ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2525 ว่าสวนสยามจะขาดทุนต่อไปอีก
5 ปี จากนั้นแต่ละปีจะพอคุ้มทุน และปีนี้ 2530 จะเป็นปีแรกที่สวนสยามจะดำเนินกิจการได้คุ้มทุนตามที่ไชยวัฒน์คาดหวังไว้
ซึ่งก็น่าจะเป็นเช่นนั้นถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรพลิกล็อคขึ้นมา...
จะว่าไปเมื่อเริ่มสร้างตัวและทำธุรกิจบ้านจัดสรรและที่ดิน ไชยวัฒน์ออกจะเป็นคนที่โชคดีและทำอะไรถูกจังหวะเสมอ
แต่สำหรับสวนสยามแล้วบ่อยครั้งที่โอกาส และจังหวะของไชยวัฒน์ถูกลบเลือนลงด้วยสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงหรือปัจจัยที่ควบคุมไม่ถึงหรือปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
รวมทั้งโอกาสที่ปี 2530 จะเป็นปีแรกที่จะคุ้มทุนด้วย เพราะปีนี้มีสวนน้ำและสวนสนุกที่เปรียบเสมือนสวนสยามขยาดย่อมชื่อ
"โอเชี่ยนเวิลด์" เกิดขึ้น !
ก่อนหน้านี้ไชยวัฒน์เคยพูดถึงคู่แข่งของสวนสยามว่าอะไรก็ตามที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจคือคู่แข่งของสวนสยามทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นสวนลุมฯ สวนจตุจักร สนามหลวง สถานที่ที่ไปแล้วปูเสื่อนั่งเล่นได้
หรือภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ หนังวิดีโอที่นั่งดูกันในบ้านก็ใช่ทั้งนั้น
แต่สำหรับสวนสนุกและแหล่งพาผ่อนหย่อนใจที่ต้องเสียเงินค่าบริการด้วยกันแล้วคู่แข่งที่เกิดขึ้นมาประจันหน้ากันจะจะกับสวนสยามยังไม่มี
แดนเนรมิตเป็นเพียงสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นให้สนุกสนานเท่านั้น สวนน้ำพัทยาปาร์คมีสไลเดอร์ให้เล่นน้ำเพียงอย่างเดียว
ไชยวัฒน์จึงไม่เคยกังวลใจเกี่ยวกับคู่แข่งโดยตรงเลยแม้สักนิด
แต่วันนี้โอเชี่ยนเวิลด์ทำให้ไชยวัฒน์ต้องครุ่นคิดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะโอเชี่ยนเวิลด์ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท
ไทยดัชนั้น มีหน้าตาคล้ายคลึงกับสวนสยามอย่างกับแพะกับแกะคือมีทั้งสวนสนุกและสวนน้ำ
แถมยังได้บรรยากาศทะเลจริง ๆ บวกเข้าไปอีก เพราะตั้งอยู่ริมหาดบางแสนบนเนื้อที่ประมาณ
26 ไร่ ขณะนี้ลงทุนไปแล้วประมาณ 170 ล้านบาท โดยมีอาภรณ์ กิตติพราภรณ์ เป็นหัวเรือใหญ่
อาภรณ์เป็นน้องสาวของสมชาย กิตติพราภรณ์ เจ้าของโรงภาพยนตร์เครือโคลีเซี่ยม
(โคลีเซี่ยม, ฮอลีวู้ด, พาราเมาท์, ปารีส, โคลัมเบีย) และพัณนิน กิตติพราภรณ์
แห่งแดนเนรมิต ขณะนี้อายุ 34 ปีจบบริหารธุรกิจจากอเมริกา เมื่อเรียนจบก็กลับมาช่วยงานที่แดนเนรมิตตั้งแต่เปิดดำเนินงานเมื่อปี
2519 เรื่อยมา
และเมื่อ 2 ปีที่แล้วได้ก่อตั้งบริษัทไทยดัชขึ้น ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
(ปัจจุบันเพิ่มเป็น 7 ล้านบาท หุ้น 80% เป็นของ "กิตติพราภรณ์")
เพื่อเป็นบริษัทตัวแทนสั่งเข้าอุปกรณ์เครื่องเล่นสวนสนุกจากยุโรปเช่นอิตาลี
เนเธอร์แลนด์ เยอรมัน มาป้อนให้กับแดนเนรมิตโดยเฉพาะและว่ากันว่าไทยดัชเคยติดต่อขายเครื่องเล่นบางตัวให้สวนสยามและถูกปฏิเสธมาแล้ว
จากประสบการณ์ทำสวนสนุกมาก10 ปีของอาภรณ์ ประกอบกับความพร้อมทางด้านซัพพลาย
เครื่องเล่นสวนสนุกที่ผ่านทางบริษัทไทดัช และแนวโน้มการท่องเที่ยวทางภาคตะวันออกจะบูมอีกมาไม่ว่าจะเป็นพัทยา
ระยอง จันทบุรี ซึ่งต้องผ่านบางแสนทั้งสิ้น รวมทั้งได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจภาคตะวันออกชื่อดังคือ
โฆษิต สุวินิจจิต (ขณะนี้เป็นกรรมการรองผู้จัดการไทยดัช) ซึ่งเป็นคนสำคัญที่ทำให้การดำเนินงานที่บางแสนเป็นไปด้วยดี
ทำให้โอเชี่ยนเวิลด์เปิดตัวเป็นแหล่งพักผ่อนเชิงธุรกิจอย่างชัดเจนมีความพร้อมทั้งทางด้านเทคนิค
การเงิน และการตลาด ที่ใคร ๆ อยากไปเยี่ยมเยือน
โอเชี่ยนเวิลด์เปิดบริการตั้งแต่ปลายปี 2529 ทั้งที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
และคาดว่าทุกอย่างจะพร้อมภายในเดือนเมษายนนี้ โดยมีสวนน้ำที่มีสไลเดอร์ที่สูงที่สุดในประเทศ
มีสวนสนุกที่มีเครื่องเล่นหลากชนิด มี BOOK CENTER และสวนหย่อมสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ
ถึงแม้ขณะนี้ยังมีหลายส่วนที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ตามแต่โอเชี่ยนเวิลด์ก็ใช้ยุทธวิธีรุกพร้อมกันหลายอย่าง
ทางด้านเทคนิค โอเชี่ยนเวิลด์มีช่างเทคนิคจากเยอรมันมาคอยดูแลเครื่องเล่น
สไลเดอร์ และสวนน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อความพร้อมทางด้านบริการไม่ให้ขาดตกบกพร่อง
ล่าสุดยอมลงทุนช่วยสุขาภิบาลบางแสนปรับที่จอดรถที่เคยจอดได้ 100 กว่าคันให้เป็น
500 คัน
และทางด้านการตลาดได้มีการร่วมกับบริษัททัวร์ต่าง ๆ กว่า 200 แห่งทั้งในและนอกประเทศเพื่อนำเที่ยวโอเชี่ยนเวิลด์
ทางด้านโฆษณาก็ให้ฟาร์อีสเอ็ดเวอร์ไทซิ่งที่เคยทำให้แดนเนรมิตประสบความสำเร็จมาแล้วรับผิดชอบ
ในช่วงแรกนี้เฉพาะงบโฆษณาทางโทรทัศน์ทุ่มไปถึง 10 ล้านบาท ทั้งนี้ยังไม่รวมงบในสื่ออื่น
ๆ ที่จะวางแผนต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายในปี 2530 ให้มีคนเข้าเที่ยวโอเชี่ยนเวิลด์ให้ได้ถึง
1 ล้านคน
ขณะเดียวกันทางสวนสยามก็ตั้งเป้าไว้ว่าในปีนี้จะมีคนมาเที่ยว 2 ล้านคน
ถึงกับยอมควักกระเป๋าเกือบ 20 ล้านบาทให้ลินตัสทำโฆษณาให้หลังจากที่ทำเองมาหลายปี
ด้วยหวังว่าปีท่องเที่ยวไทยจะเป็นปีทองที่ทำให้สวนสยามดำเนินกิจการได้คุ้มทุนเป็นปีแรก
"ต้องขอชมเชยว่าโอเชี่ยนเวิลด์เขาทำแบบธุรกิจ คือทำเล็ก ๆ คนไปเที่ยวแล้วออกมาเร็ว
ค่าใช้จ่ายมันคุ้มกับรายได้ก็คงจะดี" ไชยวัฒน์ กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
ถึงโอเชี่ยนเวิลด์ซึ่งเปิดตัวอย่างสง่าผ่าเผยและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงแต่โอเชี่ยนเวิลด์ที่บางแสนเพียงแห่งเดียวโครงการขยายสาขาที่ใกล้กรุงเทพฯ
เข้ามาถึงจะไม่มีภายในปีนี้ แต่ในปีต่อ ๆ ไปผู้บริหารไทยดัชไม่มีทีท่าว่าจะปฏิเสธ
สำหรับสวนสยามแล้วคงไม่มีการขยายสาขาอะไรอีกและคงต้องต่อสู้กับภาวะการขาดทุนสะสมต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในปีนี้สามารถดึงคนเข้ามาเที่ยวได้ตามเป้าที่วางไว้
เพราะโอเชี่ยนเวิลด์จะเป็นอีกตัวแปรหนึ่งซึ่งมาดึงคนบางส่วนที่จะมาเที่ยวสวนสยามไป
"ถึงอย่างไรก็ต้องทำต่อสวนสยามเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของผม เป็นสิ่งที่ผมและประเทศชาติควรภูมิใจ"
ไชยวัฒน์ เหลืองอมรเลิศ คนทำธุรกิจที่ดินมา 20 ปี ทำสวนสยามมา 7 ปี กล่าวเมื่ออายุ
49 กับ "ผู้จัดการ" ด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้ง
เช่นเดียวกัน อาภรณ์ กิตติพราภรณ์ คนที่คลุกคลีกับกิจการสวนสนุกมา 10 ปี
และเพิ่งเริ่มทำโอเชี่ยนเวิลด์เป็นปีแรกเมื่ออายุ 34 กล่าวอย่างมาดมั่นว่า
"โอเชี่ยนเวิลด์เป็นงานที่ภูมิใจที่สุดในชีวิต และต้องทำให้ดีที่สุด"