของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งปัจจุบันยังมีไม่กี่ประเภทที่เริ่มจัดระเบียบธุรกิจนี้
สำหรับการหารือครั้งนี้แต่ละประเทศ จะนำเสนอข้อเรียกร้องและความต้องการของตัวเอง เพื่อนำไปร่างกฎเกณฑ์ สปาที่ชัดเจนเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก จากที่ผ่านมายุโรปมองว่า สปาไทยเป็นระดับแนวหน้าของโลก ขณะที่กลุ่มอาเซียนมองสปาไทยเป็นผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน และได้เสนอให้ไทยเป็นผู้นำในการจัดทำมาตรฐานสปาที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อยกระดับมสปาให้สูงขึ้น มีระบบการบริหารจัดการที่ดี
นางสาวภัททิราพร เขียวสนั่น อุปนายกสมาคมสาปาไทย กล่าวว่า ธุรกิจสปาไทยเติบโตต่อเนื่อง ลูกค้าหลักมาจากกลุ่มประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยว โดยกลุ่มยุโรปมีการใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ในอนาคตมีแผนเจาะตลาดเวียดนาม จีน เพราะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เติบโตสูง เร่งยกระดับมาตรฐานการบริการและบุคคลากร โดยมุ่งการเรียนการสอนหลักสูตรเกี่ยวกับสปาให้เป็นมืออาชีพมากขึ้น โดยมูลค่าธุรกิจสปาไทยปีนี้คาดว่าจะเติบโต กว่า 7% จากปี 2553 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท ทุกปีอัตราการเติบโตของธุรกิจอยู่ที่ 7-10%
|
|
|
|
|