ตาม พรบ. หอการค้า 2509 กำหนดบทบาทและภาระหน้าที่ของหอการค้าไว้ดังนี้
1. ส่งเสริมวิสาหกิจต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ทางการค้า อุตสาหกรรม เกษตรกรรม
การเงิน และเศรษฐกิจโดยทั่ว ๆ ไป เช่น รวบรวมสถิติและเผยแพร่ข่าวสารการค้า
วิจัยเกี่ยวกับการค้า การออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า การวางมาตรฐานแห่งคุณภาพสินค้า
การตรวจสอบมาตรฐานสินค้า จัดตั้งและดำเนินการสถานศึกษาที่เกี่ยวกับการค้าและเศรษฐกิจ
พิพิธภัณฑ์สินค้า การจัดงานแสดงสินค้า การเป็นอนุญาโตตุลาการชี้ข้อพิพาททางการค้า
2. รับปรึกษา และให้ข้อแนะนำสมาชิกเกี่ยวกับการค้า อุตสาหกรรม เกษตรกรรม
การเงิน และช่วยอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ
3. ให้คำปรึกษา และเสนอข้อแนะนำแก่ภาครัฐบาล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
4. ประสานงานในทางการค้าระหว่างผู้ประกอบการค้ากับทางราชการ
5. ปฏิบัติกิจการอื่นๆ ตามที่กฎหมายระบุให้เป็นหน้าที่ของหอการค้าหรือตามที่ทางราชการมอบหมาย
เป็นภาระหน้าที่ที่สวยหรูและฟุ้งขจายด้วยเกียรติยศเสียนี่กระไร ทว่าเส้นทางที่ผ่านมา
หอการค้าไทยสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงไม่กี่ประการเท่านั้น
และเรื่องที่ทำได้นั้น ถ้าไม่เป็นเรื่องพื้น ๆ เช่น ออกจุลสารเผยแพร่ข่าวสารซึ่งก็ทำออกมาอย่างกะปริบกะปรอยก็ไม่พ้นเรื่องเงินๆ
ทอง ๆ ที่ค่อนข้างจะเข้มงวดและเอาจริงเอาจังยิ่งนัก
ว่ากันว่าหอการค้าไทย โดยกลุ่มคนที่มีอำนาจจัดได้ว่าเป็นนักแสวงหาเงินตรามือฉมัง
เพราะเพียงไม่กี่ปีสามารถเพิ่มยอดเงินฝากในสถาบันการเงินต่าง ๆ ร่วมเท่าตัว
แต่ปัญหาที่ต้องจุกคอหอยเพราะเรื่องเงินก็คือว่า
เงินมากมายก่ายกองที่ได้มาแบบไม่ต้องออกแรงหรือใช้ความสามารถมากมายอะไรนั้น
ทำไม..จึงไม่เคยเจือจานไปยังกลุ่มสมาชิกที่อยู่รายรอบบ้าง
"พวกเราที่เป็นพ่อค้าต่างจังหวัดและต้องเสียค่าธรรมเนียมสมาชิกทุก
ๆ ปี อยากรู้นักว่าเงินหลายสิบล้านนั้นเขาเอาไปทำอะไรกัน เคยถามหมอสมภพก็ได้รับคำตอบที่ไม่ชัดเจนสักที
ที่เห็นกันก็คือ แม้ตัวประธานหอการค้าไทยจะสามารถเข้าถึงนายกฯ เปรมได้อย่างสนิทแนบ
ทว่าปัญหาของพ่อค้าต่างจังหวัดท่านก็ไม่เคยนำไปบอกเล่าเก้าสิบให้รู้สักครั้ง"
กรรมการหอการค้าจังหวัดท่านหนึ่งตั้งข้อสังเกต
หอการค้าได้ชื่อว่าเป็นองค์กรนำระดับประเทศ ซึ่งน่าจะเป็นพลังบันดาลก่อให้เกิดอำนาจต่อรองในการขจัดปัญหาการดำเนินธุรกิจ
หรือส่งเสริมอำนวยประโยชน์ทางธุรกิจให้แก่สมาชิกได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
มิใช่เป็นการแสวงหาผลกำไรหรือใช้บทบาทของหอฯ เกื้อหนุนประโยชน์เฉพาะเพียงคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น
"การรวมตัวกันของพ่อค้าต่างจังหวัดที่จะตั้ง "สำนักหอการค้าแห่งประเทศไทย"
ขึ้นมา คงจะช่วยทำให้คณะกรรมการหอการค้าไทยได้ทบทวนบทบาท และภาระหน้าที่ของหอการค้าไทยจริงจังเสียที
ซึ่งถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็เชื่อแน่ว่าพลังภาคเอกชนจะสูงขึ้น"
กรรมการผู้หนึ่งตั้งความหวัง
แน่นอนกรรมการชุดใหม่ที่จะเข้ามา คงไม่อยากที่จะเห็นความเป็นจริงที่เป็นเพียงแค่ความฝัน
ฝันฝันหวาน อย่างที่ผ่านมา