|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
คำว่า “ออแกนิก เกษตรอินทรีย์” เป็นคำที่ได้ยินได้ฟังบ่อยครั้งมากขึ้นในระยะหลัง เพราะสุดท้ายแล้วคนไทยบางส่วนเริ่มมองเห็นว่าการบริโภคอาหารไม่เป็นพิษ ย่อมทำให้สุขภาพจิตและร่างกายแข็งแรง
“ไร่ปลูกรัก” เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการหลายๆ แห่งที่ริเริ่มน้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเมื่อ 11 ปีก่อน
ภายในงาน “MADE IN THAILAND 2011” ณ เมืองทองธานี เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการระดับเอสเอ็มอีได้มีโอกาสส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ
สินค้ามากมาย อาทิ เสื้อผ้า เครื่องหนัง เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่งบ้าน รวมถึงอาหารนานาชนิด ได้นำมาจัดแสดงแลกเปลี่ยนกับนักธุรกิจด้วยกัน รวมทั้งเปิดขายให้กับประชาชนทั่วไป
จากการสังเกต ภายในงานจะเห็นว่าเริ่มมีสินค้าสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เครื่องดื่มธัญพืช เช่น น้ำข้าวโพด น้ำข้าวสาลี หรือแม้แต่น้ำยาชีวภาพป้องกันไรฝุ่นภายในรถยนต์
มีบูธเล็กๆ วางสินค้าเป็นขวดขนาดย่อมสีน้ำตาลจำนวนหนึ่ง มีฉลากติดไว้ข้างขวดว่าเป็น “น้ำส้มสายชูหมัก” ผลิตจากข้าวหอมมะลิอินทรีย์ มีกระบวนการปลูกด้วยระบบเกษตรอินทรีย์ เป็นสินค้าใหม่ที่จะเริ่มออกจำหน่ายในเดือนสิงหาคมนี้
กานต์ ฤทธิ์ขจร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยออแกนิกฟูดส์ จำกัด เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่หันมาทำธุรกิจเกษตรอินทรีย์ให้ผู้จัดการ 360 ํ ฟังว่า เริ่มจากตัวเขาทำงานในเมืองมานาน มองว่าคุณภาพชีวิตไม่ค่อยดี จึงทำให้เขาและครอบครัวตัดสินใจย้ายออกสู่ต่างจังหวัดเพื่อมองหาที่ดินสักแปลงปลูกพืชไร่ปลอดสารพิษไว้กินและขายไปด้วย
เขาได้เลือกซื้อที่ดินจำนวน 60 ไร่ ในจังหวัดราชบุรี เริ่มจากปลูกข้าวหอมมะลิ พืชผักสวนครัว เช่น พริก หอม กระเทียม ทำบ่อเลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ด และเลี้ยงวัว ซึ่งกระบวนการจัดการดูแลไร่จะเป็นระบบเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด พืชผักที่ปลูกในไร่จะไม่ใช้ยาฆ่าแมลง จะใช้พืชบางประเภทฆ่าแมลง เช่น ฆ่าเพลี้ยด้วยสะเดา ส่วนมูลสัตว์จะนำไปทำปุ๋ยให้กับต้นไม้
ผลผลิตที่ได้นอกจากใช้ในการบริโภคภายในครัวเรือนแล้ว ส่วนหนึ่งจะนำส่งขายในห้างสรรพสินค้า แต่หลังจากทำธุรกิจค้าขายช่วงระยะเวลาหนึ่ง พบว่า ผักที่ส่งขายไปตามร้านค้าจะมีอายุอยู่ได้ไม่นาน และเน่าเสียเร็ว จึงทำให้เริ่มคิดค้นผลิตสินค้าแปรรูปเพื่อให้อาหารอยู่ได้นาน และสินค้ามีราคาสูงขึ้น
กานต์เริ่มศึกษาตลาดและความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งแรก เรียนรู้และศึกษาทำการวิจัยและพัฒนาสินค้า โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา
หลังจากนั้นเริ่มออกไปมองหาตลาดในต่างประเทศ โดยไปพร้อมกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อไปแสวงหาโอกาสว่าสินค้าที่ควรนำออกไปจำหน่ายมีอะไรบ้าง
การศึกษาตลาดทำให้พบว่าสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการ เช่น ซอสพริก น้ำพริกเผา น้ำส้ม โดยเฉพาะน้ำส้มสายชูหมัก ตลาดในย่านยุโรป สหรัฐอเมริกา และเอเชีย บางแห่งได้รับความนิยมเพราะสินค้ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ปรุงอาหาร ทำเป็นเครื่องดื่มล้างพิษ ลดการเกิดภูมิแพ้ หรือช่วยลดความดัน อย่างไรก็ดี แม้สรรพคุณของสินค้าจะหลากหลาย แต่ผู้บริโภคควรศึกษาสินค้าที่ใช้บริโภค โดยไม่เชื่อคำบอกเล่าโฆษณาสินค้าจนเกินไป
จากแนวโน้มความต้องการในตลาดต่างประเทศ ทำให้บริษัทตัดสินใจสร้างโรงงานเมื่อปี 2550 ส่งสินค้าออกจำหน่ายในต่างประเทศเป็นหลัก หรือร้อยละ 80 ส่งออกและขายในประเทศเพียงร้อยละ 20
ก่อนที่จะส่งสินค้าไปขายในต่างประเทศ บริษัทต้องนำสินค้าทดสอบมาตรฐานอาหารของต่างประเทศ เช่น ผ่านการรับรองสถาบัน IFOAM accredited เป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา
ผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ที่ได้รับการรับรอง หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่มาจากฟาร์มหรือสถานประกอบการที่มีการจัดการ ดิน น้ำ และระบบการผลิต (พืชและสัตว์) การเก็บเกี่ยว การจัดเก็บ การแปรรูป-บรรจุ และการขนส่งจนถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ใช้สารเคมีสังเคราะห์ต้องห้าม เน้นการป้องกันและรักษาโรคโดยคำนึงถึงระบบนิเวศ รวมถึงการดูแลสวัสดิภาพของลูกจ้าง ในฟาร์ม
เพื่อให้สินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นไปตามมาตรฐานในประเทศไทยจะมีสำนักงานมาตรฐานเกษตรอินทรีย์แห่งประเทศไทย (ACT) หรือ Organic Agriculture Certification Thailand เข้าไปตรวจอย่างเป็นทางการหนึ่งครั้งในระยะเวลา 1 ปี
ในเวลา 1 ปี หน่วยงานสามารถเข้าไปสุ่มตรวจได้อีกหลายครั้ง โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้ากับผู้ประกอบการ นั่นแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการต้องมีความซื่อสัตย์ในการปฏิบัติตามกฎระเบียบให้เป็นไปตามกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์
ตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์กลายเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพร่างกาย แต่ด้วยความสามารถการผลิตของไร่ปลูกรักที่ได้ผลผลิตปีละ 50-60 ตันต่อไป จึงไม่เพียงพอต่อการผลิต บริษัทจึงได้ร่วมมือกับเกษตรกรภาคเหนือและภาคอีสาน ร่วมมือกันในรูปแบบคอนแทคฟาร์มมิ่ง บริษัทรับซื้อผลผลิตเพื่อนำมาแปรรูป
เหตุผลในการทำคอนแทคฟาร์มมิ่ง เพราะบริษัทไม่ต้องการลงทุนขยายธุรกิจเพิ่มมากจนเกินไป เพราะการผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ลงทุนสูง โดยเฉพาะค่าแรงเป็นต้นทุนหลักถึงร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือเป็นต้นทุนการจัดการบริหาร เช่น ด้านวัตถุดิบ และยังมีความเสี่ยงสูงในการทำธุรกิจที่เกิดจากภัยธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ไฟป่า และสภาพอากาศร้อน
ความเสี่ยงเหล่านี้มีทั้งควบคุมได้ และควบคุมไม่ได้ จึงทำให้บริษัทไม่ต้องการรับภาระหนักจนเกินไป ดังนั้น จึงเลือกความร่วมมือกับเกษตรกรด้วยกันเอง
ผลิตภัณฑ์หลัก บริษัทจะผลิตจำหน่ายภายใต้แบรนด์ของตนเอง และรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่น (Original Equipment Manufacturer: OEM) ให้กับคู่ค้าในต่างประเทศ สำหรับแบรนด์ที่จำหน่ายเองชื่อว่า Thai Organic food
แม้ว่าบริษัทจะมีแบรนด์เป็นของตนเองแล้วก็ตาม แต่ยอมรับว่ายังไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย เพราะบริษัทอยู่ในช่วงเริ่มต้นทำธุรกิจ ซึ่งกานต์ยอมรับว่าธุรกิจของเขาเปรียบเหมือนเด็กเกิดใหม่
ด้วยธุรกิจเพิ่งเริ่มก่อตั้งไม่นาน ทำให้ผู้บริหารต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อแนะนำสินค้าจนถึงปัจจุบัน ใน 1 ปีต้องเดินทางนับสิบครั้ง เพราะยังไม่สามารถโหมโฆษณาสินค้าเนื่องจากทุนไม่มาก เพราะปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท
แม้ว่าที่ผ่านมาบริษัทจะเน้นจำหน่ายสินค้าในตลาดต่างประเทศถึงร้อยละ 80 แต่ในช่วงปีนี้ได้เริ่มหันมาผลิตสินค้าเพื่อป้อนตลาดในประเทศไทยและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้า โดยจะนำน้ำส้มสายชูหมัก บรรจุขวดแก้วปริมาณ 310 มิลลิลิตร ราคา 120 บาท จำหน่ายในห้างท็อปซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านเลมอนฟาร์ม ซึ่งทั้งสองร้านค้าจะให้ความสำคัญกับอาหารที่ผลิตจากเกษตรอินทรีย์
ในขณะเดียวกันบริษัทจะเปิดร้านจำหน่ายสินค้าแห่งแรกในจังหวัดราชบุรี บนถนนเพชรเกษม และสินค้าภายในร้านจะนำมาจากฟาร์มทั้งหมด
ด้วยประสบการณ์ในการผลิตและจำหน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์ครบวงจร ทำให้บริษัทรับเป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ที่สนใจ และผู้ประกอบการ เช่น การปรับปรุงคุณภาพดิน การทำปุ๋ยหมัก เทคนิคการเพาะเมล็ดและกล้าพันธุ์ การวางแผนระบบขนส่ง การบริหารจัดการแรงงาน การรับซื้อ ผลผลิตจากเกษตรกรอินทรีย์ เป็นต้น
นอกจากให้คำปรึกษาด้านเกษตรอินทรีย์ บริษัทยังได้เปิดไร่ปลูกรักให้เป็นศูนย์เรียนรู้สำหรับครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ ให้มีโอกาสได้สัมผัสกับพืชผักสวนครัว บริษัทจึงได้จัดโปรแกรม Organic Family Day ทัวร์ไร่ 1 วัน โดยเก็บค่าใช้จ่าย ผู้ใหญ่ 650 บาทต่อคน เด็ก 350 บาท ต่อคน
www.thaiorganicfood.com เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้กับบริษัทอีกส่วนหนึ่ง ธุรกิจที่เริ่มต้นจากทุนไม่สูง แต่กานต์ก็มีความมุ่งมั่นว่าผลผลิตที่ได้จากไร่ของเขาสร้างคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัว ไม่เพียงเท่านั้นยังสร้างรายได้ให้อีกทางด้วย
|
|
|
|
|