Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
ASTV ผู้จัดการรายวัน2 สิงหาคม 2554
เซ็นทรัลฮุบโอโตยะ เพิ่มพอร์ตรุกตปท.             
 


   
search resources

Restaurant
เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ กรุ๊ป, บจก.




เซ็นทรัล ทุ่มงบ 720 ล้านบาทเทคโอเวอร์กิจการร้านอาหารญี่ปุ่นโอโตยะในไทยพร้อมสิทธิ์ในเอเซีย รับเทรนด์อาหารญี่ปุ่นเฟื่อง เพิ่มพอร์ทโฟลิโอรวมเป็น 12 แบรนด์ร้านอาหาร ยัน 3 แนวทางหลัก พัฒนาแบรนด์เอง ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ และเทคโอเวอร์ ลั่นปีนี้ทั้งกลุ่มรายได้ 7,000 ล้านบาท

นายธีระเดช จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือซีอาร์จี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการบริษัท เบทาโกร โอโตยะ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์โอโตยะในไทย จำนวน 100% หรือคิดเป็นมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 720 ล้านบาท โดยได้รับสิทธิ์ลงทุนและบริหารในไทยและทวีปเอเซียในประเทศที่โอโตยะยังไม่ได้ขยายธุรกิจเข้าไป

“ถือเป็นครั้งแรกที่ซีอาร์จีขยายพอร์ตโฟลิโอด้วยการเขาซื้อกิจการ 100% จากทั้งหมดที้เรามีตอนนี้ 12 แบรนด์ เป็นการพัฒนาขึ้นมาเอง 2 แบรนด์คือ เดอะเทอเรซ เน้นอาหารไทยและริวชาบูชาบูอาหารญี่ปุ่น นอกนั้นเป็นการถือลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ทั้งหมด ล่าสุดคือแบรนด์โอโตยะ และอีกแบรนด์ที่ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการคือ ร้านโยชิโนยะ”

ทั้งนี้ นายธีรเดชกล่าวต่อว่า การได้สิทธ์แบรนด์โอโตยะจะทำให้ฐานธุรกิจอาหารของซีอาร์จีแข็งแกร่งมากขึ้น คาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ จะมีรายได้จากร้านโอโตยะมากกว่า 2,000 ล้านบาท โดยปีหน้าจะขยายอีก 3 สาขาใหม่ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ซ็นทรัลพระรามเก้าและเทอร์มินอล21 ปัจจุบันมีจำนวน 33 สาขา มีรายได้ประมาณ 600 ล้านบาท และจะขยายเฉลี่ย 3 สาขาต่อปี ลงทุนสาขาละ 15 ล้านบาท

ส่วนต่างประเทศนั้น เบื้องต้นได้สิทธิ์ในประเทศที่โอโตยะยังไม่ได้ลงทุน ที่มองไว้เบื้องต้น เช่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม

ร้านอาหารญี่ปุ่นมีแนวโน้มในการเติบโตที่ดี ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นตลอด มีการเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี ด้วยมูลค่าตลาดรวมกว่า 14,000 ล้านบาท เราจึงให้ความสำคัญกับร้านอาหารญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันซีอาร์จี มีร้านอาหารญี่ปุ่นประกอบด้วย ร้านริวชาบูชาบู ร้านชาบูตงซื้อแฟรนไชส์จากญี่ปุ่น ร้านโอโตยะ และร้านโยชิโนยะที่ยังไม่ได้เปิดตัวเป็นทางการ ปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 10% ในตลาดร้านอาหาญี่ปุ่น คาดว่าจะเพิ่มเป็น 20% ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม นายธีรเดชกล่าวว่า บริษัทฯยังคงขยายธุกริจต่อเนื่องไม่ได้เน้นแต่อาหารญี่ปุ่นเท่านั้น ทั้งการซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ การพัฒนาเอง และการเทคโอเวอร์

สำหรับรายได้รวมปีนี้ซีอาร์จีคาดว่าจะทำได้ 7,000 ล้านบาท จาก 12 แบรนด์รวมกันมากกว่า 600 สาขาในเวลานี้ และยังมีการขยายสาขาต่อเนื่อง ด้วยงบลงทุนเปิดสาขาใหม่เฉลี่ย 500 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ร้านโอโตยะมีการเติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปีอยู่แล้ว ขณะที่ซีอาร์จีเองก็โต 20% ต่อปีเช่นกัน ดังนั้นเมื่อรวมกันจะทำให้เติบโตมากกว่ 40% นับจากนี้ และคาดหวังว่าภายใน 5 ปีจากนี้ซีอาร์จีจะมีรายได้รวม 15,000 ล้านบาท

นายฮิวามิ มิซูโมริ ประธาน บริษัท โอโตยะ โฮลดิ้งส์ จำกัด จากญี่ปุ่น กล่าวว่า โอโตยะมองหาพันธมิตรต่างประเทศที่เข้าใจรปรัชญาของโอโตยะเพื่อขยายธุรกิจในต่างประเทศด้วยการขายสิทธิ์ให้ ซึ่งในไทยได้มอบสิทธิ์ให้กับกลุ่มซีอาร์จีเพรามีความแข็งแกร่งด้าน การจัดการ การบริหาร

อย่างไรก็ตาม พันธมิตรหลักเดิมที่ถือหุ้นในบริษัทดังกล่าวตั้งแต่เริ่มแรกเมื่อ 7 ปีที่แล้วในไทย คือ เบทาโกร ก็ยังคงเป็นพันธมิตรหลักในการซัปพลายวัตถุดิบพวกเนื้อหมุ เนื้อไก่ เป็นต้น ให้กับโอโตยะทั้งในไทยและต่างประเทศเหมือนเดิม

ปีที่แล้วโอโตยะทั่วโลกมีรายได้รวม 8,000 ล้านบาท มีมากกว่า 220 สาขาในญี่ปุ่น และ 49 สาขาในต่างประเทศ คือ ไต้หวัน 12 สาขา , ฮ่องกง 3 สาขา, อินโดนีเซีย 2 สาขา, สิงคโปร์ 3 สาขา และไทยอีก 33 สาขา และเตรียมเปิดที่นิวยอร์กอีกด้วย ตั้งเป้าปีหน้าจะมีสาขาในเอเซีย 100 สาขาเพิ่มเป็น 200 สาขาในอีก 5 ปี ซึ่งสัดส่วนรายได้จากเอเชียขณะนี้ 15% จะเพิ่มเป็น 25% ในอีก 5 ปี   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us