|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
เมื่อได้เห็นบ้านงามหลังนี้แวบแรก คุณอาจคิดว่า บ้านนี้ตั้งอยู่บริเวณใจกลางชนบทที่ใดที่หนึ่งในอังกฤษ คงไม่คิดว่าอยู่ใน Southern Highlands ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลียเป็นแน่
เจ้าของคฤหาสน์เล่าว่า
“จุดเริ่มต้นของเราคือ ตกแต่งให้เป็นฟาร์มสไตล์ฝรั่งเศสไปๆ มาๆ กลับลงท้ายที่คฤหาสน์สไตล์คันทรีอังกฤษ”
เธอเล่าเพิ่มเติมว่า ได้แรงบันดาลใจจากนิตยสารเก่าแก่ Country Life ของอังกฤษ “ดิฉันชอบส่วนหลังคาของคฤหาสน์อังกฤษมาก จึงสร้างให้ด้านนอกของบ้านแลดูเป็นอย่างนั้นด้วย”
เมื่อเจ้าของบ้านกับคู่ชีวิตเกิดถูกใจที่ดินแปลงงามติดแม่น้ำเนื้อที่ 100 เอเคอร์นั้น องค์ประกอบสำคัญของการตัดสินใจ คือ บริเวณโดยรอบแวดล้อมด้วยทัศนียภาพชนบทอันสวยงามและยังอยู่ใกล้ตัวเมืองมาก ทำให้เดินทางเข้าเมืองได้สะดวกอย่างคาดไม่ถึง
จากนั้นพวกเขาช่วยกันออกแบบเป็นบ้านขนาด 4 ห้องนอน ด้วยความตั้งใจว่า ไม่ต้องการสไตล์ผสมกลมกลืน ไม่ต้องการให้เฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องแต่งบ้านเข้าชุดกันเหมือนกับที่คนส่วนใหญ่ นิยม ยิ่งกว่านั้น ผู้มาเยือนยังไม่สามารถคาดหมายหรือคาดเดาได้เลยว่านับจากย่างเท้าเข้ามาแล้ว จะได้พบอะไรบ้าง เพราะทุกอย่างไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์หรือมาตรฐานอะไรทั้งสิ้น
“ดิฉันหยิบยืมองค์ประกอบด้านสถาปัตยกรรมจากหลากหลายสถานที่ที่เคยได้ไปเยือนและเคยพบเห็นมาใช้ประโยชน์”
ตัวอย่างความประหลาดใจที่แขกจะได้รับ คือ บริเวณด้านหน้าของคฤหาสน์ มองดูแล้วเป็นสไตล์บ้านคันทรีอังกฤษอย่างเด่นชัด แต่เมื่อเข้าไปข้างใน กลับได้พบบรรยากาศเหมือนอยู่ในรีสอร์ตสกีสุดหรูมากกว่า เมื่อเดินสำรวจทั่วทั้งบ้านจะได้พบการนำวัสดุ พื้นผิว และสไตล์ที่แตกต่างกันมาตกแต่งให้ตัดกันอย่างตั้งใจ สะท้อนรสนิยมอันหลากหลายของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี ทำให้ไม่อาจปฏิเสธและต้องยอมรับด้วยว่า เธอเชี่ยวชาญวิธีทำให้ทุกจุดในบ้านสะดุดตา
ปรับปรุงอย่างมีสไตล์
แม้มองดูว่าบ้านหลังนี้มีมากกว่าสองชั้น แต่จริงๆ แล้วเป็นบ้านระดับไตรบ้าน (split-level home) คือ แทนที่จะสร้างชั้นสองคร่อมพื้นที่บ้านทั้งหลังตามปกติ กลับใช้วิธีออกแบบให้ห้อง นั่งเล่นใหญ่โปร่งโล่งมีเพดานสูงเป็นพิเศษ ดังที่เจ้าของอธิบายว่า “ดิฉันพยายามสร้างให้เป็นบ้านที่มีลักษณะของชาเลต์รวมกับฟาร์มเหมือนรีสอร์ตสกี มันเป็นอะไรที่ดิฉันชอบเป็นพิเศษ”
ห้องพักผ่อนที่ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งของบริเวณห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่ออกแบบให้เปิดโล่ง ซึ่งรวมถึงบันไดนำขึ้นไปสู่บริเวณ ครัวและห้องรับประทานอาหาร
ชั้นสองของบ้านจึงเริ่มต้นจากจุดนี้ โดยสร้างคร่อมเฉพาะบริเวณครัวและห้องอาหาร (โปรดดูภาพประกอบ) เท่านั้น
พื้นห้องต่างๆ ปูกระเบื้อง travertine เนื้อดี ต่างกันที่ลายหลากหลาย เช่น พื้นห้องอาหารปูกระเบื้องลายไม้ ซึ่งเป็นลวดลายเดียวกับลายเนื้อไม้ที่นำมาทำคาน “ดิฉันเปลี่ยนลายกระเบื้องมาแล้วมากมายทั่วทั้งบ้านก็ปูกระเบื้องขนาดต่างๆ กัน เพื่อให้เป็นจุดสนใจนั่นเอง”
เพดานห้องครัวและห้องอาหารทาสีครีม Dulux Antique Cream ซึ่งเป็นสีโทนอุ่นที่เจ้าของ จงใจเลือกมาเพื่อทำให้ไม้รีไซเคิลที่นำมาทำคานลดความแข็งกระด้างลง ส่วนผนังทาสี Dulux Hogs Bristle ด้วยเฉดสีหลากหลาย พื้นที่ใช้สอยบริเวณนี้ให้บรรยากาศเป็นกันเองและผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ฝรั่งเศส เก๋ไก๋มาก จึงเป็นมุมโปรดของสมาชิกในครอบครัวที่มีโอกาสใช้ประโยชน์ในหลายๆ โอกาสด้วยกัน
บ้านนี้ยังติดตั้งประตูสไตล์ฝรั่งเศสเพื่อเปิดออกสู่ตัวบ้านด้านนอก นอกจากนี้ หน้าต่างบานมหึมาที่ติดตั้งบริเวณห้องนั่งเล่นก็ทำหน้าที่เดียวกันด้วย เจ้าของเล่าอย่างภาคภูมิว่า “นั่นเป็นหน้าต่างที่ใช้กระจกบานเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ดิฉันจะหาได้”
เสน่ห์จากชนบท
แม้เจ้าของจะออกแบบให้ชั้นล่างเปิดโล่งเพื่อทำกิจกรรมบันเทิงและการใช้ชีวิตแบบสบายๆ แต่ยังมีอีกหลายมุมที่ให้ความเป็นส่วนตัวตามสไตล์คฤหาสน์ดั้งเดิมของอังกฤษ พวกเขาใช้ตัวช่วยด้วยการทาสีแตกต่างกันในแต่ละห้อง เช่น ห้องนอนใหญ่ซึ่งอยู่ชั้นล่างใช้เฉดสีเหลือง ขณะที่ห้องสมุดซึ่งอยู่ชั้นบนทาโทนสีอุ่นอย่างสีส้ม เพื่อสร้างบรรยากาศมีรสนิยมและให้ความรู้สึกเป็นกันเอง ส่วนห้องรับรองแขกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของบ้านเน้นทาสีโทนเย็น เพราะมีแดดส่องตลอดทั้งวัน ห้องรับรองแขกทั้ง 3 ห้องอยู่ชั้นบนทั้งหมดตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องนอนลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มแนวเดียวกัน
เน้นรายละเอียด
เจ้าของบ้านทั้งสองให้ความสำคัญกับรายละเอียด และการใช้วัสดุน่าทึ่งต่างๆ ที่ทำให้บ้านหลังนี้มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร พวกเขาตกลงใจปูกระเบื้อง travertine ทั้งบ้าน ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะ “มันวิเศษสุด ทำให้บ้านไม่แลดูธรรมดาหรือพื้นๆ พวกเราเองก็อยู่กันอย่างสุขสบาย ที่สำคัญ เราฝังเครื่องทำความร้อนไว้ที่พื้นด้วย หน้าหนาวจึงอุ่นมาก พอถึง หน้าร้อนก็สบายเท้าเป็นที่สุดเพราะพื้นเย็นดี”
ทั้งสองติดตั้งประตูเก่าแกะสลักลวดลายสวยงามเตะตาทั้งบ้าน ทำให้แลดูขลังและมีเสน่ห์ดึงดูดใจอย่างประหลาด ทั้งยังทำให้ทุกห้องมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจไม่เบา “ยอมรับว่าค่าใช้จ่ายส่วนนี้สูงมาก แต่ดิฉันเต็มใจลงทุนแทนการซื้อภาพเขียนราคาแพงลิ่วมาประดับ”
คู่สามีภรรยายังมีรสนิยมในการเก็บสะสมสิ่งละอันพันละน้อยจากทั่วทุกหัวระแหง ทุกชิ้นล้วนมีสไตล์สะอาดตาและดีที่สุดในแต่ละประเภทของสิ่งของนั้นๆ “คุณอาจคิดว่ามันเหมือนเอาของแต่งบ้านพวกนี้มาอยู่รวมกันแบบจับฉ่าย แต่ดิฉันรักความหลาก หลาย แล้วก็เกลียดการต้องให้ทุกสิ่งทุกอย่างเข้าชุดกันเป็นที่สุด”
แม้บรรยากาศทั้งบ้านจะให้ความรู้สึกของสไตล์คันทรีเต็มที่ แต่ไม่ทำให้ผู้ได้สัมผัสรู้สึกว่าซ้ำซากจำเจหรือคาดหมายอะไรได้เลย เพราะนั่นไม่ใช่วิถีของเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้อย่างแน่นอน
ก่อนซื้อที่ดินแปลงนี้ พวกเขาอาศัยอยู่ในถิ่นนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว จึงรู้ดีว่าที่ดินแปลงนี้สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะตั้งอยู่ตรง ทำเลทองที่เวลาเข้าเมืองก็แสนสะดวก ทั้งยังมีทิวทัศน์แถบชนบทน่าตื่นตาตื่นใจ พวกเขาใช้เวลาสองปีจึงสร้างบ้านแล้วเสร็จ งานตกแต่งเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือนมีนาคม 2010
สำหรับเจ้าของแล้ว ระยะเวลาดังกล่าว “เหมือนกับยาวนานถึง 15 ปีเลยทีเดียว” แต่เธอยอมรับว่าคุ้มค่ากับการทุ่มเท “แม้จะเป็นบ้านที่อยู่เหนือความคาดหมาย แต่อยู่สบายสุดๆ ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงความเสแสร้งแม้แต่น้อย”
|
|
|
|
|