เคยูบีใส่เกียร์ห้า เร่งเอแอนด์ดับบลิวไทย เตรียมงบ 1,000 ล้านบาท ใช้ลงทุน 4 ปีนี้ถึงปี 2558 หวังครบ 100 สาขา พร้อมเล็งขอสิทธิ์เพิ่มในเอเชีย
นางสาวฮานิซา โรส นาซารูด์ดิน ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท เคยูบี มาเลเซีย เบอร์ฮารด์ จากประเทศมาเลเซีย ผู้ถือสิทธิ์บริหารร้านเอแอนด์ดับบลิวในมาเลเซียและไทย ของบริษัทยัม เรสเตอรองต์ส เปิดเผยว่า บริษัทฯวางแผนระยะยาวถึงปี 2015 (ปี2558) จะเปิดร้านเอแอนด์ดับบลิวในไทยให้ครบ 100 สาขา และในมาเลเซีย 100 สาขาเช่นกัน ซึ่งจะหมดสัญญาไลเซ่นส์ในปีนั้นพอดี แต่ก็สามารถต่อสัญญาได้อีก หลังจากที่ทำมาตั้งแต่ปี 2002 รวมทั้งมีความสนใจที่จะขอสิทธิ์เพิ่มเติมในประเทศอื่นจากบริษัทยัมฯซึ่งได้มีการเจรจากันบ้างแล้ว เช่น บรูไน สิงคโปร์ เป็นต้น
ทั้งนี้แผนลงทุนในไทยจะต้องใช้งบลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทจากนี้ เปิดสาขาให้ครบ 100 แห่ง จากปัจจุบันมีสาขาแล้ว 41 แห่ง (ในปั๊ม 24 แห่ง และในห้าง 17 แห่ง แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 80% และ ต่างจังหวัด 20%) โดยปีนี้วางแผนเปิดประมาณ 5 สาขา ลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อสาขา และจะรีโนเวทสาขาเดิมอีก 5 สาขา ลงทุน 10 ล้านบาทต่อสาขา รวมทั้งจะใช้งบการตลาดอีก 50 ล้านบาท รวมเป็นงบลงทุนปีนี้กว่า 150 ล้านบาท
“ทำเลที่จะเปิดใหม่จะขยายนอกปั๊มมากขึ้น ตอนนี้มีในปั๊มทั้งปตท. เชลล์ ปิโตรนาส ซึ่งปีนี้ที่แล้วเราก็เปิดในห้างและต่างจังหวัดมากขึ้นเช่นกัน ประมาณ 9 สาขา เช่น พาราไดซ์พาร์ค ซีคอนสแควร์ อยุธยา ระยอง ชลบุรี สมุทรสาคร ซึ่งปีที่แล้วตั้งใจจะขยายมากกว่านี้แต่ติดปัญหาความไม่สงบทางการเมือง ซึ่งที่เซ็นทรัลเวิลด์ก็ต้องเลื่อนออกไปจากปีที่แล้วตอนนี้กำลังหาทำเลใหม่อยู่”
ขณะเดียวกันจะขยายฐานกลุ่มเป้าหมายไปยังอายุ 20 ปีขึ้นไป ปัจจุบันมีสัดส่วน 30% จากเดิมกลุ่มเป้าหมายจะมีอายุ 30-40 ปีขึ้นไปแล้ว ล่าสุดจัดเอแอนด์ดับบลิวรูทเบียร์เฟสติวัล 2011 เป็นครั้งแรกในขณะที่มาเลเซียยังไม่เคยจัด ส่วนทั้งปีมีแผนกระตุ้นตลาดต่อเนื่องทำทั้งสื่อทีวี วิทยุ กิจกรรม หนังโฆษณา เพื่อเจาะกลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่โดยเฉพาะ
บริษัทฯมั่นใจว่าปีนี้จะมีผลประกอบการเติบโต 30% ส่วนปีที่แล้วเติบโต 10% จากยอดรายได้รวม 300 ล้านบาท โดย 4 เดือนแรกเติบโต 30% และมั่นใจว่า ภายในปี 2558 จะมีรายได้เพิ่มขึ้น 300% หรือประมาณ 1,000 ล้านบาท
สำหรับบริษัท เคยูบีฯนี้ เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมปะนีของมาเลเซีย มีธุรกิจหลากหลายเช่น อาหาร ไอที โรงงานน้ำมันปาล์ม บริษัทก่อสร้าง มียอดขายรวมทั้งกลุ่มประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนในประเทศมาเลเซียนั้น คาดว่าจะมียอดขายทะลุ 2,000 ล้านบาทในปี 2558 หลังจากที่มีสาขาครบ 100 แห่งแล้ว ปัจจุบันมีรายได้มากกว่าไทย 2 เท่าตัว
|