Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา สิงหาคม 2554
Mekong Stream             
 


   
search resources

International
Greater Mekong Subregion




จีน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเรียกร้องให้จีนปฏิรูประบบการเงิน เพื่อค้ำยันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยนิเกล ชอล์ก หัวหน้าฝ่ายจีนของไอเอ็มเอฟสรุปว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกในการปฏิรูปคือ การขึ้นค่าเงินหยวนมากกว่านี้ ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟชี้ว่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่ากว่าความเป็นจริงอย่างมาก แม้ว่าปีที่ผ่านมาจีนจะขึ้นค่าเงินหยวน 5.5 % แต่ในความจริงจีนยังคงตรึงค่าเงินให้อ่อนค่า ทั้งในอัตราขยายตัวที่แท้จริงและมูลค่าที่เป็นตัวเงินต่อตะกร้าสกุลเงินหลัก (ดอลลาร์) อยู่ การปล่อยให้ขึ้นค่าเงินหยวนแบบเสรีจะเปิดประตู่สู่การสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ เช่น การพัฒนาการออมและการลงทุน การปรับสู่กลไกเสรี อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด เพิ่มการปันส่วนสินเชื่อ ท้ายที่สุดจะช่วยปลดภาระการคุมเข้มการเงินจีน ซึ่งจะช่วยปกป้องเงินหยวนเมื่อ “หยวน” กลายเป็นสกุลเงินสากลในการค้าระหว่างประเทศ


พม่า
กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวของพม่ารายงานว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าพม่าทั้งหมด 151,084 คน คาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพม่ามากกว่า 295,174 คน จากสถิติของปีที่แล้ว โพวาย ยาซา เลขาธิการคณะกรรมการการตลาดพม่า กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังอยู่ในช่วงที่มีความหวัง และเชื่อว่าตลอดหลายเดือนข้างหน้าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2554-2555 (สิ้นสุด 31 มี.ค.) นักท่องเที่ยวจะยังเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 20-25% และทุกฝ่ายกำลังจัดเตรียมความพร้อมรับมือเรื่องนี้ เขาบอกอีกว่าหากว่าบรรยากาศทางการเมืองยังเอื้ออำนวยเช่นในขณะนี้ น่าเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2554 จะมีระหว่าง 250,000-375,000 คน


ลาว
สถานทูตเวียดนามประจำ สปป.ลาว จัดการสัมมนาโอกาสในการลงทุนในลาวให้กับนักธุรกิจเวียดนามที่กำลังหาโอกาสเข้าลงทุนในลาวมากกว่า 200 คน เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำลาวกล่าวว่า ลาวเป็นประเทศที่สงบสุขและมีศักยภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ และย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเป็นพิเศษระหว่างเวียดนามและลาว ช่วยให้รัฐบาลลาวสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมให้กับนักธุรกิจเวียดนามเข้าลงทุนในประเทศ เขาระบุว่ามีธุรกิจเวียดนามมากมายที่ประสบความสำเร็จในลาว เช่น บริษัทซองดา เวียดเทล ลาว-เวียดแบงก์ ลองแถ่งห์กอล์ฟ และกลุ่มบริษัทฮว่างแอ็งห์ซยา-ลาย ระหว่างการสัมมนานักธุรกิจเวียดนามแสดงความสนใจลงทุนในหลายภาคส่วน เช่น การเปิดสถานศึกษา อุตสาหกรรม ธนาคาร ภาคบริการ ทำไร่ฝ้ายและยาง การค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ


กัมพูชา
กระทรวงการคลังกัมพูชาเปิดเผยว่า สถาบันออกแบบและสำรวจเส้นทางรถไฟของกระทรวงรถไฟจีนได้เสร็จสิ้นการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจาก จ.กำปงสะปือ ไปยัง จ.กระแจ๊ะ ติดชายแดนเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟสิงคโปร์-คุนหมิง สถาบันดังกล่าวเริ่มศึกษาโครงการนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 ภายใต้เงินทุนช่วยเหลือทางเทคนิคที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนเป็นมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ จากผลสรุปการศึกษาทางรถไฟมีความยาวทั้งสิ้น 257 กม. จาก อ.อุดง จ.กำปงสะปือ ไปยัง อ.อังสะนวล จ.กระแจ๊ะ คาดว่าใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 30 เดือน มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 686 ล้านดอลลาร์


เวียดนาม
เหงียน เติ๊น หยุง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย จากการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภาเวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีสภาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุม 496 คน จาก 500 คน โดยเหงียน เติ๊น หยุง ได้รับคะแนนเห็นชอบถึง 470 คะแนน นับเป็นเอกฉันท์ ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน รัฐสภาเวียดนามที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งในสมัยที่ 13 ก็ได้โหวตเลือกให้เตรือง เติ๊น ซาง วัย 62 ปี ขึ้นเป็นประธานประเทศคนใหม่ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 5 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us