Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page








 
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา มิถุนายน 2554
ธุรกิจของเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ             
โดย นภาพร ไชยขันแก้ว
 


   
www resources

บริษัท พิณอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

   
search resources

Toys
พิณอินเตอร์เนชั่นแนล, บจก.
ดุษฎี เลาติเจริญ




แม้ว่าบริษัท พิณอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะมีประสบการณ์ผลิตของเล่นกว่า 10 ปี แต่ธุรกิจจะยั่งยืนได้ต้องสร้างแบรนด์ของตัวเองมากกว่าการย่ำอยู่กับที่ในฐานะผู้ผลิตโออีเอ็ม

ในปีนี้บริษัท พิณอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายของเล่นเด็กได้กำหนดเป้าหมายว่าจะมีรายได้ประมาณ 900 ล้านบาท แม้เวลาจะผ่านไปครึ่งปีแล้ว แต่ผู้บริหารก็ยอมรับว่าต้นทุนการบริหารงาน และวัตถุดิบยังเป็นเรื่องน่ากังวลและอาจมีผลต่อแผนธุรกิจ

ของเล่นเด็กเกือบ 100 ประเภททั้งหมดผลิตจากไม้ยางพารา ซึ่งเป็นวัตถุ ดิบหลักมีต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 10-20 เป็นสิ่งที่บริษัทไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะบริษัทเลือกผลิตสินค้าจากไม้ยางพาราเพียงอย่างเดียว

นอกจากต้นทุนจากวัตถุดิบไม้ยางพาราที่เพิ่มสูงขึ้น แนวโน้มค่าแรงจะเพิ่มขึ้น ในอนาคตเป็น 250 บาท หลังจากรัฐบาลประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหนเข้ามา บริหารงานค่าแรงจะปรับสูงขึ้น เพราะเป็นนโยบายของทุกพรรคการเมืองที่เริ่มใช้หาเสียงในสภาวการณ์นี้ และดูเหมือนว่า ดุษฎี เลาติเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พิณอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะรับรู้ล่วงหน้าเป็นอย่างดี เพราะปัจจุบันบริษัทมีพนักงานทำงานถึง 1,200 คน โดยมีพนักงานประมาณ 90 คน เป็นแรงงานต่างด้าวจากประเทศกัมพูชา

ดุษฎีตระหนักดีว่าหากปรารถนาจะให้ธุรกิจอยู่รอดได้ต้องเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยเฉพาะการแสวงหาโอกาสในตลาดใหม่ๆ ในต่างประเทศ ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะประเทศเหล่านี้ให้ความสำคัญกับของเด็กเล่นเนื่องจากมองว่าเป็นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ของเด็กๆ

ปัจจุบันบริษัท พิณอินเตอร์เนชั่น แนลฯ ผลิตสินค้าและจำหน่ายของเล่นเด็ก ทั้งภายใต้แบรนด์ของตัวเองชื่อว่า “Pintoy” และรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่นๆ หรือที่เรียกว่า OEM: Original Equipment Manufacturer และสินค้าที่บริษัทผลิตอยู่ในปัจจุบันมี 3 ประเภทคือ ของเล่นเด็ก (Toy) เกม และเฟอร์นิเจอร์เด็ก

ลูกค้ารายใหญ่ที่บริษัทรับจ้างผลิตให้ในปัจจุบันคือ อีเกีย (IKEA) ร้านขายเครื่องเรือนและของใช้ภายในบ้านรายใหญ่ ประเทศสวีเดน

บริษัทผลิตสินค้าให้กับอีเกีย อาทิ โต๊ะ เก้าอี้ ประมาณ 1 ล้านชิ้น และเตียงอีก 1 แสนชิ้น จากปริมาณการผลิตจำนวน มาก บริษัทได้ตั้งบริษัท พิณอินเตอร์วู้ด จำกัด ขึ้นมาเพื่อผลิตให้กับอีเกียโดยตรง ในขณะที่บริษัท พิณอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จะทำหน้าที่ผลิตและจำหน่ายสินค้า ภายใต้แบรนด์ Pintoy และรับจ้างผลิตโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นๆ

แม้ว่าสัดส่วนการผลิตภายใต้แบรนด์ของตัวเอง และโออีเอ็มจะใกล้เคียงกัน แต่ในอนาคตบริษัทกำหนดเป้าหมายจะผลักดันแบรนด์ Pintoy ให้ตลาดรับรู้ทั้งในและต่างประเทศ เพราะการสร้างแบรนด์ของตนเองสามารถกำหนดทิศทางธุรกิจได้ชัดเจน และลดการพึ่งพาทำให้บริษัทไม่มีความเสี่ยงมากนัก

ปัจจุบันบริษัทผลิตและจำหน่ายสินค้าไปต่างประเทศร้อยละ 70 และจำหน่ายในประเทศร้อยละ 30 โดยการทำตลาดในต่างประเทศ จะผ่านตัวแทนจำหน่ายเกือบ 20 ประเทศ เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยียม อังกฤษ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ อิสราเอล สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น

จะสังเกตได้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทจะอยู่ในประเทศพัฒนาแล้ว และจากความร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายทำให้บริษัทได้มองเห็นโอกาสขยายตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในตลาดโรงเรียน เพราะรัฐบาลจะสนับสนุนเงินทุนจัดซื้ออุปกรณ์โรงเรียน เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ และของเล่นเด็กเข้าไปในการเรียนการสอนของเด็ก

ดุษฎีเล่าว่าที่ผ่านมาเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กที่บริษัทผลิตอยู่ในปัจจุบันจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายจะขายให้กับลูกค้าที่เป็นบ้านมากกว่าโรงเรียน แต่หลังจากศึกษาถึงคุณภาพของสินค้าที่ผลิตแล้วพบว่ามีความคงทน และเหมาะสมกับโรงเรียน

การแข่งขันในตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีคู่แข่งทั่วโลก และสิ่งสำคัญต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบเงื่อนไข ในการผลิต และยิ่งเป็นสินค้าเด็กจะมีกฎระเบียบเข้มข้น และเงื่อนไข กฎระเบียบจะมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัย

ด้วยกฎระเบียบที่เข้มข้น บริษัทจึงมีหน่วยงานพัฒนาและวิจัย เพื่อดูแลและทำหน้าที่ทดสอบความปลอดภัยของเล่นเด็กให้อยู่ในมาตรฐานสากล เช่น ต้องไม่แหลมคม และตกกี่ครั้งของจะไม่แตก สีที่ใช้ต้องไม่เป็นอันตราย

ฝ่ายพัฒนาและวิจัยนอกจะดูแลด้าน ความปลอดภัยแล้ว ต้องดูแลเรื่องต้นแบบของผลิตภัณฑ์รวมไปถึงวัสดุที่ใช้บรรจุสินค้า

นอกจากฝ่ายพัฒนาและวิจัยที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก แผนกออกแบบผลิตภัณฑ์เป็นอีกส่วนสำคัญที่บริษัทต้องคิดค้นผลิตสินค้าออกสู่ตลาดใหม่ๆ ทุกปี หรือประมาณ 20-30 รูปแบบ เพื่อรองรับกับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 1 ขวบไปจนถึงเด็ก 7-8 ขวบ

ดังนั้น การออกแบบสินค้าใหม่ๆ ต้องคำนึงถึงวัยของเด็ก ดุษฎีเล่าจากประสบการณ์ในฐานะที่อยู่ในวงการธุรกิจของเล่นมากว่า 10 ปีว่า เด็กวัยประมาณ 1 ขวบ จะเริ่มฟังและจับสิ่งของทุกอย่างที่ใกล้มือ และมักจะจับเข้าปากเสมอ ฉะนั้นของเล่นเด็กวัยดังกล่าวจะต้องมีขนาดใหญ่ และไม่สามารถกลืนได้ รวมทั้งสีที่ใช้ต้องไม่เป็นอันตราย

ส่วนเด็กวัย 2-3 ขวบ เริ่มรับรู้เรื่องของรูปทรง ฉะนั้นของเล่นเด็กจะต้องเริ่มมีรูปร่างวงกลม สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสสัมผัส

จึงเห็นได้ว่า สินค้าของบริษัทที่ตั้งโชว์อยู่ในห้องแสดงสินค้าบริเวณชั้น 2 ภายในโรงงานบนถนนสุขุมวิท-พานทอง จังหวัดชลบุรี เต็มไปด้วยของเล่นมากมาย ตั้งแต่ฟันน้ำนม ตึกจำลองสถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ โต๊ะ เก้าอี้ ห้องจำลอง ห้องครัวที่เต็มไปด้วยไมโครเวฟ เตาแก๊ส ไปจนถึงของเล่นขนาดใหญ่ เช่น การจำลองการก่อสร้าง รวมไปถึงเกมหมากรุก และโกะของประเทศญี่ปุ่น ของเด็กเล่นเหล่านี้ล้วนมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมทักษะแทบทั้งสิ้น

ทีมออกแบบสินค้าจึงเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจในการผลิตสินค้า และยอมรับว่าบางครั้งสินค้าจะถูกลอกเลียนแบบบ้าง แม้ในตอนแรกบริษัทจะกังวลแต่ก็ไม่สามารถฟ้องร้องทุกครั้ง สิ่งที่บริษัทจะทำได้ก็เพียงแต่พัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ และพัฒนาตลอดเวลา แนวทางดังกล่าวจะช่วยทำให้บริษัทที่ลอกเลียนแบบตามไม่ทัน

บริษัทมีทีมนักออกแบบทำงานประจำ 6 คน และมีนักออกแบบอิสระอีก 2 คน นอกจากนี้บริษัทจะเปิดรับพิจารณา ซื้อแบบจากนักออกแบบต่างประเทศบ้าง

จากการสอบถามของ ผู้จัดการ 360 ํ เกี่ยวกับนโยบายการสนับสนุนนักออกแบบเพื่อแข่งขันในตลาด บริษัทยังไม่ได้สนับสนุนโดยตรง แต่นักออกแบบจะนำเสนอผลงานเพื่อแข่งขันด้วยตนเอง ซึ่งแตกต่างจากธุรกิจในต่างประเทศที่ให้ความสำคัญในด้านการออกแบบค่อนข้างมาก

ปัจจุบันธุรกิจของเล่นเด็กส่งออกของประเทศไทยมีมูลค่า 9 พันล้านบาท มีผู้ประกอบการอยู่ 20 แห่ง ส่วนใหญ่ผู้ผลิตเลือกผลิตของเล่นจากพลาสติกร้อยละ 50 ผลิตจากผ้าร้อยละ 30 และที่เหลือผลิตจากไม้และอื่นๆ

ดุษฎีเล่าถึงเหตุผลที่ผลิตของเล่นจากไม้ยางพารา เพราะประเทศไทยมีไม้ยางพาราจำนวนมาก และมีลายสีน้ำตาลอ่อนและขาว ซึ่งสวยงามกว่าของมาเลเซีย และของเล่นไม้มีเสน่ห์และคลาสสิกมากกว่าของเล่นที่ทำจากพลาสติก สิ่งสำคัญกระบวนการผลิตของเล่นไม้ต้องใช้คนผลิต เพราะต้องใช้ความพิถีพิถันให้ของเล่นมีลักษณะมนกลม ไม่แหลมคม ทำให้ไม่เกิด อุบัติเหตุได้ง่าย

ข้อเสียของเล่นไม้ยางพาราคือไม่สามารถโดนน้ำ หรืออยู่กลางแจ้งได้เป็นเวลานาน เพราะจะทำให้เสียหายจึงเหมาะ เล่นภายในร่มมากกว่า

แม้ดุษฎีจะมีประสบการณ์ทำธุรกิจ 25 ปี ในช่วงเริ่มต้นของธุรกิจบริษัทมีอัตรา การเติบโตร้อยละ 30-40 แต่ในปัจจุบันเหลือร้อยละ 4-5 ทั้งนี้เพราะว่าฐานที่กว้าง ขึ้นจึงทำให้อัตราการเติบโตลดลง แม้ว่า การเติบโตจะลดลง แต่บริษัทก็ยืนยันที่จะขยายตลาดออกไปในยุโรปและสหัฐอเมริกา มากกว่า

ส่วนในกลุ่มประเทศเอเชียบริษัท ทำตลาดในญี่ปุ่น ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ และโอกาสขยายธุรกิจในกลุ่มอาเซียนมีความเป็นไปได้จะขยายเพิ่มมากขึ้นและเป็นไปตามข้อตกลงการค้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ASEAN Economic Community: AEC)

ประเทศที่จะไม่เข้าไปลงทุนหรือขยายตลาดคือประเทศจีน เพราะจีนเป็นผู้ผลิตของเล่นรายใหญ่ของโลก และมีการลอกเลียนแบบจำนวนมาก

ดุษฎีมองว่าบริษัทเคยเข้าไปศึกษาตลาดในจีน และพบว่าจีนเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะค่าแรงที่สูงขึ้น และจีนมุ่งเน้นพัฒนาไปใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะ ในภาคใต้ของจีน ส่วนภาคเหนือแม้ว่าจะมีค่าแรงถูก แต่การเดินทางระยะไกลไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน และมองว่าจีนไม่เหมาะ ต่อการลงทุนแล้วในปัจจุบัน

แม้ว่าสภาพการแข่งขันที่สูงขึ้นทุกๆ ปีก็ตาม แต่ดุษฎีก็ยืนยันว่าจะไม่นำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะยังต้องการให้ธุรกิจอยู่ภายใต้การดูแลของครอบครัว และมองว่ามีเงินทุนลงทุนเพียงพอโดยไม่ต้องเข้าระดมเงินทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

และแม้ว่าดุษฎีจะรู้ดีว่าธุรกิจของเล่นที่ทำจากไม้จะมีโอกาสเติบโตน้อยมาก แต่จะอยู่ในสภาวะคงที่ เพราะธุรกิจนี้กระบวนการผลิตยังต้องใช้แรงงานมีฝีมือในการทำงาน สะท้อนให้เห็นถึงต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ภายในสิ้นปีนี้เขามีแผนที่จะสั่งนำเข้าเครื่องจักรใหม่ สำหรับพ่นสี เพื่อลดแรงงานคนและทำให้น้ำหนักมาตรฐาน

จะเห็นว่าบริษัทต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาศักยภาพไปสู่การแข่งขันที่นับวันจะเข้มข้นมากขึ้น เพราะตลาดของเด็กเล่นไม่เคยหยุดพัฒนา

ดุษฎียืนยันที่จะสานธุรกิจนี้ต่อไป เพื่อส่งต่อให้กับทายาทของเขา 2 คน   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us