|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
จากความร่วมมือของ 5 กลุ่มธุรกิจ ประกาศแผนร่วมมือปั้น “เพลินจิตซิตี้” ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยมูลค่าลงทุน 5 หมื่นล้านบาท กลายเป็นพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์รายวันในวันรุ่งเช้า
บรรยากาศในวันแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนมิถุนายนได้รวมผู้บริหาร 5 กลุ่มอย่างเป็นทางการ พร้อมกับกองทัพสื่อมวลชนเกือบทุกแขนงที่ไม่ได้ลดจำนวนลง ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวเล็ดลอดความร่วมมือออกไปบ้างแล้วก็ตาม
แนวความคิดสร้าง “เพลินจิตซิตี้” ให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ในย่านเพลินจิต-วิทยุ เกิดจากการรวมกลุ่มของ 5 ผู้ประกอบการ คือ บริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด กลุ่ม บมจ.ยูนิเวนเจอร์ นายเลิศ กรุ๊ป และธนาคารกรุงศรีอยุธยา
การรวมตัวครั้งนี้ผู้ที่ได้ประโยชน์มากที่สุด น่าจะ 3 ราย คือ กลุ่มเซ็นทรัล กลุ่มโนเบิล และยูนิเวนเจอร์ เพราะมีโครงการใหม่ที่จะผุดขึ้นเร็วๆ นี้ เช่น กลุ่มเซ็นทรัลเปิดห้างค้าปลีกและโรงแรม เรียกว่า “โครงการเซ็นทรัล เอ็มบาสซี” หลังจากซื้อที่ดินส่วนหนึ่ง จากสถานทูตอังกฤษ พื้นที่ด้านหน้าติดกับถนนสุขุมวิท และโครงการจะแล้วเสร็จในอีก 2 ปีข้างหน้า
เซ็นทรัล เอ็มบาสซีใช้งบลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 9 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์การค้า 8 ชั้น อีก 30 ชั้นเป็นสวนลอยฟ้า และโรงแรมพาร์ค ไฮแอท โดยให้กลุ่มไฮแอท อินเตอร์ เนชั่นแนล เป็นผู้บริหาร
ส่วนกลุ่มโนเบิลอยู่ระหว่างก่อสร้างคอนโดมิเนียม “โนเบิล เพลินจิต” สร้างเสร็จปี 2560 โดยใช้คอนเซ็ปต์เมืองแนวสูงบนพื้นที่ 9 ไร่ อ้างว่าเป็นพื้นที่ผืนสุดท้ายใจกลางเมืองเพลินจิต ประกอบ ด้วยอาคารที่พักอาศัย 3 อาคาร สูง 50 ชั้น 45 ชั้น และ 14 ชั้น และอาคารสำนักงานอีก 1 อาคารสูง 3 ชั้น
ด้านยูนิเวนเจอร์ ภายใต้โครงการ “ปาร์คเวนเซอร์-ดิ อีโค เพล็กซ์ ออน วิทยุ” เป็นโครงการอนุรักษ์พลังงานแห่งใหม่ของประเทศ เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าระดับพรีเมียมและโรงแรมระดับ 5 ดาว และส่วนสำนักงานจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายนนี้
ส่วนธนาคารกรุงศรีอยุธยาและโรงแรมปาร์คนายเลิศตั้งอยู่ เดิมอยู่แล้วจึงไม่ได้ประโยชน์ครั้งนี้มากนัก แต่จะทำให้การเดินทางของประชากรในย่านนั้นง่ายขึ้น เพราะทั้ง 5 กลุ่มมีแผนจะสร้างทางเดินเชื่อมแต่ละตึกให้ทะลุถึงกันได้หมด พร้อมกับเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต ซึ่งโครงการของทั้ง 5 กลุ่มใช้เงินลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
สิ่งที่ผู้บริหารเล่าและพยายามชี้จุดขายของเพลินจิตซิตี้ให้เป็นการใช้ชีวิตของคนเมือง 7 วัน 24 ชั่วโมง แตกต่างจากย่าน ราชประสงค์ หรือปทุมวัน ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เพราะทั้งสองแห่งจะเป็นห้างร้าน และสำนักงานส่วนใหญ่ จะเปิดปิดเป็นเวลา เมื่อเวลาล่วงเลย 4 ทุ่มไปแล้วทุกอย่างก็จะเริ่มมืดและเงียบ
โดยเฉพาะย่านราชประสงค์หลังจากมีเหตุการณ์การเมือง ทำให้ผู้ประกอบการมองหาทางเลือกใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยง ในการทำธุรกิจ
เพลินจิตซิตี้จึงกลายเป็นเมืองที่ผู้ประกอบการตั้งใจยกระดับให้เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติในระดับพรีเมียม
การยกระดับเพลินจิตซิตี้ให้เป็นแลนด์มาร์คระดับพรีเมียม ส่งผลทำให้ค่าเช่าอาคารสำนักงานในบริเวณนั้นราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะอาคารสำนักงานของยูนิเวนเจอร์ มีการกล่าวอ้างว่าราคาค่าเช่าแพงที่สุดในย่านเพลินจิตร้อยละ 15
ความร่วมมือกับพันธมิตร 5 รายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเพื่อสร้างแบรนด์เพลินจิตซิตี้เท่านั้น เพราะผู้ประกอบการยังมีแผนดึง รายใหม่เข้ามาร่วมมือเพิ่มเติมเพื่อตอกย้ำให้เกิดการจดจำแบรนด์ ให้เกิดขึ้น
แลนด์มาร์คแห่งใหม่จะเป็นแม่เหล็กดึงดูด ดังผู้ประกอบการกล่าวอ้างหรือไม่ ต้องรออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1-2 ปี เพราะการประกาศความร่วมมือของ 5 พันธมิตรเป็นเพียงจุดพลุเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
|
|
|
|
|