เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา สตาร์บัคส์เริ่มแคมเปญสำหรับช่วงฤดูร้อน ด้วยการเปิดแคมเปญ 10 วันของการเฉลิมฉลองแฟรปปูชิโน่ ในชื่อของ “Frappuccino Happy Hours” ระหว่างเวลา 15.00-17.00 น.

ประเด็นสำคัญของการออกแคมเปญนี้ ได้แก่ ประการแรก ในช่วงเวลาดังกล่าวเครื่องดื่มกาแฟแฟรปปูชิโน่เย็น ที่เสิร์ฟแก่ลูกค้าที่สั่งซื้อจากร้านสตาร์บัคส์ จะขายในราคาครึ่งเดียวของราคาปรกติ เพื่อกระตุ้นให้ยอดการจำหน่ายเครื่องดื่มเย็นในช่วงบ่ายดีขึ้น พร้อมถือโอกาสนี้นำส่วนผสมที่ให้รสชาติจัดจ้านขึ้นกลับมาสร้างความสนใจให้กับลูกค้าของสตาร์บัคส์

ประการที่สอง สตาร์บัคส์ตั้งใจจะโปรโมตและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มประเภทแฟรปปูชิโน่ในยามบ่ายเป็นประจำวัน เพื่อให้ลูกค้าของเครื่องดื่มประเภทนี้เป็นลูกค้าถาวร แทนที่จะเป็นขาจร โดยอาศัยสภาพอากาศที่กำลังร้อนขึ้น เวลาช่วงกลางวันที่ยาวนานขึ้นก่อนพระอาทิตย์ตกมาเป็นแรงจูงใจลูกค้า ให้เริ่มเวลาอาหารเย็นช้าออกไปมากขึ้น

ประการที่สาม ราคาขาย 2 ดอลลาร์สำหรับเครื่องดื่มกาแฟแฟรปปูชิโน่ แฮปปี้ อาวร์ คาดว่าจะทำให้สตาร์บัคส์มีรายได้ราว 400-500 ดอลลาร์ต่อคน สำหรับพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มสำหรับหน้าร้อน

แคมเปญแฮปปี้ อาวร์ นี้ เป็นแคมเปญที่สตาร์บัคส์เคยมีการออกใช้ในทางการตลาดมาแล้ว การออกแคมเปญครั้งนี้จึงเป็นการหวนคืนสู่สังเวียนการตลาดของรูปแบบนี้อีกครั้ง โดยจำกัดขอบเขตการจัดแคมเปญในสหรัฐฯ และแคนาดา

ประการที่สี่ เพื่อใช้โอกาสนี้ในการปรับปรุงรสชาติ สตาร์บัคส์ได้เชิญลูกค้ากลุ่มตัวอย่างมาทำการทดสอบรสชาติของเครื่องดื่มแบบซัมเมอร์ของสตาร์บัคส์ ที่มีส่วนผสมหลักเป็นมอคค่า โคโคนัต แฟรปปูชิโน่ และการนำเอาส่วนผสมคลาสสิกอย่างคาราเมล แฟรปปูชิโน่ และสตรอเบอร์รี แอนด์ ครีม แฟรปปูชิโน่ มาใช้เป็นตัวกระตุ้นด้วยราคาขายเพียงครึ่งเดียวดังกล่าว

นอกจากนั้น ลูกค้าตัวแทนกลุ่มทดสอบนี้ได้มีโอกาสในการจัดส่วนผสมของเครื่องดื่มแฟรปปูชิโน่ของตนเองที่แตกต่างออกไปจากสูตรมาตรฐานของสตาร์บัคส์ ซึ่งวิธีการนี้เป็นวิธีที่สตาร์บัคส์เคยใช้มาก่อนหน้านี้กับเครื่องดื่มกลุ่มเอสเปรสโซ่ ที่กลุ่มทดสอบสามารถเลือกส่วนผสมของนมที่หลากหลายได้ และยังสามารถกำหนดระดับความเข้มข้นของกาแฟ รวมทั้งไซรัปหรือครีมส่วนบนสุดของเครื่องดื่มได้ตามที่ตนชอบและต้องการ