จีน
จีนและมาเลเซียลงนามข้อตกลงทางเศรษฐกิจจำนวนมาก ระหว่างการเยือนมาเลเซียเป็นเวลา 2 วัน ของเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน เวินได้เยี่ยมชมโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงงานหลอมอะลูมิเนียม และโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานอื่นๆ ของมาเลเซีย ขณะที่นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า การลงนามดังกล่าวเพื่อเพิ่มขยายและหยั่งรากลึกสัมพันธ์เศรษกิจ การค้า และความร่วมมือสองชาติ และจะต้องหาพื้นที่ใหม่สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เพื่ออำนวยให้เกิดการค้าการลงทุนขนานใหญ่ โดยเวินได้ให้คำมั่นว่าจะฟื้นการลงทุนในมาเลเซีย ด้านโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน โครงการพลังงาน และยังคงซื้อสินค้าเกษตรของมาเลย์ต่อเนื่อง


พม่า
สำนักงานสถิติของทางการพม่า รายงานตัวเลขการลงทุนจากต่างชาติในพม่า ช่วงปีงบประมาณ 2553-2554 ซึ่งสิ้นสุดลงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีมูลค่ามากกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ นับเป็นมูลค่าที่มากกว่าการลงทุนรวมทั้งหมดในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา โดยจีนเป็นประเทศที่เข้าลงทุนในพม่ามากที่สุด 7,750 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยฮ่องกง 5,790 ล้านดอลลาร์ เกาหลีใต้ 2,670 ล้านดอลลาร์ ไทย 2,140 ล้านดอลลาร์ อังกฤษ 799 ล้านดอลลาร์ และสิงคโปร์ 226 ล้านดอลลาร์ ในจำนวนนี้ เป็นการลงทุนด้านน้ำมันและก๊าซ มีมูลค่าการลงทุนสูงสุด 10,170 ล้านดอลลาร์ พลังงานไฟฟ้า 8,218 ล้านดอลลาร์ เหมืองแร่ 1,396 ล้านดอลลาร์ และอุตสาหกรรมการผลิต 66.32 ล้านดอลลาร์


ลาว
ริโอ พอลส์ ผู้ประสานงานเครือข่ายองค์กรภาคเอกชนระหว่างประเทศ (INGO) ที่ทำงานร่วมกับองค์กรช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากกว่า 70 แห่งในลาว แสดงความวิตกเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการจัดการเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติจำนวนมากที่หลั่งไหลเข้าไปในลาวช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าการลงทุนแต่ละโครงการ เป็นการลงทุนที่มีคุณภาพหรือไม่ ตามสถิติทางการลาว ระบุว่าเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้าประเทศเพิ่มจาก 51 ล้านดอลลาร์ ในปี 2544 เป็น 13,600 ล้านดอลลาร์ ในปี 2553 GDP ลาวขยายตัวเฉลี่ย 7.9% ระหว่างปี 2549-2553 จากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในประเทศ ไม่ใช่การผลิตในเชิงอุตสาหกรรม ผู้เชี่ยวชาญบางคนกังวลว่าลาวที่เป็นประเทศสังคมชนบทและประชาชนยังคงพึ่งพาทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้และแหล่งน้ำ จะได้รับผลกระทบจากการเติบโตของประเทศ


กัมพูชา
การสำรวจเกี่ยวกับระบบการศึกษาของกัมพูชาประจำปีโดยสมาคมครูอิสระกัมพูชา พบว่าส่วนใหญ่ของครูที่ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 726 คน ใน 17 จังหวัดทั่วประเทศ เชื่อว่าระบบการศึกษาของประเทศไม่มีคุณภาพ ผู้ที่ตอบแบบสำรวจ 39.5% คิดว่าประเทศไม่พัฒนาขึ้นเลย ในขณะที่ 45.5% ระบุว่าระบบการศึกษาไม่มีคุณภาพ มีเพียง 14% ที่มองว่าภาคการศึกษาของประเทศมีการพัฒนาบ้างเล็กน้อย ประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ตอบ หรือ 52% กล่าวว่าเงินเดือนต่ำเป็นสาเหตุให้คุณภาพการศึกษาตกลงเรื่อยๆ และอีก 15% กล่าวว่าคุณภาพการศึกษาได้รับผลกระทบจากการขาดความโปร่งใสในการบริหาร และผู้บริหารโรงเรียนที่ไม่ทำหน้าที่จำเป็นต้องถูกย้ายออก ส่วนเหตุผลอื่นที่ถูกอ้างว่าทำให้ระบบการศึกษาไม่พัฒนา คือการทุจริตคอร์รัปชัน และการขาดแคลนอุปกรณ์การสอนและฝึกอบรม


เวียดนาม
กลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการทดลองระบบแจ้งเตือนภัยสึนามิแห่งแรกในเวียดนาม ที่บริเวณชายฝั่งทะเลเซวินเถี่ยว (เขตเลียนเจี๋ยว นครด่าหนัง) โดยระบบดังกล่าว บริษัทโทรคมนาคม Viettel ได้ประสานงานกับสถาบันฟิสิกส์โลก กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบท ก่อสร้างทดลองสถานีแจ้งเตือนภัยสึนามิ 10 สถานีแรก ที่นครด่าหนัง หว่าง ตรุง หาย รองนายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามมีฝั่งทะเลยาวกว่า 3,000 กิโลเมตร ดังนั้นการแจ้งเตือนภัยสึนามิในสถานการณ์ที่สภาพอากาศแปรปรวนทั่วโลกจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่สุด