|
Today's News
Cover Story
New & Trend
Indochina Vision
GMS in Law
Mekhong Stream
Special Report
World Monitor
on globalization
Beyond Green
Eco Life
Think Urban
Green Mirror
Green Mind
Green Side
Green Enterprise
Entrepreneurship
SMEs
An Oak by the window
IT
Marketing Click
Money
Entrepreneur
C-through CG
Environment
Investment
Marketing
Corporate Innovation
Strategising Development
Trading Edge
iTech 360°
AEC Focus
Manager Leisure
Life
Order by Jude
The Last page
|
|
บริษัทในเครือเอมิเรตส์แถลงผลกำไรที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่า 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นมูลค่าผลประกอบการที่โดดเด่นถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ภาวะทางเศรษฐกิจไม่มั่นคง
รายงานผลประกอบการปี 2553-2554 ของบริษัทในเครือเอมิเรตส์ประกอบด้วย รายงานของสายการบินเอมิเรตส์ ดนาต้า และบริษัทในเครืออื่นๆ ซึ่งชี้ค อาเหม็ด บิน ซาอิด อัล มัคตุม ประธานและผู้อำนวยการ สายการบินเอมิเรตส์และบริษัทในเครือเป็นผู้แถลงถึงผลประกอบการในครั้งนี้
“ผลประกอบการอันยอดเยี่ยมของปี 2553-2554 ที่ผ่านมา บ่งชี้ให้เห็นถึง แรงผลักดันของเราในการก้าวข้ามขอบเขตอุตสาหกรรมการบิน ด้วยการฉีกกรอบรูปแบบการแข่งขันแบบเดิมๆ แล้วหันมาให้การสนับสนุนการแข่งขันที่เปิดเผย และยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางการเมืองที่ไม่มั่นคง หรือภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน เราสามารถผ่านพ้นวิกฤติเหล่านั้น มาได้ด้วยความมุ่งมั่น และความพร้อมในการรับมือต่อสถานการณ์ ที่ฉับพลัน จึงทำให้เราสามารถบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ถึงแม้เอมิเรตส์ต้องเผชิญกับอุปสรรค ทั้งปัญหาทางการเมือง และภัยทางธรรมชาติ กำไรของบริษัทในเครือเอมิเรตส์ กลับเพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 26.4 ซึ่ง 15.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นมูลค่า ที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ รายได้ที่แข็งแกร่งนี่เองที่ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทในเครือเอมิเรตส์เป็นไปอย่างน่าประทับใจ ด้วยดุลเงินสดของบริษัทในเครือเอมิเรตส์พุ่งขึ้นสูงสุดเท่าที่เคยมีมาด้วยมูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ผลประกอบการอันยอดเยี่ยมนี้ คงไม่อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทขาดประสิทธิภาพในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ อย่างฉับไวในช่วง 6 เดือนแรกของปี เนื่องด้วยเครือข่ายที่เหนือชั้นของเอมิเรตส์ ประกอบกับคุณภาพระดับโลก เอมิเรตส์สามารถรองรับ ความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นได้อย่างดีเยี่ยม
ในช่วง 6 เดือนหลังของปี ความไม่สงบที่เกิดจากความวุ่นวายทางการเมืองในหลายประเทศทั่วโลก มีความรุนแรงที่สุด แต่สายการบินเอมิเรตส์ก็สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ ด้วยการปรับตารางเที่ยวบิน เตรียมความพร้อมของเครื่องบินเพื่อรองรับความต้องการของแต่ละเครือข่าย และสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความที่สายการบินเอมิเรตส์สามารถประคับประคองรายรับในช่วงที่ภาวะทางเศรษฐกิจสั่นคลอนได้นั้น ช่วยให้ราคาที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วของน้ำมันไม่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อสายการบิน
ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมา ดนาต้าประสบความสำเร็จใน การขยายขอบเขตการให้บริการไปยังประเทศต่างๆ โดยการเข้าดูแลกิจการ แอลฟา ไฟลท์ กรุ๊ป บริษัทชั้นนำในการให้บริการด้านอาหารที่มีสาขาอยู่ใน 61 สนามบินทั่วโลก ความพร้อมในการเปิดรับสิ่งใหม่ และความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดนาต้าได้รับตำแหน่งบริษัทบริหารจัดการทางการบิน อันดับที่ 4 ของโลก
“หนึ่งในปัจจัยที่ชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทคือ ผลกำไรอันน่าพอใจที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของพนักงานกว่า 57,000 คน ที่ทำงานอย่างขะมักเขม้น นอกจากนี้ การดำเนินงานที่ไม่ได้อาศัยเพียงเงินสนับสนุน และรูปแบบการบริหารธุรกิจที่ถูกคิดขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของทีมผู้บริหารเอง ช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับหลากหลายอุปสรรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
การสนับสนุนอย่างดีของลูกค้าที่มีต่อสายการบินเอมิเรตส์ ก่อให้เกิดรายได้อย่างท่วมท้นเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งจำนวนผู้โดยสารของสายการบินก็เพิ่มสูงสุดเท่าที่เคยมีมาอีกด้วย
“เอมิเรตส์ยังคงมุ่งหน้าลบความเชื่อเดิมๆ เกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน ด้วยการเป็นแรงผลักดันให้มีการแข่งขันกันอย่างเปิดเผย เพื่อประโยชน์แก่ลูกค้าโดยตรง ลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินงานของเรา จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้โดยสารกว่า 31.4 ล้านที่เลือกเดินทางกับเราในปีที่ผ่านมา เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 14.5 หรือ 4 ล้านรายทีเดียว”
ในส่วนของรายจ่าย บริษัทชำระค่าตราสารหนี้ ซึ่งถึงกำหนดชำระคืนในวันที่ 24 มีนาคม 2554 เป็นมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ เป็นตราสารหนี้ที่ถูกจดทะเบียนกับลักเซมเบิร์ก สต็อก เอ็กเชนจ์ ในปี 2547 ตามสัญญา 7 ปี
รายงานผลประกอบการประจำปี 2553-2554 ของบริษัทในเครือเอมิเรตส์ ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า หลักการบริหารธุรกิจอย่างเปิดกว้างนำมาสู่ความสำเร็จ และการสร้างผลกำไรแก่บริษัทอย่างต่อเนื่อง
“การที่บริษัทมีทัศนคติที่เปิดรับไอเดียใหม่ๆ ช่วยให้บริษัท เรามีความได้เปรียบทางธุรกิจ ตราบใดที่เรามั่นใจว่าเรายังคงสร้าง ความประทับใจให้แก่ลูกค้า และสร้างแรงผลักดันให้กับพนักงาน นั่นเป็นเกณฑ์การประเมินความสำเร็จอย่างแท้จริง และสำหรับอนาคต เรายังยึดมั่นในกลยุทธ์เดิมในการลงทุนและให้ความสำคัญ ต่อกลุ่มลูกค้าหลัก เพื่อการเติบโตต่อไป เรามีความมุ่งหวังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับกรอบการแข่งขันในตลาดการบิน เพื่อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมโดยรวมและผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย”
รายได้ของสายการบินเอมิเรตส์เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นด้วยร้อยละ 25 จากปีก่อน เป็นมูลค่า 14.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ สายการบินได้สร้างผลกำไร 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 51.9 จากปีงบประมาณ 2552-2553 ซึ่งมีผลกำไรอยู่ที่ 964 ล้านเหรียญสหรัฐ
จำนวนที่นั่งภายในเครื่องบินในช่วงปีงบประมาณ 2553-2554 อยู่ที่ร้อยละ 80.0 นับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ และเนื่องด้วยการเพิ่มขึ้นของความจุภายในเครื่องบิน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 อยู่แล้ว สัดส่วนจำนวนที่นั่งที่เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ ถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ โดยรวมแล้ว จำนวนที่นั่งภายในเครื่องบินเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 หรือ 32,057 ตัน-กิโลเมตร
มูลค่าการจัดการของสายการบินอยู่ที่ 13.3 พันล้านเหรียญ สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 22.7 จากผลประกอบการประจำปี 2553-2554 ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และปริมาณกิจกรรมการปฏิบัติงานที่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงจำนวนบุคลากรที่มากขึ้น และค่าการจัดการต่างๆ อาทิ การจัดการต่างๆ ค่าใช้จ่ายระหว่างการบินและการบำรุงรักษาเครื่อง
ค่าน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 41.2 หรือ 4.6 พันล้านเหรียญ สหรัฐ ในช่วงปี 2553-2554 เป็นสาเหตุของค่าการจัดการของสายการบินร้อยละ 34.4 ใกล้เคียงกับตัวเลขที่สูงมากของปี 2551- 2552 ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลกระทบโดยตรงของราคาเฉลี่ยของน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นร้อยละ 26.5 ต่อแกลลอน (สหรัฐ) และปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามขนาดของตัวเครื่องบิน
ในปีที่ผ่านมา สายการบินได้เพิ่มการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส A380 จำนวน 32 ลำ เครื่องบินโบอิ้ง 777 300ER จำนวน 30 ลำ ทำให้จำนวนเครื่องบินทั้งหมดที่สายการบินเอมิเรตส์สั่งซื้อและรอการส่งมอบคิดเป็นมูลค่ารวม 13.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ และในช่วงสิ้นสุดปีงบประมาณสายการบินเอมิเรตส์มียอดสั่งจองเครื่องบิน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 193 ลำ รวมมูลค่าทั้งหมดประมาณ 66 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ปัจจุบันสายการบินมีเครื่องบินจำนวนทั้งสิ้นแล้วกว่า 148 ลำ และยังคงเป็นสายการบินที่ให้บริการเครื่องแอร์บัส A380 จำนวน 15 ลำและเครื่องบินโบอิ้ง 777s อีก 86 ลำ ซึ่งนับว่ามากที่สุดในโลกอีกด้วย
|
|
|
|
|