“เซเว่นอีเลฟเว่น” ฟันธง อีก2ปี เซเว่นฯครบ 7,000 สาขา อัดงบลงทุนปีละ 1,500 ล้านบาท พร้อมตั้งแผนรับการเปลี่ยนแปลงของโลก เชื่อใน10ปี ชนชั้นเกษตรกร ก้าวสู่ความเป็นลูกค้าเซเว่นฯมากขึ้น เหตุผลผลิตทางการเกษตรได้ราคา เกษตรกรก้าวสู่ชนชั้นกลาง พร้อมนำเสนอรัฐบาลผลักดันค้าปลีกให้เกิดการแข่งขันอย่างสมบูรณ์มากขึ้น
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในช่วง10ปีที่ผ่านมา สำหรับเซเว่นฯเรามีการปรับตัวรองรับ พร้อมมองหานวัตกรรมใหม่ๆเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันธุรกิจค้าปลีกจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น การที่บิ๊กซีควบรวมคาร์ฟูร์ มองว่าไม่ส่งผลกระทบกับเรา เพราะถือเป็นคู่แข่งทางอ้อม
ส่วนการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ครั้งใหม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นพรรคใดเข้ามาเป็นรัฐบาลต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ที่เข้ามาบริหารประเทศให้ความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกมากยิ่งขึ้น ต้องการให้มาแก้ไขปรับปรุงราคาสินค้าให้มีความเป็นธรรม ให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ พร้อมส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ให้ทุกแบรนด์ทุกธุรกิจเข้ามาแข่งขันกัน เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นสูงสุดตามมา
นายปิยะวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับแผนลงทุนของเซเว่นฯ ในอีก 2 ปีข้างหน้านี้ มั่นใจว่าจะมีจำนวนสาขาครบ 7,000 สาขา ตามแผนที่วางไว้ โดยในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 6,300 สาขา จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 6,000 สาขา ตามแผนการลงทุนปีนี้ จะเปิดเพิ่ม 500 สาขา ใช้งบลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาท และอีก 2 ปีหลังจากนี้จะเปิดเพิ่มในระดับเดียวกันหรือต้องลงทุนอีกปีละ 1,500 ล้านบาทเท่าๆกัน
ขณะที่การเติบโตของสาขาเดิมนั้นมีประมาณ 5% ส่วนการลงทุนด้านคลังสินค้าปีนี้จะเพิ่มอีก 2 แห่งคือ ภาคใต้ และภาคเหนือ ที่จังหวัดลำพูน โดยต่อแห่งลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท
ทั้งนี้มองว่าในอีก 10 ปีจากนี้ตลาดรวมร้านสะดวกซื้อจะเพิ่มขึ้นถึง 50,000-60,000 ร้านค้า จากปัจจุบันมีอยู่กว่า 10,000 ร้านค้า การเติบโตดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน เช่น การที่กลุ่มคนชนชั้นเกษตรกรก้าวสู่ชนชั้นกลาง มีรายได้สูงขึ้น จากผลผลิตทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น และการที่เอเชียก้าวสู่แห่งยุคสมัยแห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจเพราะจะมีการลงทุนเข้ามาสูงทั้งจากฝั่งอเมริกา ยุโรป รวมถึงประเทศจีนและญี่ปุ่นที่ประกาศที่จะมีการลงทุนนอกประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความเจริญตามมา พร้อมส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป มีไลฟ์สไตล์ในการเข้าถึงห้างค้าปลีก และต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของเซเว่นฯพร้อมวางแผนรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอยู่ก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบุคลากร มีการปูทางเตรียมพร้อมผ่านทางสถาบันปัญญาภิวัฒน์ และการผสมผสานสินค้าใหม่ๆทดแทนสินค้าเก่าที่ไม่ได้รับความนิยม รวมถึงเพิ่มสินค้าใหม่ที่ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ เบเกอรี่อบสดวันต่อวันและกาแฟสด ผลไม้ปั่น รวมถึงอาหารชิลล์ฟู้ด เป็นต้น มั่นใจว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ยอดขายต่อสาขาเติบโตขึ้นได้
|