|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จีน
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟเรียกร้องให้จีนปฏิรูประบบการเงิน เพื่อค้ำยันการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยนิเกล ชอล์ก หัวหน้าฝ่ายจีนของไอเอ็มเอฟสรุปว่า สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกในการปฏิรูปคือ การขึ้นค่าเงินหยวนมากกว่านี้ ก่อนหน้านี้ ไอเอ็มเอฟชี้ว่าเงินหยวนของจีนอ่อนค่ากว่าความเป็นจริงอย่างมาก แม้ว่าปีที่ผ่านมาจีนจะขึ้นค่าเงินหยวน 5.5 % แต่ในความจริงจีนยังคงตรึงค่าเงินให้อ่อนค่า ทั้งในอัตราขยายตัวที่แท้จริงและมูลค่าที่เป็นตัวเงินต่อตะกร้าสกุลเงินหลัก (ดอลลาร์) อยู่ การปล่อยให้ขึ้นค่าเงินหยวนแบบเสรีจะเปิดประตู่สู่การสร้างเครื่องมือทางเศรษฐกิจสำคัญอื่นๆ เช่น การพัฒนาการออมและการลงทุน การปรับสู่กลไกเสรี อัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด เพิ่มการปันส่วนสินเชื่อ ท้ายที่สุดจะช่วยปลดภาระการคุมเข้มการเงินจีน ซึ่งจะช่วยปกป้องเงินหยวนเมื่อ “หยวน” กลายเป็นสกุลเงินสากลในการค้าระหว่างประเทศ
พม่า
กระทรวงโรงแรมและการท่องเที่ยวของพม่ารายงานว่า ระหว่างเดือนมกราคมถึงพฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าพม่าทั้งหมด 151,084 คน คาดว่าตลอดทั้งปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าพม่ามากกว่า 295,174 คน จากสถิติของปีที่แล้ว โพวาย ยาซา เลขาธิการคณะกรรมการการตลาดพม่า กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกำลังอยู่ในช่วงที่มีความหวัง และเชื่อว่าตลอดหลายเดือนข้างหน้าจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2554-2555 (สิ้นสุด 31 มี.ค.) นักท่องเที่ยวจะยังเพิ่มขึ้นอีกระหว่าง 20-25% และทุกฝ่ายกำลังจัดเตรียมความพร้อมรับมือเรื่องนี้ เขาบอกอีกว่าหากว่าบรรยากาศทางการเมืองยังเอื้ออำนวยเช่นในขณะนี้ น่าเชื่อว่าจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2554 จะมีระหว่าง 250,000-375,000 คน
ลาว
สถานทูตเวียดนามประจำ สปป.ลาว จัดการสัมมนาโอกาสในการลงทุนในลาวให้กับนักธุรกิจเวียดนามที่กำลังหาโอกาสเข้าลงทุนในลาวมากกว่า 200 คน เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเอกอัครราชทูตเวียดนามประจำลาวกล่าวว่า ลาวเป็นประเทศที่สงบสุขและมีศักยภาพในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ และย้ำว่าความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นเป็นพิเศษระหว่างเวียดนามและลาว ช่วยให้รัฐบาลลาวสร้างเงื่อนไขที่เหมาะสมให้กับนักธุรกิจเวียดนามเข้าลงทุนในประเทศ เขาระบุว่ามีธุรกิจเวียดนามมากมายที่ประสบความสำเร็จในลาว เช่น บริษัทซองดา เวียดเทล ลาว-เวียดแบงก์ ลองแถ่งห์กอล์ฟ และกลุ่มบริษัทฮว่างแอ็งห์ซยา-ลาย ระหว่างการสัมมนานักธุรกิจเวียดนามแสดงความสนใจลงทุนในหลายภาคส่วน เช่น การเปิดสถานศึกษา อุตสาหกรรม ธนาคาร ภาคบริการ ทำไร่ฝ้ายและยาง การค้ากาแฟและผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ
กัมพูชา
กระทรวงการคลังกัมพูชาเปิดเผยว่า สถาบันออกแบบและสำรวจเส้นทางรถไฟของกระทรวงรถไฟจีนได้เสร็จสิ้นการศึกษาความเป็นไปได้ในโครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟจาก จ.กำปงสะปือ ไปยัง จ.กระแจ๊ะ ติดชายแดนเวียดนาม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการทางรถไฟสิงคโปร์-คุนหมิง สถาบันดังกล่าวเริ่มศึกษาโครงการนี้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2552 ภายใต้เงินทุนช่วยเหลือทางเทคนิคที่ได้รับการสนับสนุนจากจีนเป็นมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์ จากผลสรุปการศึกษาทางรถไฟมีความยาวทั้งสิ้น 257 กม. จาก อ.อุดง จ.กำปงสะปือ ไปยัง อ.อังสะนวล จ.กระแจ๊ะ คาดว่าใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณ 30 เดือน มูลค่าการก่อสร้างประมาณ 686 ล้านดอลลาร์
เวียดนาม
เหงียน เติ๊น หยุง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีก 1 สมัย จากการเลือกตั้งจากสมาชิกรัฐสภาเวียดนาม ซึ่งจัดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยมีสภาชิกรัฐสภาเข้าร่วมประชุม 496 คน จาก 500 คน โดยเหงียน เติ๊น หยุง ได้รับคะแนนเห็นชอบถึง 470 คะแนน นับเป็นเอกฉันท์ ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน รัฐสภาเวียดนามที่เพิ่งผ่านการเลือกตั้งในสมัยที่ 13 ก็ได้โหวตเลือกให้เตรือง เติ๊น ซาง วัย 62 ปี ขึ้นเป็นประธานประเทศคนใหม่ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 5 ปี
|
|
|
|
|