Search Resources
 
Login เข้าระบบ
สมัครสมาชิกฟรี
ลืมรหัสผ่าน
 
  homenewsmagazinecolumnistbooks & ideaphoto galleriesresources50 managermanager 100join us  
 
 


bulletToday's News
bullet Cover Story
bullet New & Trend

bullet Indochina Vision
bullet2 GMS in Law
bullet2 Mekhong Stream

bullet Special Report

bullet World Monitor
bullet2 on globalization

bullet Beyond Green
bullet2 Eco Life
bullet2 Think Urban
bullet2 Green Mirror
bullet2 Green Mind
bullet2 Green Side
bullet2 Green Enterprise

bullet Entrepreneurship
bullet2 SMEs
bullet2 An Oak by the window
bullet2 IT
bullet2 Marketing Click
bullet2 Money
bullet2 Entrepreneur
bullet2 C-through CG
bullet2 Environment
bullet2 Investment
bullet2 Marketing
bullet2 Corporate Innovation
bullet2 Strategising Development
bullet2 Trading Edge
bullet2 iTech 360°
bullet2 AEC Focus

bullet Manager Leisure
bullet2 Life
bullet2 Order by Jude

bullet The Last page


ตีพิมพ์ใน นิตยสารผู้จัดการ
ฉบับ มีนาคม 2530








 
นิตยสารผู้จัดการ มีนาคม 2530
อมร วงษ์สุรวัฒน์ - สมภพ สุสังกรกาญจน์ คนที่กำลังจะเริ่มต้นและจากลา             
โดย ไพโรจน์ จันทรนิมิ
 

   
related stories

บทบาทของหอการค้าต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ วันวานที่ผ่านมาได้แต่ ฝัน..ฝัน..หวาน..
สี่นคร...ก้าวเดินที่ทรงพลัง

   
www resources

โฮมเพจ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

   
search resources

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
Commercial and business
อมร วงษ์สุรวัฒน์
สมภพ สุสังกรกาญจน์




อมร วงษ์สุรวัฒน์ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขโคราชโดยกำเนิดอายุนับถึงปัจจุบัน 52 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เจ้าตัวบอกกับใคร ๆ ว่ากำลังฟิตเปรี้ยะการศึกษาชั้นประถมจบที่ โรงเรียนประสาทวิทย์วัฒนาชั้นมัธยมที่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัยและโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา โดยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของ จเร จุฑารัตนกุล อธิบดีกรมพาณิชย์สัมพันธ์คนปัจจุบัน

อมร เป็นคนในตระกูล "วงษ์สุรวัฒน์" ที่เรียนไม่สูงนักการศึกษาสูงสุดแค่ ประกาศนียบัตรชั้นสูง ของโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์แต่จากประสบการณ์การทำงานและดำเนินธุรกิจที่เชี่ยวชาญทำให้เขาเป็นพ่อค้ารุ่นแรกที่ผ่านการอบรม ประกาศนียบัตรการบริหารของนิดา-ไอเม็ท

นอกจากนี้ยังเป็นพ่อค้าคนเดียวที่รับเลือกให้ดูงานและอบรมการพัฒนาหอการค้าของหอการค้าสหรัฐอเมริการ่วมกับมหาวิทยาลัยโอคลาโฮมา จนเดี๋ยวนี้อมรกลายเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองไทยไปแล้วหลายแห่ง

อมร ประกอบอาชีพปั้นน้ำให้เป็นเงินโดยเป็นเจ้าของและผู้จัดการโรงน้ำแข็งดำรงไทย ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกน้ำแข็งหลอด "ดิท" น้ำแข็งหลอดอนามัยแห่งแรกของภาคอีสาน กิจการโรงน้ำแข็งของเขาจัดอยู่ในอันดับแนวหน้าของภาค นอกจากจะเป็นผู้นำเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ แล้ว การจัดการภายในก็นำเอารูปแบบการบริหารสมัยใหม่มาเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ทีมงานไม่หยุดหย่อน

ด้วยความกระตือรือร้นดังกล่าว เกือบชักนำให้ชีวิตของเขาเดินทางไปพบปะพญามัจจุราชก่อนวัยอันสมควรเสียแล้ว เมื่อมือปืนเหี้ยมบุกเข้าสังหารแบบประชิดตัวในปี 2524 สภาพในครั้งนั้น ใคร ๆ ก็ลงความเห็นกันว่า เขามีโอกาสรอดไม่ถึง 1%

เบื้องหลังการตั้งใจฆาตกรรม ถึงปัจจุบันก็ยังเป็นปมที่มืดดำทั้ง ๆ ที่รู้แล้วว่าเขาถูกสั่งเก็บเพราะไปขวางเส้นทางผลประโยชน์ของคนบางคนเข้าอย่างจัง

"ย้อนกลับไปคิด ก็อดงงไม่ได้เหมือนกันว่า เรานี่รอดมาได้ยังไง" เขามักกล่าวทีเล่นทีจริงอย่างนี้เสมอๆ แต่ว่ากันว่าที่เขาผ่านมรสุมชีวิตมาได้ เป็นเพราะจิตใจที่เด็ดเดี่ยว มั่นคง ซึ่งนั่นก็คือบรรทัดฐานที่ส่งผลให้การทำงานในปัจจุบันเป็นไปอย่างรวดเร็ว เด็ดขาด แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ

อมร เข้าสู่วงการหอการค้าเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับเลือกให้เป็นประธานหอการค้า จังหวัดนครราชสีมา เป็นมาจนถึงสมัยที่สอง ซึ่งจะหมดอายุในปีนี้ หอการค้านครราชสีมาในยุคของเขาจัดได้ว่าเป็นหอที่มีความเคลื่อนไหวพัฒนาอย่างสูงจนได้รับเลือกให้เป็นหอฯ ดีเด่นถึง 2 ปีติดต่อกัน

แม้กฎข้อบังคับจะเขียนไว้ว่า บุคคลหนึ่งสามารถเป็นประธานหอฯได้เพียง 2 สมัย แต่ก็ยังมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยพร้อมที่จะสนับสนุนให้เขาดำรงตำแหน่งต่อ ถึงกับบอกว่ากฎมันแก้ได้ ด้วยการยกมือโหวต ทว่าอมรกลับบอกว่า "เฮ้ยไม่ได้คนเก่งยังมีอีกแยะ"

เขาเป็นคนรักการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ อ่านหนังสือมากมายหลายประเภท และจากข้อมูลหนังสือต่างๆ ทำให้เกิดไอเดียที่จะพัฒนาเศรษฐกิจธุรกิจไม่หยุดหย่อน โครงการล่าสุดที่คิดและเป็นที่กล่าวขวัญกันมากก็คือ "โครงการเถ้าแก่น้อย"

เขาบอกว่า เมืองไทยควรฝากฝังชะตากรรมและความอยู่รอดไว้กับคนหนุ่มสาว เถ้าแก่น้อยของเขาในวันนี้คือนักธุรกิจที่เปี่ยมด้วยความสามารถ และคุณธรรมในวันข้างหน้า โครงการนี้แม้แต่ไอเอฟซีที.เองก็ยังสนใจ

ยังมีโครงการที่น่าสนใจอีกมาก จนลูกน้องที่หอการค้าเคยแซวอยู่บ่อย ๆ ว่า "คุณอมรนี่เมื่อไรจะหยุดคิดเสียที" และก็ด้วยความเป็นเจ้าโครงการ ทำให้ใคร ๆ ในโคราชอดไม่ได้ที่จะเรียกเขาว่า

ท่านอมร สุนทรเวช

ถึงแม้รูปร่างค่อนข้างจะออกไปในทางอุ้ยอ้าย แต่เมื่อถึงเวลาลงมือทำงานแทบจะเป็นคนละคน อมรเป็นคนที่ทำงานรวดเร็วและละเอียดรอบคอบไม่น้อย บ่อยครั้งหลังเลิกงานอดไม่ได้ที่จะต้องเสวนากับลูกน้องเพื่อตรวจสอบงานว่าดำเนินไปอย่างไรบ้างและด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้

ชื่อของจึงถูกเลือกเป็นอันดับแรกให้เข้ารับตำแหน่ง เลขาธิการสำนักหอการค้าแห่งประเทศ งานที่ใคร ๆ กำลังพากันจับตาว่าก้าวย่างในอนาคตจะเป็นไปอย่างไร ซึ่งนับต่อจากนี้ไปเห็นทีเขาจะต้องเหนื่อยเป็นสองเท่า โอกาสที่จะเพลิดเพลินกับการเล่นเครื่องบินเล็กที่ชอบมาก ๆ คงลดน้อยลงไป

สมภพ สุสังกรกาญจน์ เป็นหมออีกคนที่ไม่สู้จะเอาดีในการจับเข็มฉีดยารักษาคนไข้ ทว่ามุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อเสียงตนเองให้เป็นที่ขจรขจายในแวดวงธุรกิจ

เริ่มดำเนินธุรกิจครั้งแรกภายใต้ชื่อ บริษัท รวมแพทย์ จำกัด โดยเป็นผู้แทนจำหน่ายเวชภัณฑ์และยารักษาโรคต่าง ๆ ก้าวแรกของเขาประสบกับการขาดทุนอย่างไม่เป็นท่า แต่หมอสมภพเมื่อสามสิบปีก่อน คือหมอสมภพที่อุดมไปด้วยความเชื่อมั่น ฉับไวและขยันขันแข็ง เพียงไม่กี่ปีสามารถพลิกฟื้น บริษัทรวมแพทย์จำกัด ให้มีผลกำไรอย่างงดงาม พร้อมกับการขยายตัวเองให้เข้าไปมีบทบาทในวงการเงิน ด้วยการเป็นกรรมการบริหารคนสำคัญของบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ นทีทอง จำกัด บริษัทในเครือของวัลลภ ธารวณิชกุล หรือ จอห์นนี่ มา คนที่ทางการกำลังรอคอยการกลับมาด้วยใจเสน่หา

นอกจากนี้ยังเป็นกรรมการบริหาร บริษัทชลประทานซีเมนต์ จำกัด แต่ตอนหลังต้องกระเด็นออกมาเมื่อร่วมกับ ดร. รชฎ กาญจนวณิชย์ กรรมการบริหารอีกท่านหนึ่ง ตั้งป้อมงัดข้อกับผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มเอเชียทรัสต์

แม้จะเป็นคนที่เด็ดเดี่ยวเพียงไร แต่ระยะหลังเขาค่อนข้างจะเก็บตัวและขี้เกรงใจค่อนข้างสูง เมื่อได้รับแต่งตั้งจากนายกเปรมให้เป็นวุฒิสมาชิกและเป็นผู้หนึ่งที่ติดตามนายกเปรมแบบไม่ขาดตอนซึ่งเมื่อมีปัญหาของพ่อค้าทีไร ทุกคนก็ได้แต่รอกันว่า

"เมื่อไรหมอสมภพจะแทงใจดำนายกฯ ด้วยปัญหาเหล่านั้นเสียที"

หมอสมภพเข้ารับตำแหน่งเลขาธิการหอการค้าไทยครั้งแรกเมื่อปี 2502 ซึ่งสมัยนั้นหอการค้าไทยมีเงินติดลบถึง 50,000 บาทแต่ด้วยความเป็นนักบริหารชั้นนำ หมอสมภพสามารถกอบกู้ฐานะที่ตกต่ำให้ฟูเฟื่องได้อย่างน่าชื่นชม

จากนั้นจึงเข้ารับตำแหน่งประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าตั้งแต่ปี 2523 เป็นต้นมา แต่เหมือนกับชะตาชีวิตจะเล่นตลก ปรากฏว่าผลงานของหอการค้าในระยะหลังๆ ในสายตาคนทั่วไปหาได้มีอะไรขยับเขยื้อนขึ้น

บ้างก็ว่าหมอสมภพชราภาพเกินไปที่จะเป็นผู้นำองค์กรนำด้านการค้าของประเทศ

บ้างก็ว่าเพราะผูกพันกับงานการเมืองมากเกินขอบเขต

ตื้นลึกหนาบาง อะไร ๆ ที่คลุมเคลือในหอการค้าไทย หลาย ๆ คนปรารถนาจะให้หมอสมภพตีแผ่อออกมาให้รับรู้จะ ๆ เสียที...งานเลี้ยงที่ใกล้เลิกลา ปุยนุ่นหรือหินผา มีแต่หมอคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็นผู้ลิขิต

   




 








upcoming issue

จากโต๊ะบรรณาธิการ
past issue
reader's guide


 



home | today's news | magazine | columnist | photo galleries | book & idea
resources | correspondent | advertise with us | contact us