Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ กุมภาพันธ์ 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ กุมภาพันธ์ 2530
การ์เด้นโฮม วิลเลจ แยกกัน เฉลิมพลอยู่?             
 

   
related stories

เฉลิมพล-จิตรโภชนา ไม่ใช่หนึ่งเดียวอีกต่อไปแล้ว

   
www resources

โฮมเพจ ธนาคารทหารไทย

   
search resources

ธนาคารทหารไทย
Real Estate
อิตัลไทยกรุ๊ป
เฉลิมพล ชาญวิเศษ




คนรุ่นใหม่มีประสบการณ์ธุรกิจซึ่งได้รับความสำเร็จมาแล้ว มีความคิดสร้างสรรค์ชนิดหาที่ติไม่ได้ เฉลิมพล ชาญวิเศษ แห่งจิตรโภชนา กลุ่มอิตัลไทย กลุ่มกัมปนาทแสนยากรคือกลุ่มคนกลุ่มนั้นที่มาร่วมลงทุนสร้าง "เมืองอุทยาน" การ์เด้นโฮมวิลเลจ โครงการที่น่าจะไปโลด แต่แล้วความเก่ง ความสำเร็จจากหลายคนหลายประสบการณ์กลับกลายเป็น "ความขัดแย้ง" ที่ไม่อาจประสานอย่างไม่น่าเชื่อ!?

การ์เด้นโฮมวิลเลจ โครงการหมู่บ้านจัดสรรแนวใหม่-เมืองอุทยาน เป็นแห่งแรกของประเทศนี้ ผู้ประกอบการ-ผู้บริหารเรียกตัวเองว่า "กลุ่มหนุ่มนักสร้างสรรค์" แต่กลับทะเลาะกันอย่างหนัก และแตกหักอันเนื่องมาจากผลประโยชน์เฉพาะหน้า ในที่สุด เฉลิมพล ชาญวิเศษ พ่อค้าขายข้าวแกง เคยบริหารร้านจิตรโภชนาจนขึ้นชื่อลือชาซึ่งไม่ได้อยู่ในสายตาของบรรดานักธุรกิจหมู่บ้านจัดสรรเลย ต้องกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เพียงผู้เดียวในปัจจุบัน

ไม่หยุดแค่นั้น เฉลิมพล ชาญวิเศษ หรือที่ใคร ๆ เรียกเขาว่า เสี่ยอู๊ด ได้ประกาศโครงการใหม่ "อุทยานนคร" บนเนื้อที่ 7,000 ไร่ ย่านอำเภอองครักษ์ นครนายก ซึ่งเขากล้าพอจะบอกว่าขอเป็นเพียงผู้บริหารโครงการเท่านั้น

ประสบการณ์อันดุเดือดเลือดพล่านที่การ์เด้นโฮมวิลเลจ ช่างนำมาซึ่งความมั่นใจของเฉลิมพล ชาญวิเศษ เสียนี่กระไร

โครงการการ์เด้นโฮมวิลเลจ เริ่มต้นอย่างธรรมดาสามัญในสายตาของนายธนาคารบ้านเรา (แต่เป็นเรื่องแปลกพอประมาณในสายตาชาวบ้าน) คุณนายฉวีวรรณ สุทธิใหม่ ภรรยานายพลทหารอากาศคนหนึ่ง เธอเป็นนายหน้าค้าที่ดินและมีที่ดินจำนวน 370 ไร่ ติดจำนองไว้กับธนาคารทหารไทย ประกอบธุรกิจที่ดินในปี 2526 นั้นก็เรียกได้ว่าบูมได้ที่ การที่ธนาคารทหารไทยริอ่านหาผู้ลงทุนที่มีฝีมือด้านนี้มาลงทุนโดยที่โดดลงไปสนัสนุนทางการเงินอย่างเต็มที่จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผล

เพียงกะการณ์แค่นี้กำไรก็เห็นร่ำไรแล้ว!

ผ่านณรงค์ โชติเวช นักธุรกิจที่มีกิจการทางภาคเหนือและเป็นลูกค้าของธนาคารทหารไทย มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ "ผู้ใหญ่" ของธนาคารนี้ด้วย ผ่านณรงค์มีเพื่อนฝูงในวงการธุรกิจมากไม่ว่าสรรเสริญ ธีรสาส์น (ลูกเขยกำพล วัชรพล) ธานินทร์ ศรีอมร (ลูกเขยพลเอกยศ เทพหัสดินฯ) รวมทั้งเฉลิมพล ชาญวิเศษ ด้วย และจากนี้ก็ชักนำไปดึงกลุ่มกัมปนาทเสนยากรและกลุ่มอิตัลไทยได้

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นในสายตาของธนาคารทหารไทย

บริษัทการ์เด้นโฮม จำกัด ก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2526 ด้วยทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท ได้รับเงินกู้จากธนาคารไทยซื้อที่ดินของคุณนายฉวีวรรณ ราคา 110 ล้านบาท บริษัทนี้กลุ่มเฉลิมพล ชาญวิเศษถือหุ้นประมาณ 22.5% กัมปนาทแสนยากรประมาณ 20% อิตัลไทย โฮลดิ้งคัมปะนี 10% ส่วนที่เหลือคือพรรคพวกของผ่านณรงค์

และทันทีที่รวมตัวกันได้ พวกเขาก็ประกาศว่าตนเองคือ "กลุ่มหนุ่มนักสร้างสรรค์" พร้อมเผยแนวความคิดโครงการหมู่บ้านจัดสรรแนวใหม่ หรือที่เรียกกันว่า "เมืองอุทยาน" อันถือได้ว่าเป็น "ต้นแบบ" ของบ้านจัดสรรในลักษณะเดียวกันต่อ ๆ มา อาทิ ชวนชื่น ปาร์ควิลล์ เมืองเอก เป็นต้น ก็เดินตามแนวนี้

ที่สุดยอดก็คือพวกเขาฝันเฟื่องจะฟันกำไรถึง 500% เมื่อโครงการนี้ขายหมดสิ้นแล้ว

เฉลิมพล เป็นประธานกรรมการบริหารในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่รายหนึ่ง ในช่วงเวลานั้นเขาก็กำลังลุ้นโครงการโรงแรม "ปาร์ควิวโฮเต็ล" บนพื้นที่ชายธง 12 ไร่ติดกับจิตรโภชนา ปากทางลาดพร้าว หมายมั่นจะผงาดเผชิญหน้าโรงแรมไฮแอทเซ็นทรัลพลาซ่า เขาคิดว่าโครงการใหญ่นี้จะต้องลงทุนเป็นเงินถึง 390 ล้านบาท ในเวลานั้นเฉลิมพล ยังมีภาระในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทจิตรและบุตรเจ้าของจิตรโภชนาและกรรมการผู้จัดการบริษัทจิตรซัพพลายมีสินค้าสำคัญคือ ผลิตและส่งออกน้ำปลา

โครงการปาร์ควิวโฮเต็ล ต่อมากลายเป็นโรงแรมในฝัน เพราะไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนได้ ทั้งนักธุรกิจที่เคยรับปากกันไว้ก็ถอยฉากหนีหมด ข่าวว่ามีนักลงทุนญี่ปุ่นอยู่ด้วย หากกล่าวถึงสาเหตุใคร ๆ ก็ต้องอ้างปัจจัยภายนอกไว้ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการจำกัดสินเชื่อ 18% บวกกับอัตราดอกเบี้ยในระบบธนาคารพาณิชย์สูงลิ่วชนเพดาน 19% ขณะเดียวกันบริษัทจิตรซัพพลายก็ต้องมีอันเลิกกิจการส่งออกน้ำปลาเพราะเฉลิมพล ชาญวิเศษ มัวทุ่มเทกับงานการ์เด้นโฮมวิลเลจ จนไม่มีเวลาดูแล ลูกน้องที่ส่งมาดูแลก็มีปัญหา ถึงกับฟ้องร้องเรียกเงินนับสิบล้านบาท

จริง ๆ แล้วตอนนั้นเฉลิมพล ชาญวิเศษ ยังไม่ได้โดดลงเต็มตัวเช่นทุกวันนี้

การก่อตัวของการ์เด้นโฮมวิลเลจ ผู้มีบทบาทจริง ๆ มี 4 กลุ่ม ผ่านณรงค์ เฉลิมพล อิตัลไทย และกัมปนาทแสนยากร (ซึ่งมีกิจการบริษัทยิบซั่ม อินเตอร์เนชั่นแนล ผลิตยิบซั่มบอร์ดรวมอยู่ด้วย) และการประกาศโชว์กลุ่มผู้ถือหุ้นที่เป็นนักธุรกิจมีชื่อเสียงแขนงต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นภาพที่ดีแก่คนทั่วไป แต่เบื้องหลังการร่วมทุนครั้งนี้มีเงื่อนไขสำคัญหลายประการ เริ่มตั้งแต่การแบ่งปันผลประโยชน์เฉพาะหน้า ไปจนถึงความฝันเฟื่องจะฟันกำไร 500%

เงื่อนไขประการแรกก็คือ ผ่านณรงค์ โชติเวช ซึ่งเป็น "ตัวกลาง" ตกลงกับฝ่ายกัมปนาทแสนยากรและอิตัลไทย จะให้ 2 กลุ่มรับผิดชอบการก่อสร้างบ้านระบบ ทีจีรอนโด มันมีเหตุผลในตัวเองตรงที่กัมปนาทแสนยากรจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้างและอิตัลไทยได้ชื่อว่าเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างครอบจักรวาล ว่ากันว่าเฉพาะการก่อสร้างอาคารระบบนี้ต้องใช้เงินถึง 250 ล้านบาท

ส่วนผ่านณรงค์และเฉลิมพล รับงานการถมที่ 370 ไร่ ซึ่งกะไว้ว่าต้องใช้ดินถึง 5 แสนคิว ผู้รู้กล่าวว่า เฉพาะหักค่าหัวคิวตรงนี้ก็ได้เงินหลายล้านบาทแล้ว

ศึกยกแรกของผู้ประกอบการชุดนี้เกิดจากปมเงื่อนตรงนี้นั่นเอง

เริ่มด้วยความเห็นไม่ตรงกันเรื่องระบบการก่อสร้างที่เรียกว่าทีจีรอนโด ผู้สันทัดกรณีเล่าว่า แท้ที่จริงการก่อสร้างระบบนี้ต้องใช้โครงสร้างเหล็ก แต่ที่การ์เด้นโฮมวิลเลจเป็นเพียงโครงสร้างอลูมิเนียมที่พับได้คล้าย ๆ สังกะสี ไม่เสริมคอนกรีต แต่ใช้ยิบซั่มปะเข้าไปแทน เหมือนบ้านกระดาษอย่างไงอย่างงั้น

"ฝ่ายเสนอโครงการก่อสร้างบ้านแบบนี้คือ อิตัลไทย และกัมปนาทแสนยากรนั้นได้ประโยชน์จากการขยายสินค้า ชนิดเอาเงินออกจากกระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา ลองคำนวณง่าย ๆ ทั้งโครงการมีบ้าน 700 หลัง ราคาก่อสร้างทั้งหมดประมาณ 3-4 แสนบาท ก็ประมาณ 250 ล้านบาท กำไรแค่ 10% ก็ 25 ล้านบาทเข้าไปแล้ว" อดีตผู้จัดการฝ่ายการตลาดคนหนึ่งของการ์เด้นโฮมบอก "ผู้จัดการ"

หัวหอกของผู้คัดค้านก็คือ เฉลิมพล ชาญวิเศษ ซึ่งแน่นอนย่อมรวมไปถึงธานินทร์ ศรีอมร สรรเสริญ ธีรสาส์น และผ่านณรงค์โชติเวช เองก็ต้องอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย บ้านตัวอย่างที่สร้างด้วยระบบทีจีรอนโด ยังไม่ทันเสร็จดี ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ก็โหวตไม่เห็นด้วยกับการสร้างด้วยวิธีนี้ ต่อมาบ้านตัวอย่างเหล่านั้นก็ต้องทุบทิ้ง

เหตุการณ์ตอนี้เข้าทำนองขิงก็ราข่าก็แรง ชูชีพ ศิลปรัตน์ อดีตผู้อำนวยการเขตบางเขน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เขาเข้ามาถือหุ้นในบริษัทการ์เด้นโฮมวิลเลจโดยยืนอยู่กับกลุ่มกัมปนาทแสนยากร ได้ออกโรงโจมตีผ่านณรงค์และเฉลิมพล ซึ่งรับผิดชอบถมหน้าดิน ดำเนินการไปแล้วกว่า 10% ชูชีพยกเอากรณีน้ำท่วมถนนพหลโยธินจนปริ่มพื้นที่โครงการการ์เด้นโฮมวิลเลจ (ที่ถมที่แล้ว) ขึ้นมาอ้าง

การทะเลาะเบาะแว้งระหว่างผู้ถือหุ้นการ์เด้นโฮมนี้ คนที่หนักใจที่สุดกลับเป็นธนาคารทหารไทย ผู้ต้นคิดสนับสนุนและรู้ความเป็นไปของโครงการนี้มาตลอด อดรนทนไม่ได้จึงได้เข้ามาไกล่เกลี่ย โดยเสนอให้คนนอกมารับเหมาถมที่ดินแทน เป็นอันว่าไม่มีใครได้ใครเสียนั่นเอง หรืออีกความหมายหนึ่งคือเสียทั่งคู่

แต่ทว่ารอยร้าวมันยากจะประสานเสียแล้ว

วันที่ 6 ตุลาคม 2527 ที่ห้องจิตรนภา ห้องอาหารจิตรโภชนา ลาดพร้าว บริษัทการ์เด้นโฮมเปิดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของบริษัท กล่าวคือกลุ่มกัมปนาทแสนยากร และอิตัลไทยได้ถอนตัวออกไปรวมทั้งชูชีพ ศิลปรัตน์ด้วย เฉลิมพลตกกระไดพลอยโจนเข้ารับซื้อหุ้นส่วนนี้เข้ามาถือ

เฉลิมพล จากตำแหน่งประธานก็แทนที่ด้วย พลอากาศเอกอัมพร คอนดีเพื่อนรุ่นเดียวกับพลเอกประยุทธ จารุมณี ประธานกรรมการธนาคารทหารไทยเข้ามารับตำแหน่งแทน โดยเข้าเป็นกรรมการผู้จัดการโดดลงมาคุมงานอย่างเต็มตัว พลเอกยศ เทพหัสดิน อยุธยา (พ่อตาธานินทร์ ศรีอมร) เข้าเป็นกรรมการ รวมทั้ง "เสธแฮ็งค์" พีรพงษ์ สรรพากษ์พิสุทธิ์ รวมอยู่ด้วย

เป็นที่รู้กันว่าธนาคารทหารไทยอีกนั่นแหละที่สนับสนุนเฉลิมพล ให้กู้เงินซื้อหุ้นครั้งนี้ โดยเฉลิมพลนำที่ดินของตระกูลเข้าค้ำ สำหรับสนนราคาค่าหุ้นนั้นเขาต้องใจป้ำซื้อในราคาประมาณ 250 บาท/หุ้น เป็นอันว่าครอบครัวชาญวิเศษเข้าถือหุ้นบริษัทการ์เด้นโฮมแล้วเกือบ 60%

"ความจริงคุณเฉลิมพลเป็นลูกค้าแบงก์ทหารไทยตลอดมา แม้ซื้อที่ชายธงปากทางลาดพร้าว สำหรับโครงการปาร์ควิวนั้น เข้ากู้เงินจากแบงก์ทหารไทยด้วย"

ปลายปี 2527 นั่นเองที่มีการลดค่าเงินบาท บริษัทการ์เด้นโฮมเจ็บตัวพอสมควร เพราะกู้เงินตราต่างประเทศประมาณ 60 ล้านบาท ประกอบกับโครงการก่อสร้างก็ไม่คืบหน้าเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากขัดจังหวะจากการทะเลาะกันแล้ว สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย ครอบครัวชาญวิเศษ เลยปริวิตกกันว่า หากเมื่อเฉลิมพล ชาญวิเศษ โดดลงเล่นธุรกิจที่ดินอย่างเต็มตัวเช่นนี้ คงไม่มีเวลาพอจะมาดูแลกิจการร้านอาหารของครอบครัว มิหนำซ้ำอาจจะพาธุรกิจดั้งเดิมของครอบครัวซวนเซไปด้วย

ในต้นปี 2528 ครอบครัวชาญวิเศษจึงแบ่งสมบัติกัน เฉลิมพล ถูกจัดวางบทบาทที่ไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจขายอาหารอีกต่อไป ว่ากันว่าเขาเองก็ไม่พอใจนักในเรื่องนี้ จากจุดนี้เองไม่นานเข้าจึงพาภรรยาไปเช่าที่ของ "กมลสุโกศล" เป็นเวลา 5 ปี เปิดร้าน….. เชิงสะพานกรุงธน ฝั่งกรุงเทพฯ ชื่อ บ้านคุณหลวง"

ในเวลานั้นเฉลิมพล กับฝ่ายผ่านณรงค์ โชติเวช ได้จัดสรรอำนาจกันใหม่ เฉลิมพลคุมกิจการบริษัทการ์เด้นโฮม รับผิดชอบการขายบ้านและที่ดินของโครงการ ส่วนผ่านณรงค์คุมบริษัทการ์เด้นโฮมค้าวัสดุและก่อสร้าง ซึ่งเป็นผู้จัดวัสดุ อุปกรณ์สนับสนุนการก่อสร้างโครงการ

แม้ผ่านณรงค์เองจะมีหุ้นในบริษัทการ์เด้นโฮมไม่มากนัก แต่เขาได้แรงหนุนอย่างเต็มที่จากสรรเสริญ ธีรสาส์น และธานินทร์ ศรีอมร เสียงของเขาจึงดังและเป็นอำนาจที่เข้ามาคานเฉลิมพลอย่างช่วยไม่ได้

ในเวลานั้นที่เฉลิมพล เข้าลงทุนร้านอาหาร "บ้านคุณหลวง" ผ่านณรงค์ก็กำลังลุ้นตัวโก่งในการก่อสร้างโครงการนานาแมนชั่น โดยที่เขาทั้งสองได้นำงเนจากการสนับสนุนโครงการการ์เด้นโฮมวิลเลจโดยธนาคารไทยออกไปหมุนใช้กันอุตลุด

เรียกได้ว่า ในปี 2529 นั้นการ์เด้นโฮมวิลเลจแทบจะไม่ได้ขายบ้านและที่ดินกันเลย คนที่เคยจองกันมากมายเมื่อวันเปิดโครงการก็หนีหน้าไปไม่น้อย

ณ สิ้นปี 2528 บริษัทการ์เด้นโฮมมีสินค้าคงเหลือ (บ้านและที่ดินขายไม่ออก) 313 ล้านบาท จากจำนวนสินทรัพย์ทั้งหมด 326,146,481.03 บาท ในขณะที่หนี้สินทั้งหมด 355,471,825.47 บาท มียอดขาดทุนสะสม 69 ล้านบาท (ตามงบการเงินแจ้งกระทรวงพาณิชย์)

ตอนนี้เฉลิมพลกับผ่านณรงค์ก็เริ่มปีนเกลียวกันและต่อเนื่องมาเมืองอุทยานการ์เด้นโฮมวิลเลจขายออกอย่างฝืดต้องเปลี่ยนยุทธวิธีการขายเป็นการขายที่ดินอย่างเดียวได้

ขณะเดียวกันเฉลิมพล ชาญวิเศษก็สวมวิญญาณพ่อค้าขายข้าวแกงบริหารงานแบบรวบอำนาจต่อไป ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเปลี่ยนคนแล้วคนเล่า

ในเดือนพฤศจิกายน 2529 หน้า 4 ไทยรัฐประกาศหาตัว เฉลิมพล โดยบอกว่า ให้มาพบกับสรรเสริญ ธีรสาส์น โดยด่วน ในเวลาเดียวกันนั้นเองมีข่าวว่า ธนาคารทหารไทยจะเข้า "เทคโอเวอร์" การ์เด้นโฮมวิลเลจ และเฉลิมพล ชาญวิเศษ ก็ล่องหาคนส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าเขาไปไหน

แท้จริงความเคลื่อนไหวระดับลึกก็คือธนาคารไทยเสนอให้บริษัทการ์เด้นโฮมเพิ่มทุนเท่าตัวจาก 40 ล้านบาท เป็น 80 ล้านบาท พร้อม ๆ กับการที่พลอากาศเอกอัมพร คอนดี ประธานบริษัทการ์เด้นโฮมออกมาแถลงข่าวว่าบริษัทได้เพิ่มทุนเรียบร้อยแล้ว

ถึงตอนนี้ยืนยันกันว่า เฉลิมพล ชาญวิเศษ ได้เพิ่มสัดส่วนของตนเองเป็น 80% แล้ว ไม่มีฝ่ายของผ่านณรงค์ในกรรมการอีกแล้ว

และแน่นอนธนาคารทหารไทยก็เข้ามีส่วนต่อไป เฉลิมพล ชาญวิเศษ นำที่ดินชายธงปากทางลาดพร้าวที่กะไว้ว่าจะสร้างปาร์ควิวโฮเต็ลขายให้ธนาคารทหารไทยในราคาประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินติดจำนองอยู่ก่อนแล้ว ทั้งยังเสนอขายที่ดินส่วนหน้าติดถนนพหลโยธินจำนวน 60 ไร่ แก่กลุ่มเซ็นทรัลในราคาประมาณ 135 ล้านบาท และดูเหมือนเซ็นทรัลพอใจกับทำเลพอสมควร

ท่ามกลางข่าวร้ายปกคลุมโครงการการ์เด้นโฮมวิลเลจ เฉลิมพล ชาญวิเศษถือฤกษ์วันลอยกระทง 15 พฤศจิกายน 2529 เข้าพิธีบวชครั้งที่ 2 มีผู้ใกล้ชิดร่วมงานนี้ 6-7 คน ที่วัดโพธิสมพร จังหวัดอุดรธานี แล้วมาจำพรรษาที่วัดป่าบ้านตาด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม เขาสึกพร้อมกับการเดินทางไปเยี่ยมพระเทพที่วัดหินหมากเป้ง อ. ศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย และเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ก็มานั่งทำงานที่การ์เด้นโฮมวิลเลจ

"คุณเฉลิมพล แกสบายใจแล้ว หลายอย่างปัญหาต่าง ๆ ก็เริ่มดีขึ้น การบวชคงเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นปัญหาหนัก ๆ ที่ได้ลุล่วงไปแล้ว" พลอากาศเอกอัมพร คอนดี ตอบแทนเฉลิมพลกับ "ผู้จัดการ"

เริ่มศักราชใหม่การ์เด้นโฮมวิลเลจที่ดำเนินธุรกิจขายบ้านที่ดินต่อไป แม้จะถูกประทีบ ตั้งมติธรรม เจ้าของโครงการชวนชื่นปาร์ควิว (แนวความคิดเมืองอุทยานเหมือนกัน) ปรามาสว่า หากเป็นมืออาชีพแล้ว ภายใน 3 ปีก็สามารถเปิดโครงการได้

แต่การ์เด้นโฮมเดินโครงการมากว่า 4 ปีแล้ว พลอากาศเอกอัมพร คอนดี บอกว่าเหลือเพียง 180 แปลง (ที่ดิน) หรือประมาณ 20% ของทั้งโครงการ

สำหรับ เฉลิมพล ชาญวิเศษ ผู้ผ่านทางโลกและทางธรรมมาอย่างโชกโชนแล้ว คงไม่เหลือบ่ากว่าแรง!?!?!

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us